สมุทรปราการ 15 ส.ค.-พายุฝนและลมพัดเสาไฟแรงสูงล้ม 30 ต้น เป็นระยะทางกว่า 1 กม. รถยนต์เสียหาย 30 คัน จักรยานยนต์ 2 คัน บาดเจ็บอีก 1 ราย คาดไฟดับทั้งคืน เดือดร้อนหลายพันครัวเรือน
สมุทรปราการ เวลา 16.30 น. วันที่ 15 ส.ค.59 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดเหตุพายุฝนและลมกระโชกแรงพัดเสาไฟฟ้าแรงสูงล้ม 31 ต้น เป็นระยะทางกว่า 1.2 กม. มีรถยนต์เสียหาย 30 คัน และรถจักรยานยนต์อีก 2 คัน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย ถูกนำส่งโรงพยาบาล เหตุเกิดภายในซอยธนสิทธิ์ ต.บางปลา อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ
นายสุฐิศ ก่งแก้ว อายุ 47 ปี ช่างเฟอร์นิเจอร์ ที่อยู่ในเหตุการณ์ขณะเกิดเหตุ และเป็นเจ้าของรถยนต์ที่ได้รับความเสียหาย เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองและผู้ใช้รถคนอื่นได้ขับรถเข้ามาในซอยดังกล่าว ขณะนั้นจู่ๆ ก็มีพายุฝนและลมกระโชกอย่างแรง และได้ยินเสียงเสาไฟหักจากทางด้านหลัง เมื่อมองกระจกหลังพบว่ามีเสาไฟแรงสูงค่อยๆ ล้มลง ไล่มาทางตนเองทีละต้น พยายามจะขับรถหนีแต่ไม่พ้น เนื่องจากมีรถยนต์ขับต่อกันจำนวนมาก และทัศนวิสัยการขับขี่ที่มองแทบไม่เห็น จากนั้นเสาไฟต้นที่อยู่ด้านข้างตนเองก็ล้มลงมา และล้มไล่ไปเรื่อยๆ ทางด้านหน้ารถ ทีละต้นเหมือยกับในภาพยนตร์แอคชั่น เมื่อพายุสงบ พยายามจะเปิดประตูหนีออกมาจากรถ แต่ถูกสายไฟขนาดใหญ่ขึงรั้งประตูรถไว้ออกไม่ได้ กระทั่งมีชาวบ้านมาช่วยดึงประตูออกมา
อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องทั้ง เจ้าหน้าที่การไฟฟ้า โทรศัพท์ ตำรวจ ฝ่ายปกครอง และผู้นำชุมชน ได้ประชุมหารือช่วยเหลือชาวบ้านที่อยู่ท้ายซอยหลังจุกเกิดเหตุ ที่มีอยู่หลายพันครัวเรือนแล้ว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าคาดว่าน่าจะต้องใช้เวลาอย่างน้อย 10 ชม. จึงจะสามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าๆ ได้
นอกจากนี้ทาง พ.ต.อ.โสภณ มงคลโสภณรัตน์ ผกก.สภ.บางพลี ยังได้จัดเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ คอยตรวจสอบบริเวณที่ได้รับผลกระทบ เพื่อป้องกันมิจฉาชีพที่ฉวยโอกาสใช้ความมืดเข้าขโมยทรัพย์สินขณะไฟดับด้วย.-สำนักข่าวไทย