กรุงเทพฯ, สมุทรปราการ 2 ต.ค.- “มนัญญา ไทยเศรษฐ์” รมช.เกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่บริษัทผู้ผลิต นำเข้า และจำหน่าย ตรวจสตอกสารเคมีกำจัดศัตรูพืช 3 ชนิด ได้แก่ พาราควอต คลอร์ไพริฟอส และไกลโฟเซต หลังมีการระงับใบอนุญาต และไม่มีการต่ออายุใบอนุญาตนำเข้าสารทั้ง 3 ชนิด ตั้งแต่วันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา
น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่บริษัทผู้ผลิต นำเข้า และจำหน่าย เพื่อตรวจสตอกสารเคมีกำจัดศัตรูพืช 3 ชนิด ได้แก่ พาราควอต คลอร์ไพริฟอส และไกลโฟเซต ตามที่มีการแจ้งข้อมูลกับกรมวิชาการเกษตร โดยเป็นการลงพื้นที่ตรวจต่อเนื่องจากครั้งที่แล้ว หลังกระทรวงเกษตรฯ สั่งการให้กรมวิชาการเกษตรดำเนินการระงับใบอนุญาต และไม่มีการต่ออายุใบอนุญาตนำเข้าสารดังกล่าวทั้ง 3 ชนิด ตั้งแต่วันที่ 30 มิถุนายนที่ผ่านมา เพื่อนำไปสู่การทำให้สารเคมีดังกล่าวหมดไปจากไทยภายในปี 2562
บริษัทแรกตั้งอยู่ภายในนิคมอุตสาหกรรมบางปู จ.สมุทรปราการ จดทะเบียนเป็นผู้ผลิต นำเข้า และจำหน่าย โดยมีข้อมูลว่าปี 2561 นำเข้าพาราควอต 580,000 กก. ส่วนปี 2562 ไม่มีตัวเลขแจ้งการนำเข้า เมื่อขอตรวจดูสตอกพบว่ามีสารพาราควอตอยู่ 300,000 กก. แต่บริษัทอ้างว่าซื้อมาจากบริษัทอื่น ขณะที่ปีนี้มีการนำเข้าไกลโฟเซต 500,000 กิโลกรัม เหลือสตอก 270,000 กิโลกรัม
อีกบริษัทอยู่ย่านตลิ่งชัน กทม. เป็นบริษัทในเครือเดียวกันกับบริษัทแรก จดทะเบียนเป็นผู้จำหน่ายเท่านั้น โดยใช้ตราสินค้าเดียวกัน แต่ระบุว่าไม่มีสตอกสารเคมีดังกล่าว ตัวแทนบริษัทเปิดเผยว่า ตั้งมา 50 ปี จดทะเบียนเป็นผู้จำหน่ายส่งออก เนื่องจากขณะนั้นไม่มีการตั้งโรงงานผลิต ต่อมาเปิดอีกบริษัทที่มีโรงงาน จึงจดทะเบียนทั้งผลิต นำเข้า และส่งออกจำหน่าย เนื่องจากบริษัทแรกมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จัก จึงให้บริษัทดังกล่าวเป็นผู้ส่งออก ส่วนโควตาสารเคมีเป็นปริมาณตามที่กรมวิชาการเกษตรกำหนด
น.ส.มนัญญา กล่าวว่า เป็นการตรวจตัวเลขสตอกสารเคมี และข้อสงสัยต่างๆ ว่าทำไมบริษัทส่งออกจึงไม่มีสตอก แต่บริษัทไม่ส่งออกกลับมีสตอก ซึ่งตัวแทนบริษัทได้ชี้แจงแล้ว
ขณะที่พบว่ามีการส่งออกสารเคมีดังกล่าวไปต่างประเทศ ทั้งที่สารเคมีทั้ง 3 ชนิด ได้รับการยกเว้นภาษีนำเข้า เนื่องจากเห็นว่าต้องการให้เกษตรกรนำมาใช้ประโยชน์ และช่วยลดต้นทุนการผลิต ขณะที่การส่งออกก็ไม่เสียภาษี เห็นว่าผลประโยชน์ไม่ตกแก้เกษตรกร จึงอาจเสนอแนวทางเก็บภาษีแก่ผู่ส่งออกสารเคมีดังกล่าว และนำเงินภาษีส่วนนี้มาบริการจัดการให้เกิดประโยชน์กับเกษตรกร อาทิ โครงการเกษตรอินทรีย์
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลการลงพื้นมี่ตรวจสอบทั้งหมดจะนำเข้าไปพิจารณาในการประชุมวันจันทร์หน้า ยืนยันว่าจะเดินหน้าเพื่อนำไปสู่การพิจารณาแนวทางในการยกเลิกการใช้สารเคมีทั้ง 3 ชนิดโดยเร็วที่สุด.-สำนักข่าวไทย