“น.อ.อนุดิษฐ์”ชี้โพลเบื่อนักการเมืองเหตุรัฐบาลประท้วงบ่อย

กรุงเทพฯ 27 พ.ค.-“น.อ.อนุดิษฐ์” พอใจการทำหน้าที่ฝ่ายค้านในการแถลงผลงานรัฐบาล ชี้ประเด็นครบไม่ตีรวน ผิดหวังภาวะอารณ์นายกฯทำคนไม่เชื่อมั่น  โยนรัฐบาลประท้วงบ่อยทำประชาชนเบื่อนักการเมืองไม่สร้างสรรค์


น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงภาพรวมการแถลงนโยบายรัฐบาลว่าการทำหน้าที่ของคณะรัฐมนตรี ส.ส.ฝ่ายค้านและรัฐบาล และส.ว. ต่างใช้เวลากันอย่างเต็มที่ โดย 7 พรรคร่วมฝ่ายค้านได้เตรียมการหารือร่วมกันถึงการแถลงนโยบายอย่างต่อเนื่อง เพื่อต้องการให้เนื้อหาที่ออกมาสมบูรณ์ ตรงประเด็น สร้างสรรค์และเป็นประโยชน์กับประชาชนมากที่สุด ประเด็นสำคัญคือการชี้ให้เห็นถึงนโยบายและผู้ที่จะมาทำหน้าที่บริหารขับเคลื่อนนโยบายที่เป็นปัญหา ส่วนตัวมีความพอใจในการทำหน้าที่ของฝ่ายค้าน ตลอด 2 วันที่ผ่านมา เชื่อว่าหากรัฐบาลเปิดใจรับฟังเสียงสะท้อนข้อเสนอแนะต่างๆจะเป็นประโยชน์กับรัฐบาลโดยตรง

“เราเชื่อว่าการทำหน้าที่ของเรา ทั้ง 13.30 ชั่วโมงคุ้มค่าจริงๆ ไม่ตีรวนไร้สาระ ทำให้ประชาชนได้ประโยชน์แน่นอน  ข้อแรกคือการทำหน้าที่แทนประชาชนในการสะท้อนข้อกังวล ความห่วงใย ปัญหาความทุกข์ร้อน และคุณสมบัติของรัฐมนตรี คิดว่าทุกประเด็นเราเจาะได้ครบถ้วน นโยบายครบทุกข้อ ส่วนหน้าที่การชี้แจงของรัฐบาลจะเป็นอย่างไร เชื่อว่าผู้ที่จะตอบคำถามได้ดีที่สุดคือประชาชน จากที่สะท้อนผ่านผลสำรวจและกระแสในโซเขียลมีเดีย แต่ส่วนตัวรู้สึกผิดหวังกับคำตอบของคณะรัฐมนตรีบางคนที่ไม่พยายามเข้าใจ มองสิ่งที่ฝ่ายค้านกำลังทำเป็นการดิสเครดิต ทำลายความน่าเชื่อถือ ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้อง”น.อ.อนุดิษฐ์กล่าว


น.อ.อนุดิษฐ์กล่าว กล่าวอีกว่าผิดหวังกับการแสดงออกทางอารมณ์ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีมากที่สุด เพราะแม้การแสดงอารมณ์จะเป็นเรื่องปกติทั่วไปของคน แต่เมื่อพล.อ.ประยุทธ์ เป็นประมุขฝ่ายบริหารเป็นผู้นำประเทศ ควรจะควบคุมอารมณ์ได้มากกกว่านี้ โดยเฉพาะการแสดงอารมณ์ในที่สาธารณะหรือในรัฐสภา เป็นสิ่งที่ต้องระวังมาก จึงอยากแนะนำเรื่องการวางตัวและการควบคุมอารมณ์ให้มากกว่านี้ เพราะสิ่งที่แสดงออกมาทำให้ประชาชนที่เห็นขาดความเชื่อมั่น ซึ่งสะท้อนผ่านการให้คะแนนที่สอบตกกับนายกรัฐมนตรีจากผลสำรวจสำนักต่างๆได้เป็นอย่างดี

ส่วนผลสำรวจที่พบประชาชนเบื่อการทะเลาะกันของนักการเมืองในสภานั้น น.อ.อนุดิษฐ์ มองว่าฝ่ายค้านเข้าใจและไม่ของวิจารณ์ความเห็นของประชาชน เพียงแต่การประท้วงอย่างไม่สร้างสรรค์ของส.ส.ฝ่ายรัฐบาล ซึ่งเป็นวิธีการหนึ่งที่ใช้ทำให้การอภิปรายของฝ่ายค้านไม่ต่อเนื่อง มีการประท้วงบ่อยเกินไปจึงเป็นสาเหตุให้ประชาชนเกิดความรู้สึกเบื่อหน่าย ดังนั้นจึงอยากให้ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลเปลี่ยนความคิดเรื่องการประม้วงสกัดการอภิปรายของฝ่ายค้านด้วย เพราะสิ่งที่แสดงออกไม่เป็นผลดีกับประชาชน .- สำนักข่าวไทย      


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง