รร.แกรนด์ไฮแอท 28 ส.ค. – รมว.คลังยอมรับผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ จำนวนน้อยใช้เงินซื้อสินค้าผิดประเภท แต่เน้นย้ำให้ สศค.และคลังพื้นที่ทำความเข้าใจถึงวัตถุประสงค์ของการใช้เงินกระตุ้นเศรษฐกิจ
นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงกรณีผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐถูกวิจารณ์นำเงินไปซื้อเหล้า เบียร์ และบุหรี่ ว่า แค่เป็นส่วนน้อย ยอมรับว่าอาจจะมีการใช้จ่ายนอกเหนือหลักเกณฑ์บ้าง แต่ไม่มาก ซึ่งได้มอบหมายให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ร่วมกับคลังในพื้นที่เก็บข้อมูลและสื่อสารให้ประชรชนและผู้บริโภคเข้าใจถึงวัตถุประสงค์ที่รัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะเร่งด่วน ตรงจุด รวดเร็ว ไม่รอ เพื่อบรรเทาผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว และต้องการให้ประชาชนมีเงินจับจ่ายใช้สอย โดยยืนยันว่ากระทรวงการคลังมีข้อมูลติดตามดูแลการใช้เงินกระตุ้นเศรษฐกิจ
รมว.คลัง ยืนยันรัฐบาลมีความจำเป็นต้องออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะเร่งด่วน 316,000 ล้านบาท เพราะเศรษฐกิจโลกชะลอตัวลง และมีผลกระทบมาถึงกำลังซื้อผู้บริโภค ทำให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวอัตราชะลอตัวลงจากปี 2561 ขยายตัวร้อยละ 4 ในไตรมาส 1 ปี 2562 ไตรมาส 1 ชะลอตัวเหลือร้อยละ 2.8 และโตร้อยละ 2.3 ไตรมาส 2 ดังนั้น รัฐบาลจะต้องออกมาตรการกระตุ้น โดยมีเป้าหมายชัดเจน เพื่อบรรเทาผลกระทบดังกล่าว ไม่ให้ความมั่นใจหดหายไป เพราะหากการจับจ่ายใช้สอยน้อยลงเศรษฐกิจชะลอตัวก็จะถูกผลกระทบกันหมด จึงต้องทำให้เกิดสภาพคล่องให้กับผู้มีรายได้น้อย เอสเอ็มอี และภาคการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นหัวจักรสำคัญของเศรษฐกิจ
นายอุตตม กล่าวด้วยว่า ได้ใช้เวทีไทยแลนด์ฯ สร้างความมั่นใจให้กับสถาบันทั่วโลกว่ารัฐบาลชุดใหม่แม้จะเป็นรัฐบาลผสมก็มีความตั้งใจที่จะเดินหน้าพัฒนาประเทศตามยุทธศาสตร์เพิ่มขีดความสามารถการพัฒนาที่ยั่งยืนครอบคลุมทั่วถึงด้วยเทคโนโลยีและดิจิทัล เพื่อสร้างโอกาสใหม่ ๆ ภายใต้การรักษาวินัยการเงินการคลัง ซึ่งรัฐบาลจะส่งเสริมให้ต่างชาติเข้ามาลงทุนทั้งโครงสร้างพื้นฐาน การวิจัยและพัฒนา พร้อมกับจะดูแลเศรษฐกิจของประเทศ แม้ว่าจะมีความเสี่ยงจากภาวะเศรษฐกิจ.-สำนักข่าวไทย