191 จับขบวนการผลิตและจำหน่ายอาวุธปืนผ่านทาง Social

กรุงเทพฯ 2 ต.ค.- 191 จับกุมขบวนการผลิตและจำหน่ายอาวุธปืนผ่านทาง Social ยึดอาวุธปืนและกระสุนปืนได้จำนวนมาก


พลตำรวจโท ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พร้อมด้วย พลตำรวจตรี สำราญ นวลมา ผู้บังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ 191 แถลงข่าวจับกุม นายโชติภัทร์ อายุ 34 ปี โดยจับกุมได้ที่หน้าร้านขนส่งเอกชนแห่งหนึ่ง ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และนำไปขยายผลต่อเนื่องในจังหวัดสระบุรี โดยของกลางที่ยึดมาได้เป็นอาวุธปืนไทยประดิษฐ์จำนวน 42 กระบอก,โม่ปืน,ลำกล้องปืน,อุปกรณ์ต่างๆเกี่ยวกับอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนอีกเกือบ 1,000 นัด

โดยตำรวจสายตรวจ 1 สืบทราบว่ามีการขายอาวุธผ่านทางโซเชียลออนไลน์และผู้ต้องหามีหน้าที่จัดส่งอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ โดยจะมีการนำไปส่งยังขนส่งเอกชนแห่งหนึ่ง จึงวางแผนเข้าจับกุม


จากการสอบสวนนายโชติภัทร์ รับสารภาพว่า ได้จัดส่งอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ที่ขนส่งเอกชนแห่งหนึ่ง  โดยได้สั่งอาวุธปืนจากโรงงานผลิตเพื่อมาประกอบและจัดส่ง ให้กับผู้สั่งซื้อผ่านทางไปรษณีย์ โดยราคาของอาวุธดังกล่าวจะมีขายตั้งแต่5,000-12,000 บาท ซึ่งเจ้าหน้าที่จะมีการขยายผลจับกุมโรงงานผลิตและผู้ที่มีการสั่งซื้อผ่านทาง Social ต่อไป

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหามีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต,พาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนติดตัวไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต,ทำประกอบ เปลี่ยนลักษณะ หรือจำหน่ายซึ่งอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนสำหรับการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต

ส่วนอีกคดี เจ้าหน้าที่ทลายเครือข่ายจำหน่ายเครื่องกระสุนปืนออนไลน์ ส่งผ่านไปรษณีย์เอกชน โดยเปิดFacebook ใช้ชื่อว่า”มาร์คัส จัสติน ” พฤติกรรมคือจำหน่ายเครื่องกระสุนปืนให้กับลูกค้าผ่านทางออนไลน์  โดยส่งให้กับลูกค้าผ่านทางไปรษณีย์เอกชนเช่นกัน


โดยเจ้าหหน้าที่ได้รับแจ้งเบาะแสจากบริษัทขนส่งเอกชน จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาคือนายกัณฑ์เอนก เหมือนวงศ์ อายุ 28 ปี เจ้าของเฟสดังกล่าว บริเวณหน้าร้านขนส่งเอกชนในจังหวัดปทุมธานี พร้อมของกลางเครื่องกระสุนปืนจำนวนมาก

จากนั้นได้ขยายผลจับกุมผู้ต้องหาที่สั่งซื้อกระสุนปืน จากนายกัณฑ์เอนกได้อีก 4 รายคือนายปราโมทย์อายุ 19 ปี นายจิรวัฒน์ อายุ 37 ปี นางสาวชุติมา อายุ 31 ปี และนายแกรนด์ อายุ 33 ปี พร้อมยึดปืนของกลางอีก 5 กระบอก

นอกจากนี้ ยังมีการระดมตรวจค้นพื้นที่ต่างๆรวม กว่า 30 จุด ตามที่ได้รับการร้องเรียนผ่าน สายด่วน 191 ว่ามีการใช้และพกพาอาวุธปืน  โดยไม่ได้รับอนุญาต สามารถตรวจยึดปืนได้อีก 10 กระบอก รวมของกลางที่ทางเจ้าหน้าที่ยึดมาได้ทั้งหมด เป็นปืนสั้นขนาดต่างๆ จำนวน 57 กระบอก,เครื่องกระสุนปืน 1362 นัด,โม่ปืน 103 อัน และลำกล้อง 150 อัน .-สำนักข่าวไทย

 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง