เข้าสู่วันที่ 43 ตึก สตง.ถล่ม พบชิ้นส่วนมนุษย์เพิ่มเติม

กทม. 9 พ.ค. – เดินหน้าค้นหาร่างผู้สูญหายเหตุอาคาร สตง.ถล่ม คืบหน้าเข้าสู่วันที่ 43 พบชิ้นส่วนมนุษย์เพิ่มเติม คาดปิดภารกิจสัปดาห์หน้า


รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงความคืบหน้าการปฏิบัติการค้นหาผู้สูญหายในเหตุการณ์ตึก สตง.ถล่ม ที่เข้าสู่วันที่ 43 เจ้าหน้าที่กู้ภัยและผู้เชี่ยวชาญจากหลายหน่วยงานยังคงระดมกำลังกันค้นหาร่างของผู้ประสบภัย ซึ่งคาดว่าจะอยู่ที่บริเวณชั้นใต้ดินของซากอาคาร สตง. โดยสามารถปฏิบัติการได้ตามแผนเปิดพื้นที่ได้เกือบทั้งหมดทุกโซน ซึ่งเมื่อวานนี้เจ้าหน้าที่ได้ปฏิบัติการเปิดบริเวณปล่องลิฟท์ทั้งหมด 6 จุด ซึ่งเปิดไปได้แล้ว 4 จุด ยังคงเหลืออีก 2 จุด ในโซน B และ C ซึ่งเป็นกล่องลิฟต์ที่ใช้สำหรับเจ้าหน้าที่ดับเพลิงและเป็นลิฟต์ขนของ คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในวันนี้ หลักปฏิบัติการไม่พบร่างของผู้สูญหายเพิ่มเติม แต่พบชิ้นส่วนร่างกายมนุษย์ ขณะที่โซน B มีการใช้สุนัข K9 ดมกลิ่น ระบุตำแหน่งพิกัดที่อาจจะพบร่างของผู้สูญหายนั้น เมื่อเปิดพื้นที่ไปแล้วพบว่า กลิ่นที่สุนัขระบุพิกัดดังกล่าว เป็นจุดทานอาหารซึ่งพบอาหารจำนวนมากอยู่บริเวณนั้น และยังพบอุปกรณ์ เช่น กระเป๋า และชิ้นส่วนเสื้อผ้า ของผู้ประสบภัยเพิ่มเติม

คาดว่าในวันพรุ่งนี้จะสามารถเปิดพื้นที่เข้าได้ครบทุกโซน และยังคงใช้การค้นหาอย่างละเอียด สำหรับการใช้เครื่องจักรหนัก ที่ยังมีอยู่จำนวน 28 คัน ในการเปิดพื้นที่จะยังคงเคลื่อนย้ายเครื่องจักรแต่จะเบากำลังลง แม้จะเปิดพื้นที่ได้ทั้งหมดแต่ยังมีกองดิน กองปูน เหลืออยู่


ทั้งนี้หลังจากกระบวนการเปิดพื้นที่ได้ครบทั้งหมดแล้วก็จะเป็นขั้นตอนของเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานที่จะดำเนินการสอบข้อเท็จจริง โดย กทม. พร้อมที่จะสามารถจัดสรรเครื่องจักรสนับสนุนการทำงานต่อไป

ทั้งนี้ การเปิดพื้นที่ทุกโซน ตั้งอยู่บนสมมติฐานของการเจอร่างของผู้สูญหาย แม้จะพบชิ้นส่วนของร่างกายมนุษย์น้อยแต่สามารถนำมาประกอบร่างสมบูรณ์ เพื่อพิสูจน์ยืนยันตัวตนได้ หลังจากเปิดพื้นที่ครบทั้งหมดทุกส่วนแล้วก็จะเกลี่ยกองดินให้เท่ากัน เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ทีมเจ้าหน้าที่ ที่เข้ามาเก็บหลักฐาน คาดว่าจะสรุปปฏิบัติการค้นหาร่างผู้สูญหายได้ภายในอาทิตย์หน้า ส่วนการพิสูจน์อัตลักษณ์ที่มีชิ้นส่วนร่างกายมนุษย์อยู่ที่นิติเวชโรงพยาบาลตำรวจกว่า 300 ชิ้นนั้น แม้จะปฏิบัติการค้นหาร่างของผู้สูญหายจบสิ้นแต่ก็ยังคงมีกระบวนการพิสูจน์อัตลักษณ์ยืนยันตัวบุคคล ยังต้องดำเนินการต่อไป

