วอชิงตัน 3 ต.ค.- สหรัฐจะเก็บภาษีเครื่องบินแอร์บัสและเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ยุโรป หลังจากองค์การการค้าโลกตัดสินให้สหรัฐเก็บภาษีสินค้ายุโรปมูลค่า 7,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 229,510 ล้านบาท) ต่อปีในคดีที่ต่อสู้กันมานาน เสี่ยงทำให้เกิดสงครามภาษีข้ามทวีป
นายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐแถลงว่า หลังจากต่อสู้กันมานาน 15 ปีในที่สุดแล้วองค์การการค้าโลกยืนยันว่าสหรัฐมีสิทธิดำเนินมาตรการตอบโต้เรื่องที่ยุโรปให้การอุดหนุนอย่างผิดกฎหมาย สหรัฐหวังจะเจรจากับสหภาพยุโรปหรืออียู เพื่อแก้ปัญหานี้ในลักษณะที่เป็นประโยชน์กับคนทำงานชาวอเมริกัน รายการสินค้ายุโรปที่จะถูกเก็บภาษีตั้งแต่วันที่ 18 ตุลาคม เช่น เครื่องบินแอร์บัสถูกเก็บร้อยละ 10 ไวน์ฝรั่งเศส วิสกีสกอตและไอริชถูกเก็บร้อยละ 25 ชีสจากเกือบทุกประเทศในยุโรปถูกเก็บร้อยละ 25 อย่างไรก็ดี รายการสินค้าเหล่านี้ถือว่าต่ำกว่าที่สหรัฐเคยประกาศเมื่อต้นปีว่าจะเก็บภาษีกับสินค้ายุโรปมูลค่า 25,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 764,866 ล้านบาท) เพราะไม่รวมเฮลิคอปเตอร์ ชิ้นส่วนเครื่องบิน อาหารทะเล สินค้าหรู ตามที่สหรัฐเคยประกาศไว้ แหล่งข่าวเผยว่า สหรัฐจงใจไม่ใช้สิทธิเต็มพิกัดเพราะต้องการจูงใจให้อียูเข้าร่วมการเจรจา สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐระบุว่า มีอำนาจเพิ่มภาษีได้ทุกเมื่อโดยจะประเมินอย่างต่อเนื่องตามผลการเจรจากับอียู
องค์การการค้าโลกมีคำตัดสินว่า โบอิง ผู้ผลิตเครื่องบินของสหรัฐสูญเสียยอดจำหน่ายและมีปัญหาในการส่งมอบเครื่องบินขนาดใหญ่บางรุ่นคิดเป็นมูลค่า 7,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 229,510 ล้านบาท) ต่อปีเพราะรัฐบาลยุโรปหลายประเทศให้สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำแก่แอร์บัส จึงชี้ให้สหรัฐเก็บภาษีตอบโต้กับสินค้ายุโรปตามมูลค่าดังกล่าว โบอิงและแอร์บัสร้องเรียนองค์การการค้าโลกตั้งแต่ปี 2547 กล่าวหาอีกฝ่ายว่าอุดหนุนอย่างผิดกฎหมาย องค์การการค้าโลกชี้ว่าแล้วทั้งสองฝ่ายผิดจริง และจะตัดสินในต้นปีหน้าว่ายุโรปจะเก็บภาษีตอบโต้สหรัฐได้ในระดับเท่าใด.- สำนักข่าวไทย