บช.ปส. 18 เม.ย. – ตำรวจ ปส.ทลายเครือข่ายขนยาเสพติดข้ามชาติ ผ่านระบบขนส่งโลจิสติกส์ ก่อนส่งออกทางเรือและทลายแหล่งพักยา จับนักค้ามาเลเซีย-ฮ่องกง ระดับสั่งการได้พร้อมของกลางรวมเฮโรอีน 94 กก. ไอซ์ 162 กก.
พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รอง ผบ.ตร./ผอ.ศอ.ปส.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ศอ.ปส.ตร. และ พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ปส. แถลงผลการจับกุมเครือข่ายค้าเฮโรอีนรายใหญ่ระดับสั่งการ ผู้ต้องหา 8 ราย ตรวจยึดเฮโรอีน 94 กก., ไอซ์ 182 กก., ยาบ้า 7 แสนเม็ด, เคตามีน 25 กก. และสารเสพติดไม่ทราบชนิด (อยู่ระหว่างตรวจพิสูจน์) 1,250 ขวด
คดีแรก เมื่อวันที่ 10-11 เม.ย.ที่ผ่านมา กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ร่วมกับเจ้าหน้าที่หน่วยงานร่วมภายใต้โครงการปราบปรามยาเสพติดระหว่างประเทศท่าเรือสากลของอาเซียน หรือ Seaport Interdiction Task Force (SITF) เข้าตรวจสอบพัสดุ หลังพบว่าจะมีการลักลอบลำเลียงยาเสพติด ที่คลังสินค้าแห่งหนึ่ง เขตบึงกุ่ม พบเฮโรอีน น้ำหนักกว่า 30 กก. ซุกซ่อนไปกับแผ่นเรซิ่นลายแผ่นไม้ เตรียมส่งออกไปประเทศออสเตรเลีย เจ้าหน้าที่จึงสืบสวนขยายผลจนทราบว่า ผู้ส่งสินค้าคือ น.ส.กานดา อายุ 33 ปี ก่อนจะถูกจับกุมได้ในเวลาต่อมา สารภาพว่า เป็นผู้ส่งเฮโรอีนจริง โดยใช้บัตรประชาชนของผู้อื่นในการจัดส่ง ส่วนยาเสพติดรับมาจากชายรู้จักเพียงว่าชื่อ “เถ้าแก่” พูดภาษาจีน โดยมี “นายตี๋” ช่วยแปลภาษาและจ่ายเงินว่าจ้าง ถูกจับกุมได้ในเวลาต่อมา ส่วนผู้รับเป็นลูกครึ่งไทย-ออสเตรเลีย
ต่อมา เจ้าหน้าที่พบความเคลื่อนไหวของเครือข่ายนี้ จะส่งยาเสพติดไปต่างประเทศในช่วงใกล้วันสงกรานต์อีกครั้ง จึงขยายผลจากฐานข้อมูล (Big data) ที่ บช.ปส. มีอยู่ กระทั่งวันที่ 12 เม.ย.ที่ผ่านมา สามารถจับกุม Mr.LEUNG หรือเฮีย หรือเถ้าแก่ สัญชาติมาเลเซีย ระดับสั่งการ ได้ที่ปั๊มน้ำมัน ย่าน ถ.พระราม 3 พร้อมไอซ์กว่า 2 กก. ซุกซ่อนในกรอบรูปเตรียมส่งไปยังประเทศญี่ปุ่น จากนั้นขยายผลจับกุมนายจายหลู่ หรือตี๋ ชาวไทยใหญ่ ได้ที่ปั๊มน้ำมันในซอยสาธุประดิษฐ์ 15 พร้อมสอบสวนและขยายผลเพิ่มเติม ก่อนเข้าตรวจค้นที่พักย่าน ถ.พระราม 3 เป็นห้องสำหรับจัดเตรียมยาเสพติดเพื่อซุกซ่อนไปกับสินค้าชนิดต่าง ๆ ผลการตรวจค้นพบไอซ์ ซุกซ่อนอยู่ในตู้เสื้อผ้า น้ำหนักกว่า 13 กก. และไอซ์ ลักษณะเป็นเกล็ดผสมกับเนื้อซิลิโคน 2 แผ่น น้ำหนักกว่า 18 กก. ซุกซ่อนในกรอบรูปผ้าใบ 2 กรอบ, ไอซ์ ลักษณะเหลวเหนียวข้น 1 กก. และของเหลวบรรจุอยู่ในขวด แสดงสินค้าเป็น Massage Oil 1,250 ขวด ตรวจทดสอบเบื้องต้นด้วยน้ำยาทดสอบยาเสพติดพบเปลี่ยนสี หลังจากนี้จะส่งไปตรวจกับสถาบันตรวจพิสูจน์ว่าเป็นสารเสพติดชนิดใด
นอกจากนี้ยังจับกุม Mr.Kai สัญชาติฮ่องกง ได้เพิ่มอีก 1 ราย จากนั้นได้เข้าตรวจค้นห้องพัก 2 ห้อง ภายในคอนโดฯ ย่านถนนเลี่ยงวงแหวนอุตสาหกรรม พบเฮโรอีน น้ำหนักกว่า 64 กก. และไอซ์กว่า 128 กก. ทั้งนี้ กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ได้ตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมจากฐานข้อมูล Big Data พบว่า ผู้ต้องหามีความเกี่ยวข้องกับการจัดส่งพัสดุไปต่างประเทศอื่น ๆ อีกหลายประเทศ ซึ่งจะต้องสืบสวนขยายผลการจับกุมบุคคลหรือกลุ่มเครือข่ายต่อไป
คดีที่ 2 เมื่อวันที่ 4 เม.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมนายณัฐวุฒิ อายุ 31 ปี และ น.ส.อรุณี อายุ 36 ปี ก่อนการจับกุมเจ้าหน้าที่พบความเคลื่อนไหวของเครือข่ายดังกล่าวเตรียมนำยาเสพติดจำนวนมากจาก จ.เชียงราย มาส่งให้ลูกค้าในพื้นที่ภาคตะวันออก จึงวางกำลังไว้ตลอดเส้นทางที่คาดว่าจะขับผ่าน ก่อนสกัดจับได้ที่ริมถนนหมายเลข 3543 อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ตรวจค้นรถพบยาบ้า 7 แสนเม็ด ซุกซ่อนในรถยนต์ ทะเบียนสุโขทัย โดยกล่าวหาผู้ต้องหาทั้งสองว่า “ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) โดยมีไว้เพื่อจำหน่าย อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า ก่อให้เกิดการแพร่กระจายในหมู่ประชาชน และทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป”
นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 7 เม.ย.ที่ผ่านมา ยังจับกุมนายณรงค์ศักดิ์ อายุ 40 ปี และนายพิชา อายุ 42 ปี หลังได้รับแจ้งว่า 2 ผู้ต้องหา จะลำเลียงยาเสพติดจากภาคเหนือ มาส่งมอบให้ลูกค้าใน จ.นนทบุรี โดยใช้รถยนต์ 2 คัน สำหรับซุกซ่อนยาเสพติดและสำรวจเส้นทาง จึงวางกำลังในเส้นทางที่รถลำเลียงผ่าน กระทั่งถูกจับกุมตัวได้ บริเวณด่านตรวจยานพาหนะพยุหะคีรี ต่อเนื่องบริเวณภายในปั๊มน้ำมัน PTT Station ปตท.เขาทอง ตรวจค้นรถต้องสงสัยพบไอซ์ 20 กก. และเคตามีน 25 กก. ซุกซ่อนในรถยนต์ พร้อมตรวจยึดรถยนต์ที่ใช้ก่อเหตุ 2 คัน โทรศัพท์มือถือ 6 เครื่อง โดยกล่าวหาผู้ต้องหาทั้งสองว่า “ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์หรือเมทแอมเฟตามีน) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้าและแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน หรือเป็นการกระทำที่ทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ และร่วมกันจำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 2 (คีตามีน) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า และการก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน”
ขณะที่ยาเสพติดของกลางที่ตรวจยึดมาได้นั้น พนักงานสอบสวนจะส่งไปตรวจพิสูจน์ยังหน่วยที่กำหนดไว้ อาทิ สำนักงาน ป.ป.ส. กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ และสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ หลังจากนั้นยาเสพติดของกลางจะถูกเก็บรักษาไว้ที่กระทรวงสาธารณสุข เพื่อการทำลายต่อไป. -สำนักข่าวไทย