อนุ กมธ.ปลาหมอคางดำ เดือด! กรมประมงไม่มีเอกสารแจงผลสำรวจความเสียหาย

รัฐสภา ​8 ส.ค. – อนุ กมธ.ปลาหมอคางดำ เดือด “กรมประมง” ไม่มีเอกสารชี้แจงผลสำรวจความเสียหายเกษตรกร ขณะที่สถาบันการศึกษามีตัวเลขชัด มองไม่คิดจะฟ้องร้องแทนประชาชน ทำไปก็ไม่ได้ใช้ ด้าน “ณัฐชา” เผยหลัง 15 ส.ค. สรุปผลแล้วจะแถลงต่อสังคม


การประชุมคณะอนุกรรมธิการพิจารณาศึกษาสาเหตุและแนวทางการแก้ไขปัญหา รวมถึงผลกระทบจากการนำเข้าปลาหมอคางดำ เพื่อการวิจัยและพัฒนาสายพันธุ์ในราชอาณาจักรไทย ครั้งที่ 9 โดยนายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ รองประธานอนุ กมธ. ทำหน้าที่ประธานการประชุม

ก่อนการประชุม นายณัฐชา ระบุว่า วันนี้มีการเชิญหน่วยงานที่สามารถประเมินมูลค่าความเสียหายมาร่วมให้ข้อมูล ทั้งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ที่มีการประเมินความเสียหายทางเศรษฐกิจไปแล้วอย่างน้อยตำบลละ 100 ล้านบาทต่อปี ซึ่งเราจะทำให้ภาครัฐได้รับรู้ว่าความเสียหายที่เกิดขึ้นเป็นวงกว้างแค่ไหน และหาแนวทางดำเนินการให้เป็นรูปธรรมมากขึ้นในการช่วยเหลือประชาชน


นายณัฐชา ยอมรับว่า จนถึงวันนี้ยังไม่ได้รับความชัดเจนจากหน่วยงานภาครัฐถึงสาเหตุการระบาดของปลาหมอคางดำ แต่ยืนยันว่ากระบวนการฝ่ายนิติบัญญัติจะทำให้ชัดเจน คาดว่าจะแถลงสรุปผลการทำงานได้ภายในสัปดาห์หน้า จากนั้นจะส่งสรุปเรื่องให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อย่างกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รวมถึงคณะรัฐมนตรีที่ควรต้องเอาผิดต้นตอ ผู้ก่อเรื่อง หรือผู้มีส่วนร่วมกับปัญหาที่เกิดขึ้น ให้มารับผิดชอบในส่วนนี้ ทั้งนี้ หน่วยงานภาครัฐจะไปดำเนินการต่อหรือไม่ ทางอนุกรรมาธิการไม่สามารถแทรกแซงการทำงานได้ แต่ยืนยันว่าจะสรุปผลออกมาทั้งหมดแล้วให้ประชาชนตัดสินใจ

สำหรับบรรยากาศในห้องประชุม ทางศูนย์วิจัยและพัฒนาเครื่องมือด้านการประเมินผลตอบแทนทางสังคม วิทยาลัยพัฒนศาสตร์ ป๋วย อึ้งภากรณ์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้นำเสนอผลสำรวจการระบาดของสัตว์น้ำต่างถิ่น ปลาหมอคางดำ กับความสูญเสียทางเศรษฐกิจด้านการประมงของ ต.แพรกหนามแดง อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม ซึ่งพบปรากฏการณ์การระบาดของปลาหมอคางดำ ในปี 2562 แต่จากการสรุปพบว่าในปี 2559 สร้างความเสียหายต่อรายได้ประมงของชุมชนลดลง 5%, ปี 2560 สร้างความความเสียหายต่อรายได้ประมงของชุมชนลดลง 10%, ปี 2561 สร้างความเสียหายต่อรายได้ประมงในชุมชนลดลง 15% (ปัจจุบันคาดการณ์ความเสียหายต่อรายได้ไม่ต่ำกว่า 90% โดยอ้างอิงความเสียหายจากสื่อในพื้นที่)

ขณะที่ผู้แทนทางกรมประมง ชี้แจงว่าตั้งแต่ปี 2560 มีสำรวจผลความเสียหายของเกษตรกร โดยสำรวจกว่า 500 ฟาร์มจาก 3 อำเภอ จ.สมุทรสงคราม เสียหายประมาณ 150-350 ล้านบาทต่อปี แต่นายณัฐชา บอกว่าถ้าศึกษาข้อมูลมาตั้งแต่ต้นจนถึงขณะนี้ก็ยังหาผู้รับผิดชอบไม่ได้ ไม่รู้ว่ากรมประมงทำอะไรอยู่ และผลลัพธ์ที่ออกมาก็ไม่เป็นชิ้นเป็นอัน ที่สำคัญผลสำรวจที่ชี้แจงวันนี้ เมื่อขอดูเอกสารก็ไม่มี ไม่ได้เอามา แล้วจะให้ทำอย่างไร


