กรุงเทพฯ 8 ส.ค.-ปัญหาคุณแม่วัยใสหรือการตั้งครรภ์ในวัยเรียน เกิดขึ้นมานาน สถิติเดิมปี 57 พบเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี คลอดลูกสูงถึง 129,451 ราย หรือ 1 ใน 20 ของเด็กหญิงไทยจะกลายเป็นคุณแม่วัยใส ซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยพบข้อมูลในปีนี้มีเด็กท้องไม่พร้อม และโทรเข้ามาปรึกษาที่สายด่วน 1663 กว่า 10,000 คน จำนวนมากโดนกีดกันการศึกษา
หนึ่งชีวิตใหม่เกิดขึ้นบนความไม่พร้อม เด็กสาววัย 15 ตั้งครรภ์ขณะศึกษาอยู่ชั้น ม.3 เพราะไม่ป้องกัน ซ้ำร้ายเธอติดเชื้อ HIV “ทำแท้ง” จึงเป็นประโยคแรกที่ผุดขึ้นมาในหัว หลังได้ยินเพื่อนพูดว่านี่คือทางออกที่ดีที่สุด แต่เพราะเธอกำพร้าพ่อและแม่ตั้งแต่เด็ก จึงเลือกให้ชีวิตที่ดีกับลูกต่อไป
หลังคลอด เธออยากกลับไปเรียนต่อ แต่โดนปฏิเสธ โรงเรียนให้ไปเรียนที่อื่นเพื่อมีเวลาเลี้ยงลูก และบังคับให้เซ็นใบลาออก ด้านคุณพ่อบุญธรรมย้ำเด็กควรได้รับโอกาสทางการศึกษา เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น ถึงเวลาที่โรงเรียน ชุมชน ต้องเปิดรับเด็กที่ก้าวพลาดให้มีจุดยืนในสังคม เพราะเป็นลูกหลานและอนาคตของประเทศ
เจ้าหน้าที่สายด่วน 1663 รับสายให้คำปรึกษาด้านเอดส์และท้องไม่พร้อม เผยตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2558-30 มิ.ย.59 มีเด็กหญิงขอคำปรึกษาเรื่องท้องไม่พร้อม 9,461 คน มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา เด็กอายุน้อยสุดที่ใช้บริการคือ 10 ปี ร้อยละ 80 ของเด็กต้องการยุติการตั้งครรภ์ โดยการซื้อยาจากเว็บไซต์
ข้อมูลสะท้อนว่า เด็กไม่กล้าคุยเรื่องเพศกับพ่อแม่ สังคมไม่เข้าใจเรื่องวัยเจริญพันธุ์ ห้ามแต่ไม่แนะนำการใช้ชีวิตหรือทักษะการปฏิเสธ เกรงว่าสอนจะชี้โพรงให้กระรอก แต่จริงๆ แล้ว การห้ามกลับซ้ำเติมให้ปัญหาเกิดต่อเนื่องยาวนาน ประกอบกับโรงเรียนปัดความรับผิดชอบ ทั้งที่เด็กส่วนใหญ่อยากเรียนต่อ
ต้นเดือนที่ผ่านมา พระราชบัญญัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น พ.ศ.2559 มีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการ ส่งผลให้กระทรวงศึกษาที่มีโรงเรียนในสังกัดกว่า 40,000 แห่ง จะปฏิเสธจัดการศึกษาให้เด็กที่ตั้งครรภ์มิได้อย่างเด็ดขาด เพราะถือเป็นสิทธิที่ทุกคนต้องได้รับอย่างเสมอภาค.-สำนักข่าวไทย