Big Story : ตรวจสอบรถ จยย.ต้องสงสัยที่หัวหิน ไม่พบระเบิด

ประจวบคีรีขันธ์ 4 ส.ค.- นายอำเภอหัวหินเผยชุดอีโอดีเคลียร์เรียบร้อย จยย.จอดไว้นาน 3 วัน สถานีรถไฟหัวหิน ไม่พบระเบิดซุกซ่อน ล่าสุดเปิดพื้นที่ใช้ตามปกติแล้ว ชี้เสียงที่ได้ยินจนแชร์กันในโซเชียลเป็นเสียงปืนยิงน้ำแรงดันสูง





เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา เกิดเหตุป่วนที่สถานีรถไฟหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พบรถจักรยานยนต์ต้องสงสัย 3 คัน ทะเบียนยะลา ปัตตานี นราธิวาส นำมาจอดทิ้งไว้ที่หน้าสถานีรถไฟหลายวันแล้ว และจากการตรวจสอบพบมีข้อมูลกับป้ายทะเบียนไม่ตรงกัน ตำรวจและฝ่ายความมั่นคงต้องปิดล้อมรอบพื้นที่สถานีรถไฟหัวหินนานกว่า 2 ชั่วโมง พร้อมสั่งหยุดรถไฟทุกขบวนที่จะเข้ามายังสถานีรถไฟหัวหินเป็นการชั่วคราว เพื่อให้เจ้าหน้าที่อีโอดีเข้าตรวจสอบ ทำให้ผู้โดยสารติดค้างอยู่ด้านนอกเป็นจำนวนมาก ขณะเดียวกันยังสร้างความตื่นตระหนกให้กับประชาชนในพื้นที่ เนื่องจากมีเสียงดังคล้ายระเบิดเกิดขึ้น 3 ครั้ง  ผลการตรวจสอบล่าสุด  ไม่พบวัตถุระเบิด ส่วนเสียงดังกล่าว เกิดจากเจ้าหน้าที่ยิงปืนอัดแรงดันสูงรถจักรยานยนต์ต้องสงสัยทั้ง 3 คัน  ส่วนการตรวจสอบกล้องวงจรปิด เบื้องต้น พบผู้หญิงนำรถจักรยานยนต์ สีฟ้าทะเบียนยะลา มาจอดทิ้งไว้ตั้งแต่ 28 กรกฎาคมที่ผ่านมา ส่วนรถจักรยานยนต์อีก 2 คน คาดว่าน่าจะถูกนำมาจอดภายหลังเกิดเหตุการณ์ระเบิดป่วนกรุงเทพฯ จึงต้องตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งว่ามีความเชื่อมโยงกันหรือไม่ ทั้งนี้จากเหตุการณ์ดังกล่าวได้มีการสั่งชะลอการเดินรถไฟ 1 ขบวนที่จะผ่านเข้ามายังสถานีหัวหิน ทำให้ล่าช้าไปประมาณ 10 นาที ช่วงเวลา 13.00 น. ซึ่งหลังเจ้าหน้าที่เข้าเคลียร์พื้นที่เรียบร้อย ได้เปิดให้มีการเดินรถตามปกติแล้ว


เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบผู้หญิงนำรถจักรยานยนต์ มีโอ สีฟ้าทะเบียนยะลา มาจอดตั้งแต่วันที่ 28 กรกฎาคมที่ผ่านมา ส่วนรถจักรยานยนต์อีก 2 คน คาดว่าน่าจะถูกนำมาจอดภายหลังเกิดเหตุการณ์ระเบิดที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งเจ้าหน้าที่จะตรวจสอบโดยละเอียดอีกครั้งว่ามีความเชื่อมโยงกันหรือไม่

ด้าน พลตำรวจโทปิยะ อุทาโย โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ฝากเตือนประชาชนขออย่าตื่นตระหนก ควรรับฟังข่าวสารจากทางการเป็นหลักก่อน ไม่ควรรีบแชร์ข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง และช่วยกันเป็นหูเป็นตาหากพบสิ่งผิดปกติให้รีบแจ้งตำรวจหรือโทร 191 โดยด่วน

ก่อนหน้านี้ในพื้นที่หัวหินเคยตกเป็นพื้นที่เป้าหมายถูกรอบวางระเบิดมาแล้ว 2 จุด เมื่อเดือนสิงหาคม ปี 2559 ภายในเทศบาลเมืองหัวหิน โดยจุดแรก คือบริเวณหอนาฬิกา 1 ลูก และบริเวณหน้าโรงเรียนวัดหัวหิน อีก 1 ลูก ซึ่งอยู่ใกล้เคียงกัน ภายหลังจากเกิดเหตุระเบิด บริเวณหน้าร้านอาหารจอห์นนี่ 56 ถนนเดชานุชิต และบริเวณหน้าร้านเรนทรี สปา ถนนพูนสุข ตัดซอยเสละคาม ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2  คน บาดเจ็บอีก 24 คน  โดยเหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นพร้อมกันกับเหตุลอบวางระเบิดพร้อมกันอีกหลายจังหวัดในพื้นที่ภาคใต้