นพ.วาโย อัศวรุ่งเรือง ประธานอนุ กมธ.ฯ ซึ่งเข้ามาประชุมทีหลัง กล่าวต่อผู้แทนกรมประมงที่มาชี้แจงวันนี้ว่า เมื่อมาชี้แจงแต่ไม่มีเอกสารมา ควรเชิญออกจากห้องประชุมดีหรือไม่ หรือให้โทรไปแจ้งที่หน่วยงานให้ส่งแฟกซ์ข้อมูลมา การประชุมกินภาษีของชาวบ้าน แต่มาแล้วไม่พร้อม เสียเวลา จะเสียชื่ออธิบดีด้วย ตนอุตส่าห์เคยชมไปตั้งเยอะ

หลังจบการประชุม นายณัฐชา ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า วันนี้เน้นการประเมินมูลค่าความเสียหายเป็นสำคัญ ส่วนเรื่องการฟ้องดำเนินคดีมีสภาทนายความมาร่วมสังเกตการณ์ และดำเนินการเพื่อที่จะเป็นตัวแทนประชาชนในการฟ้องร้อง ซึ่งในหลายจังหวัดก็เริ่มแล้ว แต่สิ่งสำคัญคือถ้าเรื่องขึ้นสู่ศาลจะต้องมีตัวเลขมูลค่าความเสียหาย แต่หน่วยงานรัฐอย่างกรมประมง กลับไม่รอบคอบ ไม่มีการวิเคราะห์หรือพิจารณามูลค่าความเสียหายของเกษตรกรแม้แต่ครั้งเดียว แต่มีสิ่งที่เรียกว่าคล้ายรายงานประเมินความเสียหาย คือรายงานการประชุมขออนุมัติวงเงิน 11.4 ล้านบาท เมื่อปี 2561 เพื่อไปช่วยเหลือเกษตรกร ด้วยการรับซื้อปลาหมอคางดำ กิโลกรัมละ 20 บาท ในขณะนั้น โดยระบุความเสียหายราวปีละ 150-350 บาท ซึ่งถือเป็นเพียงข้อสรุปที่ประเมินจากเกษตรกร แต่ไม่ได้ทำเป็นลายลักษณ์อักษร ก็รู้สึกเสียใจ เพราะกรมประมงเกี่ยวข้องโดยตรง และต้องสู้แทนเกษตรกร แต่การต่อสู้ครั้งนี้กลายเป็นการต่อสู้ที่ไม่เต็มที่

ในขณะที่หน่วยงานวิจัยอย่างมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ได้ประเมินความเสียหายย้อนหลังเอาไว้ราวปีละ 130 ล้านบาท จากปัญหาใน 1 ตำบลเท่านั้น ขณะนี้มูลค่าความเสียหายจนถึงปัจจุบันแพร่กระจายไป 17 จังหวัด 40 อำเภอ มีเกษตรกรที่ลงทะเบียนเดือดร้อนกว่า 40,000 ราย แต่กรมประมงไม่เคยประเมินมูลค่าความเสียหาย จากนี้ต้องขอความร่วมมือจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ช่วยประเมินมูลค่าความเสียหาย เพราะในอนาคตอันใกล้ต้องใช้ข้อมูลนี้ในเรื่องคดีความอย่างแน่นอน

“มีแต่การสำรวจและสอบถามเกษตรกรในเบื้องต้น แต่ไม่มีใครหยิบประเด็นเรื่องนี้เป็นเรื่องหลัก อาจเป็นเพราะไม่ได้คิดจะฟ้องร้องเอกชน ดังนั้น มูลค่าความเสียหายตรงนี้ไม่รู้ว่าดำเนินการไปแล้วจะเอาไปใช้ในส่วนไหน ซึ่งอาจเป็นเหตุผลนี้ก็ได้” นายณัฐชา ​กล่าว​

สำหรับการประชุมของอนุ กมธ.ฯ ถือว่าครบทุกมิติ เพราะเราในฐานะฝ่ายนิติบัญญัติ ได้สืบหาข้อเท็จจริงทุกประเด็นที่สังคมสงสัย ได้เชิญทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาชี้แจง ส่วน กมธ.ชุดใหญ่ มีการเชิญบริษัทเอกชนต่างๆ เข้าชี้แจง ซึ่งข้อมูลทั้งหมดจะสรุปหลังจากวันที่ 15 ส.ค. 67 แล้วจะประกาศให้ประชาชนทราบอีกที เพื่อให้ข้อสงสัยได้รับความกระจ่าง ส่วนสิ่งไหนที่ไม่ได้รับข้อมูล เพื่อให้มีคำถามในสังคม และเกิดแรงกดดันว่าจะเปิดหรือไม่เปิดข้อมูล

“ตอนนี้เราขยับไปไกลกว่ากระทรวงเกษตรฯ เราต้องการเป็นตัวแทนประชาชน แต่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ ในฐานะผู้ปกป้องพิทักษ์ผลประโยชน์สิ่งแวดล้อม และระบบนิเวศของประเทศ กลับไม่มีการดำเนินการใดๆ ต่อจากนั้น หรือแม้การประเมินมูลค่าความเสียหาย อยากฝากข้อมูลไปถึง รมว.ทรัพยากรธรรมชาติฯ รมว.เกษตรฯ ด้วย ที่สำคัญขอให้เอกชนแจ้งจุดรับซื้อปลาหมคางดำ 2 ล้านกิโลกรัม ให้ชัดเจนด้วย เพราะประชาชนรู้แค่ 75 จุดรับซื้อของภาครัฐ แต่ต้องใช้เอกสารหลาดอย่าง จึงอาจหันไปขายเอกชนแทน แต่ไม่รู้จะไปขายที่ไหน ขอให้ความกระจ่างตรงนี้ด้วย เพราะประชาชนฝากแจ้งมา” นายณัฐชา กล่าว.-319-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ชัยชนะ” บอกไม่ทราบ ข่าว สส.ดังนครศรีฯ ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมา

กทม. 30 พ.ค.-“ชัยชนะ” บอกไม่ทราบ-ไม่รู้ ข่าว สส.ดัง จ.นครศรีธรรมราช ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมากลางงานบวช ยืนยันไม่เป็นความจริง นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกระแสข่าว สส.ชื่อดัง จ.นครศรีธรรมราช ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมา กลางงานบวชลูกชายของนายก อบต. ต่อหน้าชาวบ้านนับร้อยคน โดยนายชัยชนะ ได้ปฏิเสธข่าวบอก ไม่รู้ ไม่ทราบข่าว พร้อมบอกผู้สื่อข่าวว่า ต้องไปถามที่มาของข่าว เมื่อถามว่า เป็นคนรู้จัก หรือคนใกล้ชิดหรือไม่ นายชัยชนะ ระบุว่า ตนไม่ทราบเหมือนกัน เพราะตอนนี้ยังไม่ทราบข่าวเลย ก่อนย้ำอีกครั้งว่า ต้องไปถามที่มาของข่าว เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ยืนยันว่า ไม่เป็นความจริงใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ตอบว่า “ครับผม” เมื่อถามว่า ไม่ได้เข้าไปในพื้นที่เลยใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ระบุว่า ตนลงพื้นที่วันละหลายงาน และเมื่อถามทิ้งท้ายว่า ไม่มีเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ยืนยันว่า “ไม่มี“.-315.-สำนักข่าวไทย

รวบพระเอกลิเกทุบหัวลูกเลี้ยงออทิสติกดับ

นครราชสีมา 30 พ.ค. – รวบแล้ว พระเอกลิเกทุบหัวลูกเลี้ยงออทิสติกเสียชีวิต และล่วงละเมิดลูกเลี้ยงผู้หญิงคนเล็กอายุ 11 ขวบ เจ้าตัวยังปากแข็ง แต่จำนนด้วยหลักฐาน ตำรวจ สภ.เมืองนครราชสีมา บุกรวบตัว นายกิติทัช อายุ 48 ปี พระเอกลิเก “ลักยิ้มทับทิมสยาม” ได้คาบ้านพักแห่งหนึ่งในพื้นที่อำเภอละหานทราย จังหวัดบุรีรัมย์ ตั้งแต่เมื่อคืนนี้ โดยขณะนี้คุมตัวอยู่ในห้องขัง สภ.เมืองนครราชสีมา ขณะจับกุมตัวผู้ต้องหากำลังเตรียมหลบหนีไปประเทศกัมพูชา เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา” และ “ข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี” ขณะนี้กำลังเค้นสอบปากคำ เนื่องจากผู้ต้องหายังปากแข็ง แต่จำนวนด้วยหลักฐาน ก่อนเตรียมนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ คาดว่าเป็นช่วงบ่ายวันนี้ คดีนี้สืบเนื่องจาก น.ส.หมิว อายุ 46 ปี นางเอกลิเก พาลูกสาวอายุ 11 ปี เข้าร้องทุกข์ต่อ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี หลังลูกชายคนโต อายุ 18 ปี ซึ่งป่วยออทิสติก […]

“สมศักดิ์” วีโต้แล้ว! มติแพทยสภาให้ลงโทษ 3 หมอ คดีชั้น 14

สธ. 29 พ.ค. – “สมศักดิ์” วีโต้แล้ว! ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เผย “สมศักดิ์” สภานายกพิเศษ ส่งคำตอบให้มติแพทยสภาให้ลงโทษ 3 แพทย์ กรณีชั้น 14 รพ.ตำรวจเมื่อวานนี้ ขออย่าใช้คำว่า วีโต้ ให้ใช้คำว่าเห็นด้วย-ไม่เห็นด้วย นายกองตรีธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการเสนอความเห็นสภานายกพิเศษเพื่อพิจารณาตามมาตรา 25 แห่งพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2525 ได้ยื่นรายงานความเห็นจากคณะกรรมการฯ ต่อมติแพทยสภาให้ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษ แพทยสภา เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคมที่ผ่านมา ล่าสุดเมื่อวานนี้ (28 พ.ค.) สภานายกพิเศษฯ ได้ทำหนังสือตอบกลับไปยังแพทยสภาแล้ว เมื่อเวลา 16.00 น. โดยที่ตนเองก็ยังไม่ทราบว่า มีเนื้อหาบ้าง แต่ขออย่าใช้คำว่า วีโต้ ขอให้ใช้คำว่ามีส่วนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย เบื้องต้นเป็นความส่งความเห็นกลับต่อมติของแพทยสภา ซึ่งมีการพิจารณาเรื่องร้องเรียนแพทย์จำนวน 4 […]

จับแล้ว! “สามีภรรยา” คนสนิทอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง

29 พ.ค.- จับแล้ว! สองสามีภรรยา คนสนิทอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง มือคุมบัญชีประมูลร้านค้างานประจำปี – ร้านค้าสวัสดิการ หลังศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ออกหมายจับ วันนี้ ( 29 พ.ค.68) เวลา 16.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปปป. สนธิกำลังร่วมเจ้าหน้าที่ กก.5 บก.ป. นำกำลังเข้าจับกุม สองสามีภรรยา คนสนิทนายแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง หลังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อนุมัติออกหมายจับ ในความผิดฐาน ข้อหาฟอกเงิน และ เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานที่มีหน้าที่ซื้อหรือการรักษาทรัพย์ แต่กลับเบียดบังหรือทุจริตทรัพย์นั้นมาเป็นของตน, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบและเป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต” โดยสามารถจับกุมตัวทั้งสองได้ภายในค่ายลูกเสือพระพุทธศาสนา มูลนิธิหลวงพ่อวัดไร่ขิง อ.สามพราน จ.นครปฐม ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย มาสอบปากคำยัง กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ขณะเดียวมีรายงานว่า นอกเหนือจากผู้ต้องหาทั้งสองรายนี้ พนักงานสอบสวนยังได้ขออำนาจศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อนุมัติออกหมายจับอดีตพระลูกวัดคนสนิท ทิดแย้ม ซึ่งถูกจับกุมก่อนหน้านี้ และถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ โดย พนักงานสอบสวน เตรียมประสานไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพ […]

ข่าวแนะนำ

สภาผ่านฉลุย รับหลักการงบฯ 69 นายกฯ เชื่อยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทย

รัฐสภา 31 พ.ค.-สภาผ่านฉลุย รับหลักการงบฯ 69 วาระแรก เสียงท่วม 322 เสียง ตั้ง กมธ. 73 คน พบ “อนุดิษฐ์” โผล่เป็น กมธ.โควตารัฐบาล ด้านนายกฯ ขอบคุณสภาฯ ยันรัฐบาลจัดลำดับความสำคัญงบฯ ตามสถานการณ์ เชื่องบประมาณที่เสนอไปจะยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนคนไทยทุกคน ตั้งใจใช้เป็นเครื่องมือสำคัญขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันสุดท้ายของการประชุมสภาผู้แทนราษฎร นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 เป็นประธานการประชุม โดยหลังจากใช้เวลากว่า 3 วัน รวม 41 ชั่วโมง ที่ประชุมมีมติรับหลักการร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ด้วยคะแนน 322 ต่อ 158 เสียง ไม่ลงคะแนน 2 เสียง และตั้งคณะกรรมาธิการ จำนวน 73 คน ทั้งนี้ เป็นที่สังเกตว่า มีชื่อ […]

