กรุงเทพฯ 2 ก.ย. – อธิบดีกรมชลประทานระบุฝนตกต่อเนื่อง ทำให้มีน้ำไหลเข้าเขื่อนขนาดใหญ่ 35 แห่งทั่วประเทศ กว่า 3,000 ล้าน ลบ.ม. โดยเฉพาะ 4 เขื่อนหลักลุ่มเจ้าพระยา มีน้ำไหลเข้า 1,077 ล้าน ลบ.ม. สั่งเก็บกักไว้ใช้ฤดูแล้งและต้นฤดูฝนปี 63
นายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า ฝนตกหนักหลายพื้นที่จากอิทธิพลของพายุโพดุล ส่งผลให้ตั้งแต่วันที่ 27 สิงหาคม ถึง 2 กันยายน มีน้ำไหลเข้าเขื่อนขนาดใหญ่ 35 แห่งทั่วประเทศ 3,232.34 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ. ม.) แบ่งเป็นเขื่อนภาคเหนือ 8 แห่ง 1,100.49 ล้าน ลบ. ม. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 12 แห่ง 757.76 ล้าน ลบ.ม. ภาคกลาง 3 แห่ง 57.90 ล้าน ลบ.ม. ภาคตะวันตก 2 แห่ง 920.79 ล้าน ลบ.ม. ภาคตะวันออก 6 แห่ง 68.68 ล้าน ลบ.ม. และภาคใต้ 4 แห่ง 326.72 ล้าน ลบ.ม.
สำหรับเขื่อนใหญ่ลุ่มเจ้าพระยา ได้แก่ เขื่อนภูมิพลมีน้ำไหลเข้า 386.97 ล้าน ลบ.ม. เขื่อนสิริกิติ์มีน้ำไหลเข้า 545.82 ล้าน ลบ.ม. เขื่อนแควน้อยบำรุงแดนมีน้ำไหลเข้า 88.75 ล้าน ลบ.ม. และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์มีน้ำไหลเข้า 57.54 ล้าน ลบ.ม. รวมเป็น 1,079.08 ล้าน ลบ.ม.
นายทองเปลว กล่าวต่อว่า เขื่อนที่มีน้ำเก็บกักต่ำกว่า 30% ซึ่งอยู่ในเกณฑ์เฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดมี 12 แห่งได้แก่ เขื่อนแม่กวงอุดมธารามีน้ำ 27% เขื่อนแควน้อยฯ มีน้ำ 27% เขื่อนลำพระเพลิงมีน้ำ 11% เขื่อนอุบลรัตน์มีน้ำ 23% เขื่อนจุฬาภรณ์มีน้ำ 27% เขื่อนลำนางรองมีน้ำ 11% เขื่อนมูลบนมีน้ำ 23% เขื่อนลำแซะมีน้ำ 22% เขื่อนป่าสักฯ มีน้ำ 7% เขื่อนกระเสียวมีน้ำ 22% เขื่อนทับเสลามีน้ำ 22% และเขื่อนคลองสียัดมีน้ำ 12%
สำหรับปริมาตรน้ำใช้การได้ 4 เขื่อนหลักลุ่มเจ้าพระยา ได้แก่ เขื่อนภูมิพลมี 1,221 ล้าน ลบ.ม. หรือ 13% เขื่อนสิริกิติ์มี 1,999 ล้าน ลบ.ม. หรือ 30% เขื่อนแควน้อยฯ มี 233 ล้าน ลบ.ม. หรือ 26% และเขื่อนป่าสักฯ มี 84 ล้าน ลบ.ม. หรือ 9% รวมทั้งสิ้น 3,437 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 19% ของความจุทั้ง 4 เขื่อน
นายทองเปลว กล่าวเพิ่มเติมว่า ยังคงมีแนวโน้มที่เขื่อนทั้งขนาดใหญ่และขนาดกลางทั่วประเทศจะมีน้ำไหลลงเขื่อนเพิ่มขึ้น ซึ่งได้สั่งการให้ทุกโครงการชลประทานทั่วประเทศเก็บกักน้ำไว้ในเขื่อนทุกแห่งให้ได้มากที่สุด เพื่อเพียงพอใช้ในฤดูแล้งที่จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2562 และจนถึงต้นฤดูฝนปี 2563
“ขณะนี้กรมชลประทานติดตามการเคลื่อนตัวของพายุลูกใหม่ที่จะเข้าสู่เกาะไหหลำวันนี้ (2 ก.ย.) ซึ่งกรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่าจะทำให้เกิดฝนตกหนักภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กำชับให้พร้อมรับสถานการณ์เนื่องจากยังมีพื้นที่น้ำท่วมอยู่ จึงเร่งระบายน้ำเดิมและวางแผนบริหารจัดการรับฝนที่จะตกลงมาระหว่างวันนี้ถึงวันที่ 4 กันยายนอีกระลอก เฝ้าระวังป้องกันและแก้ไขเพื่อให้มีผลกระทบต่อประชาชนและเกษตรกรน้อยที่สุด” นายทองเปลว กล่าว.-สำนักข่าวไทย