ส่วนความคืบหน้าเหตุคนร้ายไม่ทราบกลุ่มและจำนวน กระจายกำลังลอบวางระเบิดตู้เอทีเอ็ม ในพื้นที่ 3 อำเภอ ของจังหวัดปัตตานี เมื่อคืนที่ผ่านมา  ได้แก่ ตู้เอทีเอ็มธนาคารอิสลามหน้ามหาวิทยาลัยฟาฏอนี หมู่3 ต.เขาตูม อ.ยะรัง ตู้เอทีเอ็มธนาคารอิสลาม ที่หน้าโรงเรียนอาซิซสถาน ม.7 ต.นาประดู่ อ.โคกโพธิ์ และบริเวณตู้เอทีเอ็มธนาคารอิสลามหน้าโรงเรียนศาสนศึกษา ม.1 ต.ตะบิ้ง อ.สายบุรี ล่าสุดเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ได้เข้าไปตรวจสอบเหตุระเบิดที่ตู้เอทีเอ็มธนาคารอิสลาม หน้าโรงเรียนอาซิซสถาน พบตู้เอทีเอ็มดังกล่าวเสียหายอย่างหนัก มีอุปกรณ์ประกอบระเบิดแบบลากสายกระจัดกระจายไปทั่ว และยังพบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม. และปลอกกระสุนเอ็ม 16 อีกกว่า 10 ปลอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน  ขณะที่กล้องวงจรปิดที่เสาไฟฟ้าหน้าโรงเรียนไม่สามารถใช้การได้

จากการสอบสวน พบว่า เมื่อช่วงเที่ยงคืนที่ผ่านมา มีคนร้ายไม่ต่ำกว่า 5 คน พร้อมอาวุธปืนครบมือ ลอบนำระเบิดแสวงเครื่องบรรจุในถังแก๊ซปิกนิก น้ำหนัก 15 กิโลกรัม มาจุดฉนวนโดยการลากสาย นำมาวางไว้ที่หน้าตู้เอทีเอ็ม และก่อนที่คนร้ายจะกดฉนวนระเบิด ได้ใช้อาวุธปืน เอ็ม 16 และ 9 มม.ยิงขึ้นฟ้า เพื่อข่มขู่ไม่ให้ชาวบ้านออกมา จากนั้นคนร้ายได้กดฉนวนระเบิด เป็นเหตุให้ตู้เอที่เอ็มได้รับความเสียหาย อีกทั้งก่อนหลบหนีไป ได้นำยางรถยนต์มาจุดไฟเผาบนถนนสายนาประดู่-ยะลา เพื่อป้องกันการติดตามของเจ้าหน้าที่

ด้าน พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี ระบุหลังเข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุด้วยตัวเองทั้ง 3 จุด พบว่า คนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้ มีพฤติกรรมการก่อเหตุในลักษณะเดียวกัน แต่งกายชุดเดียวกัน และใช้ระเบิดชนิดเดียวกัน จึงมั่นใจว่าเป็นคนร้ายกลุ่มเดียวกัน ที่มีผู้สั่งการคนเดียวกัน  มุ่งที่จะก่อเหตุกับตู้เอทีเอ็มของธนาคารอิสลาม ขณะนี้กำลังรวบรวมพยานหลักฐานทั้ง 3 จุด เพื่อหาตัวกลุ่มคนร้าย เชื่อเป็นคนร้ายที่อยู่ในพื้นที่ ส่วนจะเชื่อมโยงกับว่าเป็นการตอบโต้เจ้าหน้าที่ หลังมีการจับกุมมือระเบิดป่วนกรุงเทพฯหรือไม่นั้น ยังไม่สามารถยืนยันได้ ต้องรอให้ผลพิสูจน์หลักฐานก่อน จึงจะรู้ว่าเป็นฝีมือของคนร้ายกลุ่มใด

พบระเบิดปิงปอง 3 ลูกพร้อมใช้งาน จ.นนทบุรี

ส่วนที่อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ตำรวจนำกำลังตรวจสอบเหตุพบระเบิดปิงปองพร้อมใช้งานวางอยู่ปากทางเข้าวัดสลักเหนือ ถนนติวานนท์ ตำบลบ้านใหม่ ก่อนประสานเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดเข้าตรวจสอบ ที่เกิดเหตุอยู่หน้าร้านสะดวกซื้อ เจ้าหน้าที่พบระเบิดปิงปอง 3 ลูก ขนาดเส้นผ่าศูนย์ 10 เซนติเมตรพันด้วยผ้าเทปสีดำ โดย 1 ลูกระเบิดไปแล้ว อีก 2 ลูกยังไม่ระเบิดแต่พร้อมใช้งาน เจ้าหน้าที่จึงใช้ยางรถยนต์ครอบ และกันพื้นที่เพื่อทำการเก็บกู้ และนำไปตรวจสอบหาลายนิ้วมือคนที่ทำระเบิดหรือนำมาวางไว้

เหตุการณ์นี้ สอบถามร้านค้าย่านดังกล่าว ทราบว่า เวลา 06.00 น. มีวัยรุ่น 5 คน ขี่รถจักรยานยนต์มา 3 คันมาจอดใกล้ที่เกิดเหตุ จากนั้นมีวัยรุ่น 2 คนขี่รถจักรยานยนต์ผ่านมา ซึ่งคาดเป็นอริกับกลุ่มแรก เพราะมีการขี่รถไล่ตามกัน จากนั้นชาวบ้านได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้น 1 ครั้ง แต่ไม่รู้ว่ามีระเบิดหลงเหลืออยู่ จนช่วงบ่ายมีคนเดินผ่านมาเห็นระเบิดอีก 2 ลูก จึงแจ้งตำรวจเข้าตรวจสอบและเก็บกู้ .- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง