ก.คลัง 26 ก.ย. – คลังเผยส่งออก 8 เดือนแรก ติดลบร้อยละ 2.2 เตรียมปรับเป้าจีดีพีใหม่เดือนหน้า
นายวุฒิพงศ์ จิตตั้งสกุล รองผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวว่า ความเสียหายของสถานการณ์น้ำท่วมหลายพื้นที่จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือนั้น กำลังประสานกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อขอข้อมูลและตัวเลขที่ชัดเจนก่อนนำมาประกอบการพิจารณาการปรับลดประมาณการณ์เศรษฐกิจปี 2562 ใหม่ภายในเดือนหน้า ซึ่งเศรษฐกิจโลกชะลอตัวกระทบภาคการส่งออกของไทย โดยตัวเลขการส่งออก 8 เดือนแรกของปี ติดลบร้อยละ 2.2 จากเป้าทั้งปี 2562 ที่วางไว้ลบร้อยละ 0.9 หากจะทำให้ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ช่วงที่เหลือของปีการส่งออกต้องอยู่ที่ร้อยละ 0 เท่านั้น ไม่ติดลบไปมากกว่านี้
สำหรับภาวะเศรษฐกิจการคลังเดือนสิงหาคมปี 2562 พบว่า การใช้จ่ายมีสัญญาณชะลอตัวจากเดือนก่อนหน้า โดยเฉพาะการส่งออกสินค้าลบร้อยละ 4.0 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผลจากการชะลอตัวของสินค้าส่งออกในหมวดของสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และหมวดยานยนต์ ขณะที่กลุ่มผักผลไม้สดแช่แข็งและแปรรูป น้ำตาลทราย ไก่สดแช่แข็งและแปรรูป อัญมณีและเครื่องดับ รถจักรยานยนต์ ยังคงขยายตัวได้ และตลาดส่งออกสำคัญที่ขยายตัว ได้แก่ สหรัฐ ทวีปออสเตรเลีย และตะวันออกกลาง สำหรับมูลค่าการนำเข้าสินค้าในรูปเงินสกุลดอลลาร์ลบร้อยละ 14.6 ต่อปี ส่งผลให้ดุลการค้าเดือนสิงหาคม 2562 เกินดุลที่มูลค่า 2,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ส่วนการบริโภคภาคเอกชนมีสัญญาณชะลอตัวเล็กน้อย สะท้อนจากปริมาณการนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภคกลับไปติดลบร้อยละ 1.6 ต่อปี เช่นเดียวกับปริมาณจำหน่ายรถยนต์นั่งติดลบร้อยละ 3.3 ต่อปี ส่วนยอดการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ ติดลบร้อยละ 5.3 ต่อปี อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาเฉพาะยอดการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มที่จัดเก็บจากการใช้จ่ายภายในประเทศพบว่าขยายตัวร้อยละ 4.1 ต่อปี ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคปรับตัวลดลง เนื่องจากผู้บริโภคมีความกังวลเกี่ยวกับการฟื้นตัวช้าของเศรษฐกิจประกอบกับการแข็งค่าของเงินบาท ซึ่งอาจกระทบต่อการส่งออกและความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก
ด้านการลงทุนภาคเอกชนส่งสัญญาณชะลอตัว การลงทุนหมวดเครื่องมือเครื่องจักรสะท้อนจากปริมาณนำเข้าสินค้าทุนกลับมาติดลบร้อยละ 9.4 ต่อปี ขณะที่ปริมาณจำหน่ายรถยนต์เชิงพาณิชย์ติดลบร้อยละ 9.2 ต่อปี ส่วนการลงทุนในหมวดก่อสร้างส่งสัญญาณชะลอตัวตามยอดการจัดเก็บภาษีการทำธุรกรรมอสังหาริมทรัพย์ติดลบร้อยละ 9.2 ต่อปี เช่นเดียวกับปริมาณการจำหน่ายปูนซีเมนต์ยังคงติดลบร้อยละ 12.9 ต่อปี ส่วนดัชนีราคาวัสดุก่อสร้างติดลบร้อยละ 2.3 ต่อปี การชะลอตัวส่วนหนึ่งเกิดจากการปรับตัวของนักลงทุนที่ชะลอการลงทุน เนื่องจากไม่มั่นใจเกี่ยวกับสถานการณ์เศรษฐกิจ
ส่วนภาคการท่องเที่ยว พบว่า มีการปรับตัวดีขึ้นในภาคการท่องเที่ยวจากต่างประเทศที่กลับมาขยายตัวสูงสุดในรอบ 8 เดือน โดยสะท้อนจากนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่เดินทางเข้าประเทศไทยมีจำนวน 3.47 ล้านคน ขยายตัวร้อยละ 7.4 ต่อปี โดยนักท่องเที่ยวชาวจีนขยายตัวในอัตราเร่งถึงร้อยละ 18.9 ต่อปี เช่นเดียวกันกับนักท่องเที่ยวชาวอินเดียที่ขยายตัวถึงร้อยละ 32.4 ต่อปี ส่วนนักท่องเที่ยวประเทศอื่นยังคงขยายตัวได้ดี อาทิ นักท่องเที่ยวชาวลาว ญี่ปุ่น และมาเลเซีย และสร้างรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติมูลค่ารวม 169,772 ล้านบาท คิดเป็นการขยายตัวร้อยละ 6.2 ต่อปี เช่นเดียวกับภาคการเกษตรสะท้อนจากดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตรที่ขยายตัวร้อยละ 0.8 ต่อปี ขณะที่ภาคอุตสาหกรรมสะท้อนจากดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมติดลบร้อยละ 4.4 ต่อปี เช่นเดียวกับดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ระดับ 92.8 ปรับตัวลดลงจากเดือนก่อนหน้า การปรับลดลงดังกล่าวมีปัจจัยมาจากผู้ประกอบการมีความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การค้าระหว่างประเทศอันเนื่องมาจากการแข็งค่าของเงินบาท และความกังวลจากกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ลดลงจากปัญหาอุทกภัย อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการยังมีความเชื่อมั่นในประสิทธิภาพของมาตรกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลส่งผลให้ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมคาดการณ์ล่วงหน้า 3 เดือนปรับตัวสูงขึ้น
ส่วนเสถียรภาพเศรษฐกิจยังอยู่ในเกณฑ์ดี สะท้อนจากอัตราเงินเฟ้อทั้วไปอยู่ที่ร้อยละ 4 ต่อปี จากการเพิ่มขึ้นของราคาอาหารสด ขณะที่ราคาสินค้ากลุ่มพลังงานลดลง และอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ร้อยละ 0.4 ต่อปี สำหรับอัตราการว่างงานอยู่ที่ ร้อยละ 1.0 ของกำลังแรงงาน สัดส่วนหนี้สาธารณะต่อจีดีพี ณ สิ้นเดือนกรกฎาคม 2562 อยู่ที่ร้อยละ 41.5 ต่อจีดีพี ซึ่งอยู่ในกรอบวินัยการเงินการคลังที่ตั้งไว้ไม่เกินร้อยละ 60 ต่อจีดีพี สำหรับเสถียรภาพภายนอกยังอยู่ในระดับมั่นคง และสามารถรองรับความเสี่ยงจากความผันผวนของเศรษฐกิจโลกได้ สะท้อนจากทุนสำรองระหว่างประเทศ ณ สิ้นเดือนสิงหาคม 2562 อยู่ที่ในระดับสูงที่ 220.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ อย่างไรก็ดี ยังคงต้องติดตามสถานการณ์ความผันผวนของเศรษฐกิจโลกอย่างใกล้ชิดต่อไป.- สำนักข่าวไทย