ปส.โชว์ผลงานจับเครือข่ายขบวนการค้ายาเสพติด 2 รายใหญ่

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- ปส.โชว์ผลงานจับเครือข่ายขบวนการค้ายาเสพติด  2 รายใหญ่ ยึดของกลางทั้งเฮโรอินและโคเคนจำนวนมาก 


พลตำรวจเอกเฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แถลงผลจับกุมและอายัดยาเสพติด โดยคดีแรกจับกุมนายศิริขวัญมิ่งเมือง คำธา อายุ 46 ปี ชาวอำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมเฮโรอีน 300 แท่ง น้ำหนักรวม 105 กิโลกรัม โดยสามารถจับกุมได้ภายในห้องเช่าโรงกลึง จ.เจริญยนต์ ตำบลบางหลวง อำเภอเมืองปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี หลังตำรวจสืบทราบว่า เครือข่ายค้ายาเสพติด มีการลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากชายแดนภาคเหนือ เข้ามาในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี โดยเข้ามาเช่าโกดังแห่งหนึ่ง เข้า-ออกเป็นประจำ จึงส่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่ติดตามบุคคลต้องสงสัย จนกระทั่งพบผู้ต้องหาภายในห้องเช่าฯ จึงขอตรวจค้นภายในห้องพักพบของกลางดังกล่าว  โดยผู้ต้องหายอมรับสารภาพว่ารับฝากเฮโรอีนจากขบวนการค้ายาเสพติดจริง และทำมาแล้วกว่า 5 ปี  

พลตำรวจโทชินภัทร สารสิน ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด เปิดเผยว่า เฮโรอีนยังไม่เป็นที่นิยมของคนไทย คาดว่า ยาล็อตนี้ จะถูกส่งออกไปยังต่างประเทศ จึงประสานไปยังประเทศกลุ่มเป้าหมายที่คาดว่าเป็นจุดหมายปลายทางของยาเสพติด ซึ่งเป็นการประสานความร่วมมือสกัดกั้นและปราบปรามขบวนการค้ายาเสพติดที่เหลือต่อไป 


ส่วนคดีที่ 2 ตำรวจ ปส. ประจำด่านศุลกากรดอนเมือง พร้อมด้วยตำรวจท่องเที่ยว สามารถจับกุม นางลูซี่ เดอเรมม่า โอม่า อายุ 30 ปี ชาวเคนย่า พร้อม โคคาอีน หิอโคเคน จำนวน 121 ก้อน น้ำหนักประมาณ 1.5 กิโลกรัม เมื่อวันที่ 29 สิงหาคมที่ผ่านมา หลังมีสายลับแจ้งว่า หญิงชาวเคนย่าคนดังกล่าว มีการซุกซ่อนยาเสพติด และนำเข้ามาในราชอาณาจักรไทย  ตำรวจจึงตรวจสอบการเดินทางพบว่านางลูซี่ กำลังเดินทางเข้ามายังประเทศไทย ด้วยสายการบินแห่งหนึ่ง จึงขอทำการตรวจค้น และเอ็กซเรย์สัมภาระทุกชิ้น กลับไม่พบสิ่งผิดกฏหมายใดๆ แต่ขั้นตอนการสอบสวน นางลูซี่ ให้การรับสารภาพ ว่าได้ซุกซ่อนยาเสพติดไว้ในช่องคลอดและกลืนลงท้อง กว่า 100 ก้อน ตำรวจจึงควบคุมตัว และให้ยาขับถ่ายสิ่งแปลกปลอม  พบของกลางดังกล่าวจริง

จากการสอบสวนผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่าลักลอบนำเข้ามาในลักษณะนี้เป็นครั้งที่ 3 และจำหน่ายตามสถานบันเทิง ย่านแหล่งท่องเที่ยว ตำรวจจึงควบคุมตัวดำเนินคดีตามกฏหมาย.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่ม 31 ซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับคาที่ หลังมีปากเสียงเรื่องขับเฉี่ยวชน

หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย ลูกเจ้าของร้านขายผ้าซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับ ริมถนนสุขุมวิท หลังมีปากเสียงเรื่องขับรถเฉี่ยวไม่ลงมาเจรจา

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ขับรถชนไรเดอร์ดับ

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ที่หัวร้อนขับรถชนไรเดอร์ดับคาที่กลางสุขุมวิท เมื่อวานนี้ พร้อมไหว้ขอสื่อ อย่ามายุ่งกับครอบครัว

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ศาลให้ประกันหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนไรเดอร์ดับ

ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนเสียชีวิต กอดกันร้องไห้รับร่างและรดน้ำศพ ด้านศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา วงเงิน 600,000 บาท ติดกำไล EM-ห้ามออกนอกประเทศ

ข่าวแนะนำ

วันประวัติศาสตร์ สมรสเท่าเทียมวันแรก

วันนี้เป็นวันแรกที่กฎหมายสมรสเท่าเทียม มีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ ใน กทม. มีการจัดงานวันสมรสเท่าเทียมอย่างยิ่งใหญ่ เฉลิมฉลองให้กับเส้นทางการต่อสู้อันยาวนานกว่าที่กฎหมายจะมีผลบังคับใช้ ไม่ว่าเพศใดก็จะได้รับสิทธิการสมรสอย่างเท่าเทียมกัน

นาทีประวัติศาสตร์! นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา

นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา ฉบับแรกไทยกับยุโรป ความสำเร็จรัฐบาลแพทองธาร สร้างโอกาสยุคทองการค้า-ลงทุน ทำเงินเข้าประเทศ

ตำรวจ ปปป.ซ้อนแผนบุกจับนายช่างโยธา เรียกรับเงิน 4 แสน

ตำรวจ ปปป. บุกจับนายช่างโยธาปฏิบัติงาน ฝ่ายโยธา สำนักงานเขตพระโขนง เรียกรับเงินค่าออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร 400,000 บาท

สมรสเท่าเทียม

นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้

“แพทองธาร” นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมแสดงความยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้ ขอบคุณทุกภาคส่วนผ่านการต่อสู้กับอคติกว่า 2 ทศวรรษ ทำให้ ทุกตารางนิ้วของประเทศไทยโอบรับความหลากหลาย และเท่าเทียม