กทม. 5 ก.ย.-ปส. กวาดล้างเดือน ส.ค. จับกุม 13 เครือข่ายยาเสพติด ยึดยาบ้า 17.27 ล้านเม็ด, ไอซ์ 1,470 กก. และคีตามีน 90 กก.
พลตำรวจเอกชินภัทร สารสิน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พลตำรวจโทสรายุทธ สงวนโภศัย ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ร่วมกับเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. และกอ.รมน. แถลงผลการกวาดล้างจับคลุมเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่และรายย่อยจำนวน 13 เครือข่ายในห้วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 26 คน ยึดยาบ้าได้ 17,200,000 เม็ด ยาไอซ์ 1,320 กิโลกรัม และเคตามีน 90 กิโลกรัม
โดยทั้ง 13 เครือข่ายยาเสพติดที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปส. สามารถจับกุมได้ ส่วนใหญ่เป็นยาเสพติดเครือข่ายพื้นที่ภาคเหนือที่มีต้นทางลำเลียงมาจากประเทศเพื่อนบ้านตามแนวชายแดน ส่งกระจายไปยังทั่วภูมิภาคของประเทศ กับเครือข่ายยาเสพติดที่ลักลอบขนข้ามแม่น้ำโขงแถบพื้นที่ภาคอีสาน รวมถึงใช้ไทยเป็นทางผ่านและที่พักยาเสพติดก่อนจะส่งกระจายไปประเทศที่ 3
พลตำรวจเอก ชินภัทร เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางตำรวจ ปส. และทุกหน่วยงานร่วมกันสกัดกั้นยาเสพติดที่นำเข้าจากต่างประเทศในปริมาณมาก ซุกซ่อนในรูปแบบของสินค้านำเข้าทางการเกษตรหรือสินค้าทั่วไป ซึ่งขบวนการเหล่านี้เชี่ยวชาญการใช้เส้นทางหลบหลีกและเส้นทางสำรองเพื่อให้รอดพ้นการจับกุม อย่างไรก็ตามก็ไม่สามารถรอดพ้นสายตาเจ้าหน้าที่ไปได้ จากการร่วมมือทางการข่าวของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จึงทำให้การจับกุมกวาดล้างเพิ่มประสิทธิภาพและสกัดยาเสพติดที่หลุดเข้าสู่สังคมได้มากขึ้น
ทั้งนี้ทางผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้มอบนโยบายให้ตำรวจ ปส. และหน่วยงานปราบปรามยาเสพติดที่เกี่ยวข้อง ช่วยกันตรวจสอบและสกัดกั้นการนำเข้าสารตั้งต้นผลิตยาเสพติดจากต่างประเทศและใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่าน ซึ่งตอนนี้ ตำรวจ ปส. ได้ประสานกับกรมศุลกากร ตรวจยึดตู้คอนเทนเนอร์ที่ลักลอบนำเข้าสารตั้งต้นยาเสพติดที่ท่าเรือ คาดว่าจะดำเนินการเปิดตู้ได้ภายใน 1-2 วันนี้
ภาพรวมตลอดทั้งปี สามารถจับกุมยาเสพติดได้มากขึ้น ทั้งคดีใหม่ การขยายผลการจับกุมจากคดีเก่า รวมไปถึงการดำเนินการยึดทรัพย์และการเฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดที่ต้องดำเนินการควบคู่กันไป กลุ่มไหนเคยจับกุมแล้วก็ต้องเฝ้าระวังและขยายผลคดี ประชาชนคนใดที่มีเบาะแสก็สามารถให้ความร่วมมือในการแจ้งเบาะแสแก่ที่ตำรวจได้
ส่วนบริษัทโลจิสติกส์ต่างๆ พบว่า ถูกใช้เป็นเครื่องมือในการลักลอบขนย้ายยาเสพติด โดยการตบตาว่าขนส่งสินค้าต่างๆ ซึ่งจากการข่าวพบว่า ลักลอบขนย้ายยาเสพติดในจำนวนหลักแสนถึงหลักล้าน ตอนนี้หลายบริษัทก็ให้ความร่วมมือกับทางตำรวจเป็นอย่างดี แต่บางบริษัทก็ไม่ให้ความร่วมมือ ซึ่งเรื่องนี้จะแจ้งให้กับทางรัฐบาลใหม่ ดำเนินการจัดการต่อไป เพื่อเพิ่มความเข้มงวดในการควบคุมบริษัทโลจิสติกส์ ผู้ขนส่งหลายรายคิดแต่เพียงว่า รับเงินส่งสินค้าเท่านั้นก็เป็นพอ แต่ไม่รับผิดชอบต่อสังคม และบริษัทก็ไม่ดำเนินการตรวจสอบประวัติคนเหล่านี้ บางรายบัตรประชาชนก็ไม่ตรวจสอบ ซึ่งตนมองว่าหลังจากนี้ ควรต้องประจานบรรดาบริษัทโลจิสติกส์ที่ไม่ให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจในการตรวจสอบคนขับขนส่งและการป้องกันการลักลอบขนส่งยาเสพติดผ่านระบบโลจิสติกส์ สำหรับประเทศเพื่อนบ้านนั้น ทุกประเทศต่างให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีในเรื่องสกัดกั้นยาเสพติด
นอกจากนี้ ทางตำรวจเตรียมขานรับนโยบายปราบปรามยาเสพติดจากรัฐบาลชุดใหม่ เชื่อว่ารัฐบาลใหม่ชุดนี้จะตั้งใจจัดการแก้ปัญหายาเสพติดไม่แตกต่างจากรัฐบาลชุดที่แล้ว เบื้องต้นทางนายกรัฐมนตรีคนใหม่ได้ขอข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์ยาเสพติดในประเทศ ซึ่งทางตำรวจก็ได้ส่งข้อมูลดังกล่าวไปนายกรัฐมนตรีคนใหม่แล้ว.-สำนักข่าวไทย