นายกฯ ร่วมเสวนา Betazone “Not Losing Sight of Soft Power”

สวิตเซอร์แลนด์ 23 ม.ค.- นายกฯ ร่วมเสวนา Betazone “Not Losing Sight of Soft Power” ชี้ไทยมีมรดกทางวัฒนธรรมที่ร่ำรวย และมีจุดแข็งเรื่องซอฟต์พาวเวอร์ด้านอาหาร ที่ได้รับการยอมรับไปทั่วโลก มองช่วยเพิ่มโอกาสให้ประเทศไทย


วันนี้ (23 มกราคม 2568) เวลา 10.30 น. ตามเวลาท้องถิ่นเมืองดาววอส สวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งตรงกับเวลาประเทศไทยเวลาประมาณ 16:30น. ณ ห้อง Fusion ศูนย์ประชุม Congress Center นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เข้าร่วมการเสวนา Betazone หัวข้อ “Not Losing Sight of Soft Power” (ซอฟต์พาวเวอร์ อำนาจที่ไม่ควรมองข้าม) โดยมีบุคคลสำคัญร่วมรับฟังด้วย ได้แก่ H.H. Sheikha Latifa Chairwoman of Dubai Culture and Arts Authority ซึ่งเป็นหัวหน้าคณะผู้แทน UAE ของ WEF และนาง Diane von Fürstenberg นักออกแบบชื่อดัง ให้ความสนใจเข้าร่วมรับฟังด้วย

นางสาว Yana Peel ผู้ดำเนินงานเสวนากล่าวต้อนรับนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้พบกับสตรีที่สร้างประวัติศาสตร์โดยการเป็นนายกรัฐมนตรีหญิงที่อายุน้อยที่สุดของประเทศไทย และยังได้รับการยกย่องเป็นหนึ่งใน 100 สตรีผู้ทรงอิทธิพลของนิตยสาร Time อีกด้วย ซึ่งวันนี้จะพูดคุยกันถึงประเด็น Soft Power ที่ไทยสามารถเอาชนะใจและความคิดของผู้คนได้อย่างแท้จริง และกำลังก้าวไปข้างหน้า พร้อมยกตัวอย่างความสำเร็จของไทยในการใช้ Soft Power ที่ครอบคลุมตั้งแต่ด้านอาหาร ภาพยนตร์ การท่องเที่ยว ไปจนถึงสุขภาพ โดยเน้นถึงศิลปินระดับโลกอย่าง ฤกษ์ฤทธิ์ ตีระวนิช ศิลปินร่วมสมัยระดับโลกที่สร้างผลงานในพิพิธภัณฑ์ชั้นนำ อภิชาติพงศ์ วีระเศรษฐกุล ผู้กำกับภาพยนตร์ที่ได้รับการยอมรับสากล รวมถึง ลิซ่า (BLACKPINK) ศิลปินผู้สร้างปรากฏการณ์การเต้นและเพลงป๊อประดับโลก


โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้มาร่วมพูดคุยเสวนาเกี่ยวกับ Soft Power หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจทั่วโลกในปัจจุบันประเทศไทยมีมรดกทางวัฒนธรรมที่ร่ำรวย และมีจุดแข็งที่ได้รับการยอมรับไปทั่วโลก เช่น soft power ด้านอาหาร รัฐบาลตระหนักถึงศักยภาพและจุดแข็งที่จะช่วยขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจ จึงได้ตั้งกำหนด 13 เสาอุตสาหกรรม – ท่องเที่ยว อาหาร ภาพยนตร์ แฟชั่น เทศกาล กีฬา ดนตรี ศิลปะ การออกแบบ เกมส์ วรรณกรรม (literature) สุขภาพ และศิลปะการแสดง – เพื่อขับเคลื่อนและยกระดับศักยภาพเหล่านี้ และสร้างมูลค่าให้กับประเทศมากขึ้น

นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า รัฐบาลถือเป็นผู้สนับสนุน (Facilitator) ที่อำนวยความสะดวก และเสริมพลังให้ภาคประชาชนและภาคเอกชนริเริ่มและขับเคลื่อนกิจกรรมทางเศรษฐกิจ สร้างความร่วมมือและโอกาสใหม่ ๆ จากอุตสาหกรรมดังกล่าว

ทั้งนี้นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงเสื้อผ้าที่สวมใส่ ที่เป็นอีกสัญลักษณ์แห่งความภาคภูมิใจ จากผ้าฝ้ายจากจังหวัดหนองบัวลำภู อีกตัวอย่างสำคัญของงานหัตถกรรมท้องถิ่นที่แสดงให้เห็นถึงการเลือกใช้ผ้าพื้นเมืองที่ไม่เพียงแต่เป็นการแต่งกาย แต่ยังเป็นการประกาศเกียรติภูมิของชุมชนไทย


โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวถึงการขับเคลื่อนอุตสาหกรรม Soft Power ในแต่ละด้านที่สำคัญ ดังนี้
ด้านการท่องเที่ยว นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเอกลักษณ์และเสน่ห์ของคนไทย ที่มีทั้งความเป็นมิตร สุภาพ และเป็นกันเองที่ดึงดูดนักท่องเที่ยว ซึ่งปัจจุบันประเทศไทยมีมากกว่าคำว่า the land of smile แล้ว และกำลังพัฒนาสู่ประสบการณ์ที่น่าประทับใจและมีคุณค่าอย่างแท้จริง โดยเฉพาะภายหลังจากการระบาดของสถานการณ์โควิด -19 ที่ทำให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวหยุดชะงัก แต่ปัจจุบันนักท่องเที่ยวได้กลับมาอีกครั้งและสร้างรายได้ถึง 20% ของ GDP โดยไทยมีแหล่งท่องเที่ยวที่แตกต่างกันในแต่ละภูมิภาค แต่ละพื้นที่มีเสน่ห์และจุดดึงดูดเป็นของตนเอง เช่น กรุงเทพฯ เป็นศูนย์กลางชีวิตเมืองสมัยใหม่ ชายหาดภูเก็ต เป็นสวรรค์แห่งการพักผ่อน และเชียงใหม่ เป็นประตูสู่วัฒนธรรมล้านนา

ด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ไทยได้พัฒนาอุตสาหกรรมการดูแลสุขภาพอย่างครบวงจร ทั้งการนวดแผนไทย การแพทย์เชิงบำบัดเพื่อรักษาอาการปวดกล้ามเนื้อ ศูนย์สุขภาพระดับมาตรฐานโลก ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับการพักฟื้นและเกษียณ

มวยไทย ซึ่งเป็นศาสตร์แห่งการต่อสู้และวัฒนธรรม โดยปัจจุบันไทยมีค่ายมวยกว่า 40,000 ยิมทั่วโลก 6,000 ยิมในลอนดอน ซึ่งรัฐบาลพร้อมสนับสนุนและตั้งใจที่จะพัฒนา โดยเฉพาะแนวทางในการออกใบรับรองมาตรฐานมวยไทย เพื่อถ่ายทอดมวยไทยให้เป็นที่รู้จักทั่วโลก

อาหาร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นสิ่งที่ต่อยอดจากด้านการท่องเที่ยว ซึ่งเมื่อนักท่องเที่ยวเดินทางมาถึง จะได้สัมผัสกับอาหารไทยที่แตกต่างกันในแต่ละภูมิภาค เกิดการสร้างประสบการณ์ผ่านอาหารประเภทต่าง ๆ และมีการเดินทางอย่างต่อเนื่องในหลายแห่งของประเทศ ซึ่งอาหารไทยที่เป็นที่ชื่นชอบของผู้คนทั่วโลกอย่างต้มยำกุ้งและข้าวเหนียวม่วง ซึ่งเป็นเมนูที่มีชื่อเสียง โดยต้มยำกุ้งยังได้ขึ้นทะเบียนในบัญชีรายการมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติจากองค์การยูเนสโกอีกด้วย นอกจากนี้ ประเทศไทยยังเป็นเสมือนครัวของโลกที่มีอาหารมากมายและอาหารเหล่านี้ไม่เฉพาะมีรสชาติดีแต่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ และสมุนไพรไทยบางอย่างก็สามารถรักษาโรคได้ด้วย

นอกจากนี้ ประเทศไทยยังมีชื่อเสียงในเรื่องการจัดงานเทศกาล โดยเฉพาะเทศกาลสงกรานต์ในช่วงเดือนเมษายนของทุกปี ซึ่งรัฐบาลไทยมีแผนที่จะเฉลิมฉลองเทศกาลสงกรานต์ตลอดทั้งเดือนเมษายน ซึ่งจะช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวในเมืองไทยช่วงเดือนเมษายนได้ตลอดทั้งเดือน รวมถึงยังมีเทศกาลอีกมากมายที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกจะสามารถเข้ามาท่องเที่ยวได้ทั้งตลอดปี

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงการขับเคลื่อนซอฟพาวเวอร์ของรัฐบาล ทั้งทางด้านการส่งเสริมให้มีกองถ่ายทำจากต่างประเทศเข้ามาถ่ายทำหนังภาพยนตร์ หรือซีรีส์ในประเทศไทย โดยรัฐบาลจะมีการออก cash rebate ซึ่งเป็นสิทธิประโยชน์เป็นเงินคืนให้กับบริษัทถ่ายทำหนังเหล่านั้นด้วย

นายกรัฐมนตรี มองว่า คนไทยมีศักยภาพหากมีประตูที่เปิดโอกาสให้พวกเขาได้แสดงความสามารถผู้คนเหล่านั้นก็จะสามารถช่วยขับเคลื่อนประเทศได้ รัฐบาลมี “นโยบายหนึ่งครอบครัวหนึ่งซอฟพาวเวอร์” ซึ่งจะเป็นการเปิดโอกาสให้ประชาชนไทยที่มีความสามารถได้มีช่องทางและเครื่องมือในการฝึกฝนพัฒนาทักษะ เพื่อนำไปประกอบอาชีพ นอกจากนี้รัฐบาลยังมีความตั้งใจที่จะเพิ่มทักษะผู้คนในประเทศไทยกว่า 20 ล้านคน โดยไม่ได้จำกัดเพศหรืออายุ

ทั้งนี้ รัฐบาลยังเดินหน้าในการผลักดันซอฟพาวเวอร์ไทยผ่านการเปิดอบรมทั้งสิ้น 13 หลักสูตร/อุตสาหกรรมหลัก ซึ่งรัฐบาลมีกลยุทธ์ในการขับเคลื่อนซอฟพาวเวอร์ดังกล่าว ผ่านความร่วมมือจากทุกกระทรวง โดยแต่ละกระทรวงจะมีการขับเคลื่อนความร่วมมือกับภาคส่วนต่างๆ ด้วย รวมทั้งจะมีแผนการเพื่อพัฒนาระบบนิเวศ เช่น การปรับปรุงแก้ไขกฎหมาย การให้การดำเนินมาตรการด้านต่างๆ เพื่อพัฒนาทักษะของประชาชนไทย

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า soft power ทั้ง 13 อุตสาหกรรมหลักนี้ – ท่องเที่ยว อาหาร ภาพยนตร์ แฟชั่น เทศกาล กีฬา ดนตรี ศิลปะ การออกแบบ เกมส์ วรรณกรรม (literature) สุขภาพ และศิลปะการแสดง เป็นสิ่งที่รัฐบาลมุ่งเดินหน้าอย่างเต็มที่ และตลอดเดือนเมษายนจะจัดเทศกาลมหาสงกรานต์ เพื่อให้ผู้คนได้รับประสบการณ์ใหม่ๆ และหลากหลาย

นายกรัฐมนตรี ได้ให้นิยามและขยายความ “Soft Power ไทย” ว่าเป็นความสามารถในการดึงดูด หรือมีอิทธิพลต่อผู้อื่น และตนเองมองว่า Soft Power เป็นเสน่ห์ภายในของไทย เป็นเครื่องมือของประเทศ— ที่สามารถเชื่อมโยงและเอาชนะใจคน โดยนายกรัฐมนตรี ยังได้นำเสนอ “ก๋วยเตี๋ยวเรือ” ว่าเป็นอาหารที่ชื่นชอบมากที่สุด

ช่วงท้าย นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวว่า รัฐบาลได้ประกาศไว้ว่า “2568 เป็นปีแห่งโอกาสของประเทศไทย” และแน่นอนว่าในวันนี้มาเพื่อยืนยันด้วยตนเองว่า ประเทศไทยมี soft power ที่ดีและมีศักยภาพหลากหลายด้าน และคนไทยก็พร้อมให้ต้อนรับทุกคน สร้างโอกาสใหม่ๆ ให้กับประเทศ และปีนี้ ปี 2568 จะเป็นปีที่ดีสำหรับประเทศไทยอย่างแน่นอน .-316 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้โดยสารรถทัวร์สยอง นั่งร่วมกับศพจากโคราชถึงลำปาง

ลำปาง 17 มิ.ย. – ไม่รู้นั่งมากับศพทั้งคืน ผู้โดยสารรถทัวร์สายนครราชสีมา-เชียงใหม่ ถึงขนส่งลำปาง ผวาทั้งคัน หลังรถเข้าจอดชานชาลาพบหนุ่มวัย 38 ปี เสียชีวิต ตรวจสอบเบื้องต้นพบขามีรอยช้ำ เลือดไหล แพทย์คาดเสียชีวิตจากโรคประจำตัว ช่วง 05.30 น. วานนี้ (16 มิ.ย.) ตำรวจ สภ.เมืองลำปาง แพทย์นิติเวช โรงพยาบาลลำปาง เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างลำปาง รับแจ้งมีผู้เสียชีวิตบนรถทัวร์โดยสาร สายนครราชสีมา-เชียงใหม่ จอดอยู่บริเวณสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดลำปาง เทศบาลนครลำปาง ผู้เสียชีวิตเป็นชายอายุ 38 ปี ชาว ต.พิชัย อ.เมืองลำปาง นั่งมากับรถทัวร์โดยสารปรับอากาศ 2 ชั้น ผู้เสียชีวิตนั่งอยู่ชั้น 2 ฝั่งซ้ายโซนด้านหลัง ซึ่งเป็นที่นั่งเดียว ขึ้นรถต้นทางจาก จ.นครราชสีมา ปลายทาง จ.ลำปาง โดยรถเข้าจอดที่ชานชาลา เจ้าหน้าที่ของบริษัททัวร์ได้เชิญผู้โดยสารทั้งหมดลงมาจากรถ จากนั้นแพทย์เวรโรงพยาบาล เจ้าหน้าที่กู้ภัย ร่วมชันสูตรศพ ทำเอาผู้โดยสารที่นั่งมาในรถคันเดียวกัน โดยเฉพาะผู้ที่นั่งด้านหน้าและหลัง ถึงกับสยอง […]

Hun Sen delivers speech in Cambodia's Senate

“ฮุน เซน” ขู่ให้ไทยเปิดด่านทั้งหมดภายในวันนี้

พนมเปญ 16 มิ.ย.- นายฮุน เซน ประธานวุฒิสภาของกัมพูชาประกาศว่า ไทยต้องเปิดจุดผ่านแดนกับกัมพูชาทั้งหมดภายใน 24 ชั่วโมง ไม่เช่นนั้นกัมพูชาจะปิดจุดผ่านแดนกับไทยทั้งหมด และห้ามสินค้าไทยทุกอย่างเข้ากัมพูชา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายฮุน เซนยื่นคำขาดระหว่างกล่าวสุนทรพจน์พิเศษก่อนการประชุมวุฒิสภาในเช้าวันนี้ว่า เดิมกัมพูชาจะปิดจุดผ่านแดนกับไทยทั้งหมดในวันนี้ แต่รัฐบาลได้เลื่อนการตัดสินใจออกไป หลังจากที่เขาและนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้สนทนาทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรีแพรทองธาร ชินวัตรของไทย หากไทยไม่เปิดจุดผ่านแดนกับกัมพูชาทั้งหมดอีกครั้งตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป กัมพูชาจะห้ามผักและผลไม้ผ่านจุดผ่านแดนทั้งหมดของกัมพูชา นอกจากนี้กัมพูชาจะยกเลิกมาตรการจำกัดการผ่านแดนกับไทยที่ใช้อยู่ในขณะนี้ หากทางการไทยกลับมาเปิดจุดผ่านแดนตั้งแต่เวลา 06.00-22.00 น.ตามเดิม นายฮุน เซนประกาศชัดเจนว่า ทางการกัมพูชาจะไม่มีวันนั่งโต๊ะเจรจากับทางการไทยเรื่องการจำกัดการผ่านแดน เนื่องจากไทยเป็นฝ่ายเริ่มก่อน โดยได้ตั้งคำถามว่า กองทัพไทยเป็นฝ่ายจำกัดการผ่านแดน และเมื่อกัมพูชาทำเช่นเดียวกัน ก็ต้องการเจรจาเพื่อรักษาหน้าเช่นนั้นหรือ พร้อมกับสำทับว่า กัมพูชาจะไม่ปล่อยให้ชื่อเสียงประเทศตกอยู่ในความเสี่ยงเพราะความผิดพลาดของคนอื่น.-814.-สำนักข่าวไทย

ครูสาวเขียนจดหมายระบายความอัดอั้น ก่อนคิดสั้น-ศธ.สั่งสอบข้อเท็จจริง

บุรีรัมย์ 17 มิ.ย. – ครูสาวโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.ชำนิ จ.บุรีรัมย์ เขียนจดหมายระบายความอัดอั้น “งานครูหนักและเครียดมากจนทนไม่ไหว” ก่อนตัดสินใจคิดสั้น ด้าน ศธ. สั่งสอบข้อเท็จจริง ยอมรับครูรับภาระหนัก ตำรวจพร้อมกู้ภัยได้รับแจ้งว่ามีผู้เสียชีวิตในบ้านหลังหนึ่ง อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ พบร่างของครูมัท วัย 39 ปี ครูโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.ชำนิ โดยครูตัดสินใจลาโลกด้วยตัวเอง ข้างร่างของครูมีจดหมายลาที่เขียนถึง 5 หน้ากระดาษ หน้าซองจดหมายเขียนไว้ว่า “จดหมายส่วนตัวถึงครอบครัวของฉัน” เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน โดยหน้าที่ 1-4 ผู้ตายเขียนถึงพี่สาวซึ่งเป็นข้าราชการครู ลูกสาววัย 10 ขวบ และพ่อแม่ ส่วนหน้าที่ 5 เขียนถึงการทำงาน ถึงสาเหตุที่ลาโลกใบนี้ เพราะไม่สบายกายและไม่สบายใจ มีปัญหาเรื่องการทำงาน การเงิน การบัญชี ซึ่งพอกพูนจนแก้ไขได้ยาก ปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นเพราะครูมัทเพียงคนเดียว เกิดจากกระบวนการทำงานที่ไม่มีประสิทธิภาพภายในโรงเรียน ทำงานไม่เป็นระบบ ให้เบิกเงินก่อนเคลียร์เอกสารทีหลัง สุดท้ายนิ่งเฉย ไม่มีใครมาเคลียร์ให้ อันไหนเคลียร์เองได้ก็ดีไป แต่อันไหนเคลียร์ไม่ได้ก็ต้องมานั่งเครียดเองจนหัวจะระเบิด เป็นไมเกรนแทบทุกวัน […]