นายกฯ เข้าสภา ก่อนโหวตร่าง พ.ร.บ.งบฯ 69

รัฐสภา 31 พ.ค. – นายกฯ บอกเจ็บคอ หลังสื่อถามต้องเช็กเสียงก่อนโหวตร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ ปี 2569 หรือไม่ เมื่อเวลา 14.50 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าอาคารรัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 วันสุดท้าย ก่อนที่จะมีการลงมติรับหรือไม่รับในวาระแรก ผู้สื่อข่าวสอบถามว่า จะต้องมีการเช็กเสียงก่อนลงมติหรือไม่ นายกรัฐมนตรีไม่ตอบ เพียงแต่หันมาแล้วใช้มือชี้ที่คอของตัวเอง ก่อนระบุว่า “เจ็บคอ” และเดินขึ้นห้องประชุมทันที.-316-สำนักข่าวไทย

กองปราบย้าย “สจ.กอล์ฟ-พวก” เข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ

กทม. 31 พ.ค.- ตำรวจกองปราบฯ คุมตัว “สจ.กอล์ฟ” พร้อมพวกทั้ง 7 คน จากเรือนจำ จ.สงขลา ไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เรียบร้อยแล้ว ด้าน ผอ.กกต.สงขลา แจ้งความดำเนินคดีอาญาเพิ่มอีก 1 คน รวมเป็น 10 คน คดีนายสิรดนัย พลายด้วง หรือ สจ.กอล์ฟ ที่สั่งลูกน้องไปรุมทำร้ายตำรวจ ตชด. ขณะปฏิบัติหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยหน่วยเลือกตั้งท้องถิ่นเทศบาลตำบลพะวง อ.เมืองสงขลา เมื่อวันที่ 11 พ.ค.ที่ผ่านมา และคดีนี้มีการโอนย้ายให้ทางตำรวจกองปราบดำเนินการ และทางตำรวจกองปราบได้ยื่นหนังสือคำร้องโอนย้ายการฝากขังจากศาลจังหวัดสงขลา มาเป็นศาลอาญารัชดา และทำหนังสือไปยังอธิบดีกรมราชทัณฑ์เพื่อขอโอนตัวผู้ต้องขังทั้ง 7 ราย จากเรือนจำจังหวัดสงขลา มาคุมขังต่อยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพ เพื่อความสะดวกในการดำเนินการทางคดี ล่าสุด เมื่อวานนี้ (30 พ.ค.68) ได้มีการส่งตัว สจ.กอล์ฟ พร้อมพวกทั้ง 7 รายจากเรือนจำจ.สงขลาไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯเรียบร้อยแล้ว โดยภารกิจนี้ถูกปิดเป็นความลับเพื่อความปลอดภัย โดยผู้ต้องขังทั้ง 7 รายประกอบด้วย นายสิรดนัย […]

ตำรวจเมากร่าง ถูกให้ออกจากราชการ

เชียงใหม่ 31 พ.ค.-ให้ออกจากราชการ ตำรวจเมากร่าง ทำร้ายร่างกายตำรวจจราจร สภ.สันกำแพง ขณะปฏิบัติหน้าที่ จากกรณีคลิปตำรวจนายหนึ่ง ได้ใช้คำพูดด่าทอหยาบคาย และถึงขั้นเข้าไปทำร้ายร่างกายตำรวจจราจรสถานีตำรวจภูธรสันกำแพง ขณะปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นบริเวณแยกต้นเปาพัฒนา ตำบลต้นเปา อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ โดยต้นเหตุเกิดจาการที่ตำรวจที่มีอาการมึนเมา ขับรถไปเฉี่ยวชนรถของผู้อื่นจนได้รับความเสียหาย และต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรมาดูแลความเรียบร้อย แต่กลับถูกด่าทอ และทำร้ายร่างกายกันเกิดขึ้น โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจรายนี้ ที่เมาแล้วกร่าง ถูกดำเนินคดี 4 ข้อหา คือ 1.ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับความเสียหาย 2.ขับรถในขณะเมาสุรา 3.ทำร้ายร่างกายผู้อื่น และ 4.ดูหมิ่นเจ้าพนักงาน และล่าสุด วันที่ 30 พฤษภาคม ที่ผ่านมา พลตำรวจตรี วรพงศ์ คำลือ ผู้บังคับการกองบังคับการ สืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 5 ได้มีคำสั่งที่ 204 / 2568 ให้สิบตำรวจเอก นายดังกล่าว ออกจากราชการไว้ก่อน […]