กรมประมงเตือนห้ามให้เช่าใบอนุญาตทำประมงอย่างเด็ดขาด

กรุงเทพฯ 19 ส.ค. – กรมประมง เตือนเรือประมงพาณิชย์และเรือพื้นบ้านที่เช่าใบอนุญาตทำประมง ซึ่งผิดกฏหมายทั้งทางอาญาและแพ่ง โทษรุนแรงถึงขั้นถอนใบอนุญาตทำประมง


นายอดิศร พร้อมเทพ อธิบดีกรมประมง กล่าวว่า ล่าสุดศาลปกครองเพชรบุรีมีคำวินิจฉัยในกรณีเจ้าของเรือยินยอมให้ผู้เช่านำเรือที่ให้เช่าไปทำการประมง โดยให้อาศัยสิทธิการทำประมง ตามใบอนุญาตของเจ้าของเรือ เพื่อให้ผู้เช่าสามารถนำไปอ้างต่อเจ้าหน้าที่ของรัฐ ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกได้เช่นนั้น ย่อมถือได้ว่า เจ้าของเรือยินยอมให้ผู้เช่าเชิดตัวเขาเองเพื่อแสดงว่าเป็นตัวแทนของเจ้าของเรือเพื่อทำการประมงตามใบอนุญาตของเจ้าของเรือ เจ้าของเรือย่อมต้องรับผิดต่อรัฐหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือต่อบุคคลภายนอก เสมือนเป็นตัวการ โดยถือเสมือนว่าผู้เช่าเรือเป็นตัวแทนของเจ้าเรือตามมาตรา 821 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ และหากจะถือว่าการทำสัญญาให้เช่าเรือ มีผลทำให้เจ้าของเรือ ไม่ต้องรับผิดในฐานะตัวการ และคณะกรรมการมาตรทางปกครองไม่สามารถสั่งเพิกถอนใบอนุญาตการทำประมงของเรือได้ ย่อมจะทำให้รัฐไม่สามารถสั่งลงโทษทางปกครอง จึงสามารถเพิกถอนใบอนุญาตการทำประมงของเรือที่ทำผิดกฎหมายได้เลยเนื่องจากเจ้าของเรือจงใจหลีกเลี่ยงกฎหมาย ด้วยการทำสัญญาให้เช่าเรือแก่บุคคลอื่นที่ตนอุปโลกขึ้นมาให้เป็นผู้เช่าเรือ แล้วหยิบยกเอาสัญญาให้เช่าเรือดังกล่าวขึ้นมากล่าวอ้างว่า ตนไม่มีส่วนรู้เห็นกับการกระทำความผิดและไม่อาจสั่งลงโทษเพิกถอนใบอนุญาตทำการประมงของเรือลำนั้นได้ บทบัญญัติของกฎหมายที่ให้ลงโทษทางปกครองแก่เรือที่ทำการประมงผิดกฎหมายในกรณีดังกล่าว ย่อมไม่อาจมีผลบังคับใช้ได้ในทางปฏิบัติ และย่อมทำให้การแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมายไม่อาจบรรลุผลได้ตามหลักการหรือเหตุผลและเจตนารมณ์ของกฎหมาย                                                                      

ทั้งนี้จากพระราชกำหนดการประมง 2558 และที่แก้ไขเพิ่มเติม 2560 ได้กำหนดให้ผู้ที่จะทำการประมงในประเทศไทยต้องขออนุญาตทำการประมงตามที่กฎหมายได้บัญญัติไว้ และผู้ที่ได้รับใบอนุญาตทำการประมงในน่านน้ำไทยมีความจำเป็นที่จะต้องเข้าใจในสิทธิและหน้าที่ รวมถึงความรับผิดชอบของตน และต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายได้กำหนดไว้ ทั้งที่ให้ผู้อื่นยืมหรือเช่าเรือประมงของตนที่มีใบอนุญาตทำการประมง แล้วออกไปกระทำความผิดตามกฎหมาย เจ้าของเรือย่อมต้องมีความผิดและต้องรับผิดชอบในการกระทำผิดกฎหมายนั้นด้วย โดยจะอ้างว่าได้ให้ผู้อื่นยืมหรือให้เช่าเรือประมง ซึ่งตนไม่รู้เห็นกับการกระทำความผิดดังกล่าวนั้นไม่ได้ แม้จะนำสัญญาให้เช่าเรือของทั้งสองฝ่ายมายืนยันก็ตาม


“ได้มีกรณีตัวอย่างของคดีในลักษณะนี้แล้ว ซึ่งเกิดขึ้นในพื้นที่ของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จึงเตือนผู้ประกอบอาชีพทำการประมงที่มีใบอนุญาตทำการประมงทั้งเรือประมงพาณิชย์และพื้นบ้าน หากให้ผู้อื่นยืมหรือเช่าเรือของตนออกไปทำการประมง และผู้ยืมกระทำความผิดใดๆ ก็ตาม เจ้าของเรือไม่สามารถปฏิเสธความรับผิดชอบได้ ต้องรับโทษตามกฎหมายด้วย จะถูกเพิกถอนหรือพักใช้ใบอนุญาตทำการประมง” นายอดิศรกล่าว . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง