รัฐบาลพร้อมหนุนมิตซูบิชิใช้ไทยเป็นฐานผลิตรถยนต์ไฟฟ้า

ทำเนียบฯ 1 ส.ค. – รัฐบาลพร้อมหนุนมิตซูบิชิหวังใช้ไทยเป็นฐานการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า 25,000 ล้านเยน ช่วง 2 ปี  “กอบศักดิ์” เผยนักลงทุนยังเชื่อมั่นลงทุนไทย ยอมรับเฟดลดดอกเบี้ยเป็นการบ้านของ ธปท.ต้องดูแลเงินทุนไหลเข้ากระทบเงินบาท  ย้ำ ครม.เศรษฐกิจช่วยสานนโยบายพรรคร่วมท่ามกลางเศรษฐกิจชะลอตัว 


นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี หารือกับนาย Osamu Masuko ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น เพื่อรายงานแผนการขยายการลงทุน หลังผลิตรถยนต์ครบ 5 ล้านคันในปี 2561 เป็นการผลิตเพื่อส่งออกถึง 3.7 ล้านคัน และพร้อมขยายการลงทุน โครงการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในไทย วงเงินรวม 25,000 ล้านเยนในช่วง 1-2 ปีข้างหน้า ทั้งการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า PHEV,HEV,EV เมื่อเห็นว่ารถไฟฟ้ากำลังมาแรง มิตซูบิชิจึงต้องการขยายการลงทุนรถไฟฟ้า จากเดิมผลิตเฉพาะเครื่องยนต์ใช้น้ำมัน  จึงเสนอให้รัฐบาลส่งเสริมเอกชนรายอื่นเข้ามาผลิตแบตเตอรี่รองรับการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า และพร้อมยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ)    เนื่องจากไทยเป็นฐานการผลิตที่เข้มแข็ง และมิตซูบิชิยังขอให้ช่วยดูแลค่าเงินบาทให้มีเสถียรภาพ รัฐบาลเตรียมประสานบีโอไอ เพื่อส่งเสริมให้ภาคเอกชนลงทุนรถยนต์ไฟฟ้า และพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานรองรับ เพราะไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ เมื่อกระแสรถยนต์ไฟฟ้ากำลังมีแนวโน้มการผลิตมากขึ้น  

นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง เปิดเผยว่า  การประชุม ครม.เศรษฐกิจนัดแรกวันที่ 5 สิงหาคม โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เนื่องจากกระทรวงด้านเศรษฐกิจมาจาก 3 พรรคใหญ่ ทั้ง พปชร. ปชป. ภูมิใจไทย ต่างดูแลทั้งกระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงพลังงาน  กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์  จึงต้องใช้เวที ครม.หารือ  หรือกลั่นกรองเรื่องเศรษฐกิจ การแสดงความเห็นให้ครอบคลุมมากขึ้น จากนั้นจึงนำวาระเสนอที่ประชุม ครม.ชุดใหม่ในวันอังคาร เพื่อผลักดันนโยบายที่หาเสียงไว้ให้เกิดเป็นรูปธรรม  ครม.เศรษฐกิจจึงเป็นกลไกสำคัญในการดูแลเศรษฐกิจไทยท่ามกลางเศรษฐกิจโลกมีปัญหา คงไม่น่าห่วงตามที่ฝ่ายค้านระบุวา ครม.เศรษฐกิจอาจทำงานร่วมกันไม่ได้


นายกอบศักดิ์  กล่าวเพิ่มเติมว่า กรณีธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับลดดอกเบี้ยร้อยละ 0.25 เป็นครั้งแรก ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของแนวโน้มตลาดโลก หลังจากเฟดได้ปรับเพิ่มดอกเบี้ยมาต่อเนื่องหลายครั้ง เพราะเป็นห่วงเงินเฟ้อสูงในสหรัฐ เมื่อพบว่าเงินเฟ้อแท้จริงไม่กดดันมากท่ามกลางเศรษฐกิจโลกชะลอตัว จึงปรับลดกรอบอัตราดอกเบี้ยลง สำหรับผลกระทบต่อไทยครั้งสำคัญเช่นกัน เมื่อตลาดพันธบัตรสหรัฐได้รับผลกระทบ นักลงทุนย่อมมองหาผลตอบแทนใหม่ในต่างประเทศมาทดแทนการลงทุนในสหรัฐ ไทยเป็นจุดหมายหนึ่งที่สำคัญอาจทำให้เงินทุนไหลเข้ากระทบต่อเงินบาทแข็งค่าอีก ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จึงต้องดูแลเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดจากส่วนต่างดอกเบี้ยในตลาดโลกครั้งนี้  และอัตราดอกเบี้ยเมื่อลดลงย่อมส่งผลต่อการลงทุนขยายตัวขึ้น.  – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เชียงใหม่อากาศแปรปรวน เจอลมหนาว-ฝนตก 3 วันติด

ชาวเชียงใหม่เจอลมหนาวและฝนตกต่อเนื่อง 3 วันติด อุตุฯ ย้ำอากาศแปรปรวน เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน เชียงราย ยังมีฝนตกและลมหนาว แนะรักษาสุขภาพ

“อัจฉริยะ” ยื่นสอบปม “ทนายตั้ม” ปูดข่าวผู้บริหารปลอมเอกสารขยายอายุเกษียณ

“อัจฉริยะ” ยื่นหนังสือตรวจสอบข้าราชการช่วยผู้บริหารรัฐวิสาหกิจปลอมเอกสารขยายอายุเกษียณ คาดอาจมีทนายดังเข้าไปเอี่ยว เสนอตำรวจให้สอบพยานรายสำคัญที่เป็นประโยชน์กับ “มาดามอ้อย”

“ทนายตั้ม” เครียดหนัก หลัง 3 บิ๊ก บช.ก. สอบปากคำ

“ทนายตั้ม” เครียดหนัก หลัง 3 บิ๊กสอบสวนกลาง สอบปากคำ นานกว่า 5 ชั่วโมง ขณะที่พนักงานสอบสวนเตรียมเข้าค้น “ษิทรา ลอว์ เฟิร์ม” เช้าพรุ่งนี้ หาหลักฐานเพิ่ม ก่อนฝากขังช่วงบ่าย ค้านประกันตัว

“บิ๊กอ้อ” เผย “ทนายตั้ม-ภรรยา” มีพฤติการณ์หนี-ยุ่งเหยิงพยานฯ

“บิ๊กอ้อ” ชี้ตำรวจต้องออกหมายจับ “ทนายตั้ม” เหตุพบพฤติการณ์เตรียมหลบหนีออกนอกประเทศ และยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน นอกจากนี้ยังมีคดีต่อเนื่อง 3 คดี เตรียมแจ้งข้อหาเพิ่ม

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผย “เหนือ-อีสาน” อากาศเย็นตอนเช้า-ภาคใต้ฝนหนัก

กรมอุตุฯ เผย “เหนือ-อีสาน” อากาศเย็นในตอนเช้า เตือนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง พร้อมอัปเดตเส้นทางพายุ “หยินซิ่ง”

MOU44

MOU 44 ผลประโยชน์ชาติ กับ การเมือง ตอนที่ 1

ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา เรื่องเอ็มโอยู 44 และเส้นแบ่งอาณาเขตทางทะเล หรือเส้นเคลม กลายเป็นปมร้อน ท่ามกลางความกังวลถึงผลประโยชน์ของชาติทางทะเล และสิทธิเหนือเกาะกูด ติดตามความเห็นและมุมมองจากผู้เกี่ยวข้องในรายงาน “ปมร้อน เอ็มโอยู 44 ผลประโยชน์ชาติ กับ การเมือง”

ทนายตั้ม

“ทนายตั้ม” สร้างตัวตนผ่านสื่อ หวังหาผลประโยชน์หรือไม่

หลังจากพนักงานสอบสวนควบคุมตัว “ทนายตั้ม” และภรรยา เข้าเรือนจำไปแล้ว มีคำถามตามมาว่า ทนายคนดังสร้างตัวตนจนโดดเด่นในสังคม เพื่อหาผลประโยชน์จากความน่าเชื่อถือที่สร้างไว้หรือไม่