ขอนแก่น 24 ก.ย.-ศาลจังหวัดขอนแก่นไม่อนุญาตให้ประกันตัวนายนวัธ เตาะเจริญสุข ส.ส.ขอนแก่น ที่ถูกพิพากษาประหารชีวิต ฐานจ้างวานฆ่าอดีตปลัด อบจ.ขอนแก่น ด้านครอบครัวพอใจคำตัดสินศาล หลังคดียืดเยื้อมานานถึง 6 ปี
เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ศาลจังหวัดขอนแก่น (ศาลชั้นต้น) นัดอ่านคำพิพากษาคดีนายนวัธ เตาะเจริญสุข ส.ส.ขอนแก่น เขต 7 พรรคเพื่อไทย ถูกกล่าวหาจ้างวานฆ่านายสุชาติ โคตรทุม อดีตปลัด อบจ.ขอนแก่น เหตุเกิดช่วงเดือนพฤษภาคม 2556 โดยคนร้ายได้เข้าไปยิงนายสุชาติเสียชีวิตหน้าบ้านพักในเขตเทศบาลนครขอนแก่น จากนั้นทั้งหมดถูกติดตามจับกุมตัวได้
19 มกราคม 2559 ศาลอุทธรณ์ภาค 4 ตัดสินประหารชีวิตพันตำรวจโทสมจิตร แก้วพรม อดีตรองผู้กำกับการ สภ.หนองเรือ จังหวัดขอนแก่น ส่วนจำเลยอีก 4 คน คือ ดาบตำรวจวีระศักดิ์ ชำนาญพล, นายประพันธ์ ศรีพิลัย, นายบุญช่วย จูงกลาง และนายปิยะพงษ์ มีกำบัง ให้การเป็นประโยชน์ ลดโทษเป็นจำคุกตลอดชีวิต
จากนั้นตำรวจขยายผลพบว่านายนวัธเป็นผู้จ้างวานฆ่า ศาลพิเคราะห์พยานแวดล้อมทั้งบุคคลและหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ เช่น ข้อมูลการใช้มือถือ ประกอบกับคำให้การของจำเลย ไม่สามารถหักล้างพยานโจทก์ได้ ทำให้ศาลเชื่อโดยปราศจากข้อสงสัยว่าจำเลยได้กระทำความผิดจริง พิพากษาประหารชีวิตนายนวัธ และสั่งให้จ่ายค่าปลงศพ 300,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี นับตั้งแต่วันเกิดเหตุ คือ 3 พฤษภาคม 2556
ตลอดช่วงบ่ายที่ผ่านมา ทีมทนายนำหลักทรัพย์ 8 ล้านบาท ยื่นต่อศาลจังหวัดขอนแก่น เพื่อขอประกันตัวนายนวัธ แต่ศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัว พร้อมมีคำสั่งให้ส่งตัวนายนวัธเข้ารับโทษที่ทัณฑสถานบำบัดพิเศษทันที ซึ่งจังหวะที่ขบวนรถคุมขังเคลื่อนออกจากศาลจังหวัดขอนแก่นนั้น นายนวัธได้ก้มตัวไม่ให้สื่อมวลชนบันทึกภาพ
ภายหลังศาลมีคำตัดสิน นางลำดวน โคตรทุม ภรรยานายสุชาติ และนางสาวฐิติญานี โคตรทุม บุตรสาว ได้เปิดบ้านแถลงข่าวต่อสื่อ โดยนางสาวฐิติญานีบอกว่าพอใจคำพิพากษาของศาล และทันทีที่ออกมาจากศาลจังหวัดขอนแก่น ครอบครัวได้ไปที่วัดศรีจันทร์ สถานที่เก็บอัฐิพ่อ เพื่อจุดธูปบอกกล่าวว่าคนร้ายได้รับโทษสูงสุดแล้ว ปะป๊าไม่ต้องกังวลแล้ว หลังจากนี้จะปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม เพราะคำพิพากษาวันนี้เพิ่งเป็นคำตัดสินของศาลชั้นต้น จำเลยยังมีโอกาสต่อสู้คดี แต่ย้ำว่าวันนี้เป็นวันดีอีก 1 วันในรอบ 6 ปี ที่ศาลเมตตาให้ผู้กระทำผิดได้รับโทษ สำหรับนายนวัธเพิ่งเป็นข่าวดัง หลังได้ก่อเหตุตบศีรษะนายยุทธพงษ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเดียวกัน เมื่อไม่นานมานี้
นอกจากความเคลื่อนไหวครอบครัวเหยื่อหลังศาลมีคำพิพากษา ที่พรรคเพื่อไทยมีความเคลื่อนไหวเช่นกัน โดยนายสุทิน คลังแสง ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน และนายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานที่ปรึกษาพรรคเพื่อไทย ประสานเสียงยืนยันสถานภาพของนายนวัธว่าในฐานะ ส.ส. ยังคงทำงานได้ตามปกติ เพราะคดียังไม่ถึงที่สุด แต่หากนายนวัธไม่ใช้เอกสิทธิ์คุ้มครอง หรือศาลไม่ให้ประกันตัว ก็กระทบกับนายนวัธเพียงคนเดียว เพราะเป็นเพียง 1 เสียงของฝ่ายค้านเท่านั้น ยอมรับว่าช่วงที่มีการพิจารณาคดีระหว่างปิดสมัยการประชุม อาจจะกระทบกับนายนวัธที่ไม่มีเอกสิทธิ์คุ้มครองได้ ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทยจะได้เตรียมการรองรับทุกกรณีที่จะเกิดขึ้น
นายสรศักดิ์ เพียรเวช เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงปมสถานภาพนายนวัธว่า ตามหลักกฎหมาย เมื่อนายนวัธต้องเข้าไปอยู่ในห้องขัง ทำให้สถานภาพความเป็น ส.ส. ของนายนวัธสิ้นสุดลงทันที เนื่องจากเข้าลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 ประกอบมาตรา 98 (6) ต้องคำพิพากษาให้จำคุก และถูกคุมขังอยู่โดยหมายของศาล
แต่นายชูศักดิ์ ศิรินิล ในฐานะประธานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย บอกว่าเห็นแย้งกับเลขาธิการสภาฯ เนื่องจากมาตรา 98 (6) เป็นคุณสมบัติผู้สมัคร ส.ส. คนโดนจำคุกและถูกคุมขังอยู่มาสมัครไม่ได้อยู่แล้ว เมื่อเอาวงเล็บนี้มาใช้กับการสิ้นสุดสมาชิกภาพ ส.ส. ตามมาตรา 101 ต้องตีความว่ามีคำพิพากษาถึงที่สุด และถูกคุมขังอยู่โดยคำพิพากษาถึงที่สุดนั้น เทียบเคียงกับมาตรา 101 (13) ยังเขียนว่าต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก แม้จะมีการรอการลงโทษ
ด้านนายชัยเกษม นิติสิริ แกนนำพรรคเพื่อไทย ระบุว่า คุณสมบัติของการลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. คือจะต้องไม่ถูกจำคุกหรือถูกคุมขัง ตามคำพิพากษาของศาล แต่กรณีของนายนวัธเป็น ส.ส. แล้ว และศาลมีคำพิพากษา แต่ถือว่ายังไม่ถึงที่สิ้นสุด จึงไม่เข้าเงื่อนไขขาดสมาชิกภาพการเป็น ส.ส.
อย่างไรก็ตาม แม้จะไม่ได้รับการประกันตัว แต่นายนวัธยังมีสิทธิในการยื่นอุทธรณ์อยู่ และหากศาลอุทธรณ์มีคำสั่งปล่อยตัวชั่วคราวในเวลาถัดมา นายนวัธก็กลับมาทำหน้าที่ ส.ส. ได้เช่นเดิม ดังนั้น การทำหน้าที่ ส.ส. ไม่ได้ในช่วงระหว่างถูกคุมขัง จึงไม่ได้หมายความว่าจะหมดสมาชิกภาพของการเป็น ส.ส. ไป
นายชัยเกษมย้ำกรณีของนายนวัธ ต้องดูข้อกฎหมายทุกอย่างให้รอบคอบก่อนที่จะแสดงความเห็น ดังนั้น เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรจึงไม่ควรรีบด่วนตัดสินว่านายนวัธขาดคุณสมบัติ ทั้งที่คำพิพากษายังไม่ถึงที่สุด ซึ่งการให้สัมภาษณ์ของเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรไม่น่าจะเป็นสิ่งที่ถูกต้อง.-สำนักข่าวไทย