สาวโพสต์ถูกไฟดูดจากตู้กดบัตรจอดรถอัตโนมัติห้างดัง

กรุงเทพฯ 16 มิ.ย. – สาวโพสต์ถูกไฟตู้กดบัตรจอดรถอัตโนมัติห้างดังดูดมือ ต้องรักษาตัวที่โรงพยาบาลหลายวัน ทำงานไม่ได้ กินข้าวไม่ได้ ชีวิตพัง ห้างโยนภาระให้เดินเอกสารเบิกกับโรงพยาบาลเอง สาวโพสต์ภาพพร้อมเล่าเรื่องราวเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 10 มิถุนายนที่ผ่านมา กำลังขับรถเข้าลานจอดรถห้างฯ แห่งหนึ่ง แล้วลดกระจกเอามือโบกระบบเซ็นเซอร์เพื่อรับบัตรจอด ปรากฏว่าถูกไฟดูดทั้งที่มือไม่ได้แตะโดนเครื่อง เพราะระบบเซ็นเซอร์ไม่ต้องสัมผัสโดน แค่โบกหน้าเครื่อง ตนเองรู้สึกไฟดูด แขนชา จี๊ดขึ้นหัว และชาลงไปถึงขา บัตรก็ไหลออกมาจากเครื่อง แต่ไม้กั้นรถไม่เปิด คาดว่าไฟฟ้าในเครื่องน่าจะขัดข้อง และไม่มีเจ้าหน้าที่อยู่บริเวณนั้นเลย จะกดปุ่ม SOS ขอความช่วยเหลือที่ตัวเครื่องก็ไม่กล้า เพราะกลัวถูกไฟดูดรอบ 2 จึงพยายามบีบแตรเรียกหลายครั้งกว่าจะมีเจ้าหน้าที่เข้ามาหา พอเจ้าหน้าที่มาตนก็บอกว่าถูกไฟดูด แต่เจ้าหน้าที่มาเปิดไม้กั้นให้และไม่พูดอะไรต่อ เลยรีบเอารถเข้าไปในลานจอด จากนั้นรีบเดินไปที่จุดบริการลูกค้า เพื่อขอความช่วยเหลือ เพราะตอนนั้นชาไปครึ่งตัว เจ้าหน้าที่พาไปห้องพยาบาล เอาเจลเย็นมาประคบอยู่นานก็ไม่รู้สึกดีขึ้น แขนเริ่มไม่มีแรงยก เจ้าหน้าที่เห็นอาการหนักเลยพาไปโรงพยาบาลที่มีสัญญากับห้าง หมอตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจกับตรวจเลือดแล้วค่าปกติดี หมอสั่งยาและให้กลับบ้าน ทั้งที่ยังไม่หายชา ถึงขนาดแขนไม่มีแรงแม้แต่จะเซ็นเอกสาร หมอบอกว่าคุณไม่เคยข้อศอกกระแทกโต๊ะเหรอ ชาๆ เหมือนกัน เดี๋ยวก็หายเอง ตนเองจึงตั้งคำถามว่าจะหายเองจริงเหรอ เพราะยังทำอะไรไม่ได้เลย ตอนกลางคืนลองยกแขนนิ้วยังสั่นอยู่เลย กินยาคลายกล้ามเนื้อก็ไม่มีอะไรดีขึ้น […]

ข่าวแนะนำ

“ฮุน เซน” ปล่อยแล้ว คลิปเสียงฉบับเต็ม 17 นาที

กัมพูชา 18 มิ.ย. – “ฮุน เซน” ปล่อยแล้ว คลิปเสียงคุย “แพทองธาร” ฉบับเต็ม 17 นาที เผยบันทึกเสียงสนทนาเพื่อความโปร่งใส ส่งต่อให้บุคคลอื่นราว 80 คน เว็บไซต์ขแมร์ ไทม์ส รายงานว่า “นายฮุน เซน” ประธานวุฒิสภากัมพูชาเปิดเผยผ่านสื่อโซเชียล มีเนื้อหาระบุว่า “เมื่อเย็นวันที่ 15 มิถุนายน ผมได้สนทนาทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรีของไทยเป็นเวลา 17 นาที 6 วินาที โดยมีนายเคลียง ฮวต รองผู้ว่าราชการกรุงพนมเปญ ทำหน้าที่ล่ามแปลภาษา ซึ่งตามปกติแล้วเพื่อหลีกเลี่ยงการเข้าใจที่คลาดเคลื่อนหรือตีความหมายผิดในเรื่องที่เป็นทางการ จึงจำเป็นต้องทำการบันทึกเสียงสนทนาเพื่อความโปร่งใส รวมถึงเพื่อวัตถุประสงค์ภายในของกัมพูชาด้วย และจากนั้นเป็นต้นมา ตนเอง ก็ได้แชร์เทปเสียงสนทนานี้ให้กับบุคคลอื่นๆ ราว 80 คน ที่รวมถึงสมาชิกคณะกรรมการถาวรของพรรค คณะทำงานวุฒิสภา หน่วยงานเฉพาะกิจด้านการต่างประเทศ หน่วยงานด้านการศึกษาและการเข้าถึงกลุ่มกิจการชายแดน และสมาชิกกองกำลังติดอาวุธ ซึ่งในจำนวนคนเหล่านี้อาจมีความเป็นไปได้ที่จะมีบางคนที่ไม่พอใจนายกรัฐมนตรีของไทย ฮุน เซนโพสต์ต่อว่า “แต่หลังจากการสนทนาผ่านไปเพียงไม่กี่ชั่วโมง ผู้นำไทยกลับออกมากล่าวหาผู้นำกัมพูชาอย่างเปิดเผยว่าทำงานการเมืองอย่างไม่เป็นมืออาชีพ และขับเคลื่อนประเด็นทางการเมืองผ่านทางเฟซบุ๊ก […]

มทภ.2 ไม่ติดใจนายกฯ ปมคลิปเสียง ขอทำเพื่อชาติ-ปชช.

อีสาน 18 มิ.ย.- “พล.ท.บุญสิน” มทภ.2 ไม่ติดใจ “นายกฯ อิ๊งค์” ปมคลิปเสียง ขอทำงานเพื่อชาติ-ประชาชน พร้อมเดินทางเยี่ยมลูกน้องบาดเจ็บจากภารกิจชายแดน พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้โทรมาปรับความเข้าใจ พร้อมทั้งอธิบายเนื้อหาในการสนทนากับสมเด็จฮุน เซน เพื่อต้องการให้สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา เบาบางลง เป็นการพูดคุยกันหลังบ้าน โดยตนได้บอกกับนายกฯ ไปว่า “ผมไม่มีอะไรครับ ผมเข้าใจ” ทั้งนี้ นายกฯ ได้ขอบคุณที่เข้าใจ ถือว่าคุยแล้วเข้าใจแล้ว ก็ไม่ติดใจอะไร ตนทำเพื่อประเทศชาติ เพื่อประโยชน์ส่วนรวมของพี่น้องประชาชน พล.ท.บุญสิน ยังระบุต่อว่า วันนี้กำลังเดินทางไปเยี่ยมผู้ใต้บังคับบัญชาที่ได้รับบาดเจ็บจากภารกิจชายแดน ตนทำงานตามปกติ ไม่มีอะไร.-313.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” บอก “จบแล้วครับนาย” ขออย่าปรามาส จะเป็นฝ่ายค้านให้ดู

