นายกฯ ยืนยันไม่ได้แก้ไขน้ำท่วมล่าช้า

ทำเนียบฯ 17 ก.ย.-นายกฯ ยืนยันไม่ได้แก้ไขน้ำท่วมล่าช้า เตรียมการไว้ล่วงหน้า ขอให้เข้าใจการเบิกจ่ายงบฯ พร้อมดูแลฟื้นฟูประชาชนอย่างเต็มที่ ขอบคุณ “บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์” และทุกภาคส่วนช่วยเหลือประชาชนเต็มที่ พร้อมเชิญชวนร่วมบริจาคผ่านรายการ “ร่วมใจ พี่น้องไทย ช่วยภัยน้ำท่วม”


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาอุทกภัย ว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับทุกพื้นที่ และยืนยันว่าการช่วยเหลือไม่ได้ล่าช้า ซึ่งการใช้จ่ายงบประมาณต่าง ๆ มีขั้นตอนอยู่ และหลายคนอาจไม่เข้าใจว่าการดำเนินงานต้องมี 3 ระยะ คือ ก่อนเกิดภัย ระหว่างเกิดภัย และหลังเกิดภัย โดยรัฐบาลมีงบฯ กลางและงบฯ สำรองจ่ายกรณีฉุกเฉิน 50 ล้านในทุกจังหวัดเพื่อแก้ปัญหาเร่งด่วน ดังนั้นขอให้เข้าใจด้วยว่าไม่ใช่รัฐบาลไม่ให้อะไรเลย

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สำหรับการเตรียมมาตรการช่วยเหลือตามระเบียบของกระทรวงการคลังมีหลายอย่าง เช่น การเยียวยาพืชผลทางการเกษตร ปศุสัตว์ ประมง การบรรเทาหนี้สิน ซึ่งมีขั้นตอนปฏิบัติอยู่แล้ว และขณะนี้กำลังสำรวจความเสียหายเพื่อเยียวยาตามหลักเกณฑ์ นอกจากนี้ต้องมีมาตรการเสริมหลังน้ำลดด้วย เช่น การปลูกพืชน้ำน้อย ซึ่งทุกอย่างเป็นสิ่งที่ต้องใช้งบประมาณรัฐบาลทั้งหมด


นายกรัฐมนตรี ขอบคุณทุกภาคส่วนที่ช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ผู้ประสบอุทกภัย ทั้งภาคธุรกิจ ภาคประชาชน และนายบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ซึ่งทำให้ตนมีความสุขที่เห็นทุกคนมีส่วนร่วมในการทำงานร่วมกับรัฐบาล อีกทั้งวันนี้รัฐบาลจะมีการเปิดรับบริจาคเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ผ่านรายการพิเศษ “ร่วมใจ พี่น้องไทย ช่วยภัยน้ำท่วม” ทางสถานีโทรทัศน์ MCOT HD หมายเลข 30 เพื่อนำเงินบริจาคมาสมทบทุนช่วยเหลือน้ำท่วมเพิ่มเติม จึงขอเชิญชวนทุกคนร่วมบริจาคด้วย

“ประเทศไทยเคยเผชิญสถานการณ์น้ำท่วมมาหลายครั้ง แต่ครั้งนี้อาจหนักหนาสาหัสในบางพื้นที่ บางจังหวัด ซึ่งขณะนี้ประเมินจากสถานการณ์แล้วคาดว่าจะใช้งบประมาณในการแก้ปัญหาไม่ต่ำกว่า 2-3 หมื่นล้านบาท อย่างไรก็ตาม เป็นห่วงว่าหลังจากน้ำลด จะทำอย่างไรให้ประชาชนมีความเข้มแข็ง ซึ่งรัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจในเรื่องเหล่านี้” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

ส่วนข้อวิพากษ์วิจารณ์ว่ารัฐบาลคิดช้าในการแก้ปัญหานั้น นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า  ไม่ได้คิดช้า และคิดล่วงหน้ามาตลอด ตั้งแต่ก่อนน้ำท่วม โดยเฉพาะเรื่องป้องกันภัย แต่เนื่องจากไม่ได้คาดการณ์ว่าฝนจะตกลงมาในปริมาณมากถึง 500 มิลลิเมตร ซึ่งมากกว่าขีดรองรับน้ำของไทย จึงต้องแก้ปัญหาตามสถานการณ์ และต้องวางแนวทางเป็นระบบ โดยวันนี้ได้เร่งรัดทุกกระทรวงและหน่วยงานให้ลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชน หากพื้นที่ใดการช่วยเหลือยังไม่ทั่วถึง ให้แจ้งมายังรัฐบาล หรือศูนย์ปฏิบัติการในพื้นที่ เพื่อจัดเจ้าหน้าที่ไปช่วยเหลือ ซึ่งรวมถึงการดูแลสุขภาพจิตของประชาชนด้วย


“ขอยืนยันว่าทั้งหมดเป็นแผนงานที่กำหนดไว้ล่วงหน้า ที่ช่วยให้การทำงานของรัฐบาลราบรื่น มิเช่นนั้นจะอลหม่านมากกว่านี้ ทั้งนี้สถานการณ์น้ำท่วมมีแนวโน้มดีขึ้น และระดับน้ำลดลงถึง 40 เซนติเมตร เพราะระบบระบายน้ำดำเนินการได้ตามประสิทธิภาพแล้ว คาดว่าจะบรรเทาได้ในไม่กี่วันข้างหน้า และจากนี้จะเข้าสู่การฟื้นฟู โดยเบื้องต้นพื้นที่การเกษตรน่าจะเสียหายประมาณล้านไร่ และแสนกว่าครอบครัว ดังนั้นจะใช้งบประมาณอย่างเต็มที่ให้เกิดผลประโยชน์สูงสุด และคำนึงถึงชีวิตของประชาชนก่อน” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาได้ลงพื้นที่ไปแล้ว จะเห็นสภาพที่เกิดขึ้น รวมถึงมีรายงานเข้ามาตลอด ทุกอย่างมีกรอบการทำงานและมอบภารกิจไปแล้ว โดยตนได้ติดตามการช่วยเหลืออย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะเรื่องงบประมาณของแต่ละจังหวัดว่าเพียงพอหรือไม่ หากไม่พอให้ขอเข้ามาเพิ่มเติม ซึ่งรัฐบาลพร้อมดูแลประชาชน แต่ต้องใช้ให้ถูกต้องตามระเบียบ ไม่สามารถแจกเงินได้ทันที

ส่วนที่มีการมองว่าหลายพรรคการเมืองแย่งซีนในการช่วยเหลือน้ำท่วมนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในส่วนของพรรครัฐบาลมีหน้าที่ในการดูแลผู้ประสบภัยในพื้นที่ที่รับผิดชอบอยู่แล้ว แต่ในส่วนของฝ่ายค้านที่ลงพื้นที่ ก็เป็นส่วนของฝ่ายค้าน ตนไม่อยากไปทะเลาะด้วย แต่ขอให้เข้าใจว่าความช่วยเหลือส่วนใหญ่นั้นมาจากรัฐบาล ส่วนการช่วยเหลือเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็เป็นเรื่องของฝ่ายค้าน

“ขออย่าไปสร้างความไม่เข้าใจอีกเลย บางคนบอกว่ารัฐบาลไม่รู้หรือไงว่ามีเงินอยู่เท่าไหร่ ทำไมผมจะไม่รู้ สำนักงบประมาณอยู่กับผม แต่เขาก็บอกว่าเงินตรงนี้ใช้ตรงไหนได้บ้าง กฎหมายมีอยู่ ไม่ใช่ผมจะเอามาใช้ได้ทั้งหมดทุกอัน ถ้าใช้ได้ทั้งหมด ก็มีปัญหา งบฯฉุกเฉินก็มีส่วนของฉุกเฉิน งบฯ กลางมาใช้ในงบฯ ฉุกเฉินได้ แต่ต้องแบ่งขั้นตอนการใช้จ่ายเงินตรงนี้ให้เหมาะสม” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

ส่วนงานเลี้ยงระดมทุนของพรรคภูมิใจไทยและพรรคประชาธิปัตย์ในคืนนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ถือเป็นเรื่องของแต่ละพรรค แต่เท่าที่ทราบเบื้องต้นว่าจัดเพื่อนำเงินมาช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยครั้งนี้ ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดี ไม่ว่าจะภาคเอกชน หรือหน่วยงานใดก็ตาม ถ้าทำสิ่งใดที่เป็นการช่วยเหลือประชาชน ก็ถือเป็นประโยชน์ทั้งสิ้น และขออย่านำมาบิดเบือนหรือให้ร้ายซึ่งกันและกัน เพราะไม่ทำให้เกิดประโยชน์.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง