กรุงเทพฯ 27 ก.ย. – อธิบดีกรมฝนหลวงฯ เผยผลตรวจสอบสาเหตุเครื่องบินฝนหลวงตกจังหวัดกาญจนบุรี เบื้องต้นคาดว่าเกิดจากสภาพอากาศไม่ดี แต่คณะกรรมการนิรภัยการบินจะตรวจสอบข้อมูลโดยละเอียดครอบคลุมทุกด้านต่อไป ยืนยันดูแลด้านสวัสดิการแก่ครอบครัวของนักบินทั้ง 2 คนอย่างเต็มที่
นายสุรสีห์ กิตติมณฑล อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร พร้อมด้วยคณะกรรมการสอบสวนอากาศยานอุบัติเหตุด้านนิรภัยการบิน เปิดเผยถึงกรณีเครื่องบินฝนหลวงประสบเหตุตก ต.ลุ่มสุ่ม อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ว่า เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2562 เวลา 09.00 น. เครื่องบินแบบ Cessna Caravan หมายเลข 1917 ทำการบินในภารกิจฝึกบินเปลี่ยนแบบให้นักบินใหม่ โดยมี ร.อ. ตฤณ อัมระนันท์ หัวหน้านักบิน 1 ย. (อากาศยาน 1 เครื่องยนต์) ทำหน้าที่ครูการบินและนายสุขสันต์ จงเสถียรธรรม นักบินเป็นผู้รับการฝึกบินที่สนามบินกาญจนบุรี ค่ายสุรสีห์ จังหวัดกาญจนบุรี หลังจากฝึกบินขึ้น-ลงในวงจรเสร็จแล้ว นักบินได้ขอออกไปฝึกบินท่าทางการบิน (Air Work) ด้านฝั่งตะวันตกของสนามบิน โดยขอบินแบบภายใต้การมองเห็นสภาพภูมิประเทศ (VISUAL TERRAN)
หลังจากนั้นเวลาประมาณ 10.20 น. เจ้าพนักงานควบคุมจราจรทางอากาศได้ติดต่อกับเครื่องบินเกษตร 1917 เพื่อขอทราบตำแหน่งเนื่องจากจะมีอากาศยานผ่านในพื้นที่การฝึก แต่ไม่สามารถติดต่อได้ เจ้าพนักงานควบคุมจราจรทางอากาศพยายามติดต่อกับเครื่องบินลำดังกล่าวเป็นระยะ ๆ แต่ไม่มีการตอบกลับ จนกระทั่งได้รับแจ้งจากมณฑลทหารบกที่ 17 ว่า มีอากาศยานตกในพื้นที่ เจ้าพนักงานควบคุมจราจรทางอากาศจึงแจ้งกองค้นหาและช่วยชีวิต กองทัพอากาศให้ออกค้นหา พร้อมกันนั้นได้รับแจ้งจากทางพื้นที่ว่า พบเครื่องบินที่ประสบอุบัติเหตุที่ตำบลลุ่มสุ่ม อำเภอไทรโยค โดยนักบินทั้ง 2 นายเสียชีวิตแล้ว ชุดปฏิบัติการฝนหลวงกาญจนบุรีจึงได้แจ้งผู้บังคับบัญชาทราบ
คณะกรรมการสอบสวนอากาศยานอุบัติเหตุด้านนิรภัยการบินได้เดินทางไปตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้นคาดว่าสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้ เนื่องจากสภาพอากาศ ซึ่งในวันนั้นมีเมฆมาก ทั้งนี้ คณะกรรมการฯ ยังคงตรวจสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติมให้ครอบคลุมทุกด้าน เพื่อให้ทราบสาเหตุที่แท้จริงต่อไป
นายสุรสีห์ กล่าวต่อว่า นักบินทั้ง 2 นายได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานน้ำหลวงอาบศพให้แก่ร้อยเอกตฤณ และโปรดเกล้าฯ ให้ผู้แทนพระองค์เชิญพวงมาลาหลวงส่วนพระองค์และพวงมาลาหลวงของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีไปวางที่หน้าหีบศพของร้อยเอกตฤณ และนายสุขสันต์ รวมถึงรับศพไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ตลอดทั้งงาน อีกทั้งยังได้รับธงชาติประกอบเกียรติยศศพ เนื่องจากปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มความสามารถเพื่อภารกิจที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติในการปฏิบัติการฝนหลวงด้วยความเรียบร้อยตลอดมาจนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต
ทั้งนี้ ในการดูแลและสิทธิ์ที่นักบินจะได้รับในการเสียชีวิตในการปฏิบัติหน้าที่ตามระเบียบราชการนั้น ร้อยเอกตฤณ อัมระนันท์ นักบิน ท4 จะได้รับบำเหน็จตกทอดสำหรับทายาท 1,882,520 บาท เงินค่าช่วยเหลือพิเศษ (ค่าทำศพ) 222,930 บาท เงินสหกรณ์ออมทรัพย์ (สงเคราะห์) 100,000 บาท กองทุนฝนหลวงฯ 100,000 บาท กองทุนสวัสดิการกรมฯ 5,000 บาท รวมทั้งสิ้น 2,410,450 บาท ส่วนนายสุขสันต์ จงเสถียรธรรม นักบิน จะได้รับสิทธิ์จากกองทุนทดแทนจากการประสบอันตราย 1,680,000 บาท เงินค่าช่วยเหลือพิเศษ (ค่าทำศพ) 33,000 บาท เงินจากกองทุนฝนหลวง 100,000 บาท และเงินจากกองทุนสวัสดิการกรมฯ 5,000 บาท รวมทั้งสิ้น 1,818,000 บาท.-สำนักข่าวไทย