กทม. 18 มิ.ย.-“อนุทิน” สั่ง จนท.ขนของออกจากกระทรวง บอก “จบแล้วครับนาย” ไม่ต้องคุยนายกฯ หลัง “หมอมิ้ง” ยื่นไพ่ใบสุดท้าย ขออย่าปรามาส จะเป็นฝ่ายค้านให้ดู เตรียมซ้อมกับ “ไอซ์ รักชนก” เวลา 13.35 น. วันที่ 18 มิ.ย.68 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์หลังนายกฯ ระบุว่ายังไม่แจ้งเงื่อนไขการปรับ ครม. ว่า ตนยังไม่ได้ยิน ซึ่งเมื่อวานนี้ได้คุยกับ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกฯ ซึ่งเราก็บอกท่าทีเราไปแล้ว เมื่อถามว่า การขนของออกจากห้องทำงาน ถือเป็นการปิดประตูเจรจาหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ได้คุยกับ นพ.พรหมินทร์ ชัดเจนแล้วว่า เราคงไม่ได้เปลี่ยนอะไร และ นพ.พรหมินทร์ ได้ย้ำเงื่อนไขของพรรคเพื่อไทยว่าเป็นแบบนี้ เมื่อถามต่อว่า ต้องคุยกับนายกฯ อีกครั้งหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ตนยังไม่ได้คุยกับนายกฯ และเมื่อวาน […]

นายกฯ รับคลิปเสียงจริง ซัด “ฮุนเซน” ปล่อยหวังรัฐบาล-กองทัพแตกแยก

ทำเนียบ 18 มิ.ย.- นายกฯ รับคลิปเสียงคุย “ฮุนเซน” เป็นของจริง แจงปมบอกแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นฝ่ายตรงข้าม เป็นเทคนิคการเจรจาต่อรองสร้างสันติภาพ หลัง “ฮุนเซน” โกรธ ชี้จุดประสงค์หวังสร้างคะแนนนิยมรัฐบาลกัมพูชาที่ไม่สนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ รับไม่ไว้ใจ จากนี้ไม่ขอคุยส่วนตัว ปัดตอบสัมพันธ์ 2 ตระกูล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงด่วนกรณีมีคลิปเสียงสนทนาระหว่างที่พูดคุยกับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เผยแพร่ออกมาผ่านโซเชียลมีเดีย โดยยอมรับว่าเป็นคลิปจริง เป็นการคุยกันเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งตนได้ทราบข้อมูลจากล่ามที่แปลว่า ทางสมเด็จฮุน เซน โกรธแม่ทัพภาคที่ 2 ที่มีการพูดกันก่อนหน้านั้น เมื่อได้คุยกัน ตนจึงบอกว่า แม่ทัพภาคที่ 2 พูดกันแบบนี้ ในเมื่อเราทั้งไทยและกัมพูชาเป็นฝั่งตรงข้ามกันอยู่แล้ว ในตอนนั้นก็ต้องพูดแบบนี้ อย่าไปคิดเลย ซึ่งเป็นสิ่งที่พยายามจะทำความเข้าใจ เพราะทางฝั่งสมเด็จฮุน เซน โกรธเรื่องนี้ และเป็นเทคนิคในการพูดหลังไมค์หลังบ้านแบบส่วนตัว ซึ่งการคุยโทรศัพท์ก็ไม่ควรเอามาเปิดเผย เพราะเป็นเทคนิคในการเจรจาพูดคุยต่อรอง ส่วนตัวคิดว่า ตนทำเพราะมีจุดมุ่งหมายและมีประเด็นที่จะรักษาไว้ซึ่งความสงบสุขของบ้านเมืองและรักษาอธิปไตยของไทยไว้ ให้ผลประโยชน์อยู่กับประเทศชาติและประชาชน ตนก็คุยด้วยความซอฟต์และความนุ่มนวล เพราะบางทีเวลาคุยกันส่วนตัวก็เรียกกันลุงหลาน […]