สำหรับยอดของผู้ประสบภัย กทม. เผยยอดผู้สูญหายเหลือ 7 ราย หลัง ตร.สืบพบว่า มี 4 คน ไม่อยู่ในอาคาร สตง.ในช่วงเวลาเกิดเหตุ ซึ่งเป็นคนงานที่มารับจ้างรายวัน มีรายชื่อแต่ไม่ได้เดินทางมาทำงาน ส่วนการจะปรับลดยอดผู้ประสบภัยจากกองอำนวยการร่วมลง ต้องรอให้ญาติของผู้สูญหายทั้ง 4 รายนี้ มาถอนแจ้งความกับตำรวจก่อน


ผู้เสียชีวิตที่ได้รับการตรวจยืนยันอัตลักษณ์บุคคลเบื้องต้น 89 คน ขณะเดียวกันยังต้องรอการพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลจากชิ้นส่วนร่างกายมนุษย์ที่พบว่าชิ้นส่วนที่พบจะเป็นหนึ่งในร่างของผู้ที่สูญหายในจำนวนที่เหลืออยู่หรือไม่ ส่วนกระบวนการพิสูจน์ต้องใช้เวลา เนื่องจากการตรวจพิสูจน์ชิ้นส่วนเช่นการตรวจจากกระดูก ต้องมีความหนาแน่นพอสมควร หากพบชิ้นส่วนเล็กๆ ก็ไม่เพียงพอต่อการตรวจพิสูจน์ .-419 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มพาลูก-เมียกลับจากฉลองวันเกิด รถยางระเบิดเสียหลักชนเสาไฟ ดับ 3 สาหัส 2

พ่อแม่ลูก 5 คน กลับจากฉลองวันเกิด รถกระบะยางระเบิดเสียหลักหมุนชนอัดเสาไฟฟ้า พ่อและแม่พร้อมลูกคนโตเสียชีวิตคาที่ ส่วนลูกคนกลางและคนเล็กอาการสาหัส

สุดโหด! ไล่แทงหนุ่มดับปมขัดแย้งยาเสพติด

วงจรปิดจับภาพชัด คนร้ายวิ่งข้ามถนนไล่แทงหนุ่มเสียชีวิต ชาวบ้านแตกตื่น ขณะที่ตำรวจรวบตัวทันควัน คาดปมขัดแย้งยาเสพติด

กยศ.เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน พ.ค.-มิ.ย.68

กยศ. เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน ช่วยเหลือชั่วคราว พ.ค.-มิ.ย.68 ให้นายจ้างลดยอดการหักเงินเดือน ทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อเริ่มผ่อนชำระใหม่เป็นรายเดือนในอัตราลดลง

ข่าวแนะนำ

DSI-กกต. นำหมายเรียกแปะหน้าบ้าน สว. ทั่วกรุงเทพฯ

3 สว. “อลงกต-จิระศักดิ์-วุฒิชาติ” ปิดบ้านเงียบ หลัง กกต. และดีเอสไอ นำหมายเรียกคดีฮั้ว สว. เชิญตัวเข้าชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาตาม พ.ร.ป.สว.61

นายกฯ เลี่ยงตอบสื่อ ปมมติแพทยสภา

นายกฯ เลี่ยงให้สัมภาษณ์ หลังสื่อรอถามมติแพทยสภา ปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ ด้าน “สรวงศ์” มองอุณหภูมิการเมืองจะร้อนแรงหรือไม่อยู่ที่สื่อ ชี้ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการ