บสย.ออก 2 มาตรการเยียวยาเอสเอ็มอีน้ำท่วม

กรุงเทพฯ 26 ก.ย. – บสย.ออก 2 มาตรการเยียวยาเอสเอ็มอีประสบอุทกภัย พักชำระค่าธรรมเนียมค้ำประกัน 6 เดือนสำหรับลูกค้าปัจจุบัน และพักชำระการผ่อนชำระหนี้ไม่เกิน 6


นายรักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เปิดเผยว่า บสย.ได้ออก 2 มาตรการในการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติพายุโซนร้อนโพดุล โดยมีพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบรวม 32 จังหวัดจากรายงานของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.)  


ทั้งนี้ เพื่อให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้ประกอบการเอสเอ็มอี บสย.จึงได้ออก 2 มาตรการเพื่อให้ความช่วยเหลือ ประกอบด้วย 1. มาตรการพักการชำระค่าธรรมเนียมการค้ำประกันสินเชื่อเป็นระยะเวลา 6 เดือน สำหรับลูกค้าเอสเอ็มอีปัจจุบันของ บสย. ที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติ โดยเป็นลูกค้าเอสเอ็มอีที่ครบกำหนดชำระค่าธรรมเนียมภายในวันที่ 31 มีนาคม 2563 ซึ่งสถาบันการเงินจะเป็นผู้ตรวจสอบความเสียหายและผลกระทบของลูกค้าเพื่อยืนยันเข้าร่วมมาตรการ และ 2. มาตรการให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ของ บสย. โดยพักชำระการผ่อนชำระหนี้เป็นระยะเวลาไม่เกิน 6 เดือน โดยเป็นลูกหนี้ของ บสย. ที่ครบกำหนดชำระหนี้ภายในวันที่ 31 ตุลาคม 2562 ซึ่งลูกหนี้ บสย. สามารถยื่นคำขอผ่านสำนักงานใหญ่หรือสำนักงานเขตของ บสย. ทั้ง 10 แห่งเพื่อเข้าร่วมมาตรการ

ส่วนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย และได้รับการอนุมัติสินเชื่อจากสถาบันการเงินเพื่อเสริมสภาพคล่อง รวมทั้งได้รับสินเชื่อตามมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีของสถาบันการเงินต่าง ๆ สามารถเข้าร่วมโครงการค้ำประกันสินเชื่อ PGS8 ซึ่งฟรีค่าธรรมเนียม 2 ปีแรกได้เช่นกัน

“ขณะนี้ บสย.เร่งสำรวจความเสียหายของผู้ประกอบการที่เป็นลูกค้า บสย. เพื่อสรุปและประเมินความเสียหายพร้อมให้ความช่วยเหลือทันที จึงได้ออก 2 มาตรการนี้ โดยเริ่มมีผลอย่างเป็นทางการทันที พร้อมลงพื้นที่เพื่อพบปะผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ปัจจุบัน บสย.มีลูกค้าในพื้นที่ 32 จังหวัดรวมกว่า 80,000 ราย คิดเป็นยอดค้ำประกันสินเชื่อกว่า 90,000 ล้านบาท บสย.ขอส่งกำลังใจให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในครั้งนี้” นายรักษ์ กล่าว 


อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้สำนักงานเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 1 บสย.ได้ลงพื้นที่มอบน้ำดื่มจำนวน 100 แพ็ค ให้กับผู้ประสบภัยจากพายุโพดุล ในเขต อ.คำเขื่อนแก้ว จ.ยโสธร ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบน้ำท่วมสูง รวมถึงพื้นที่อื่น ๆ อีกด้วย.-สำนักข่าวไทย   

           

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง