คมนาคมโยนรัฐบาลใหม่ชี้ขาดค่าโง่ทางด่วน

กรุงเทพฯ 12 ก.ค. – รมช.คมนาคมยืนยันโยนรัฐบาลใหม่ชี้ขาดค่าโง่ทางด่วน 59,000 ล้านบาท 


นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวถึงกรณีการต่ออายุสัมปทานให้ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีอีเอ็ม เพื่อแลกกับการจ่ายค่าโง่คดีพิพาทระหว่างรัฐกับเอกชน โดยส่วนตัวมองว่าการเจรจาน่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด ไม่ใช่เรื่องเลวร้าย เพื่อแลกกับการยุติคดีข้อพิพาททั้งหมด และจ่ายค่าโง่ 59,000 ล้านบาท เพราะหากรอจนคดีสิ้นสุดอาจจะต้องจ่ายค่าโง่มากกว่า 130,000 ล้านบาท ซึ่งที่ผ่านมาหากยึดตามคำตัดสินของศาล ศาลจะยึดแนวทางการพิจารณาครั้งแรกเป็นคดีตัวอย่าง ทำให้คดีหลังคำพิพากษาของศาลออกมาในแนวทางเดียวกัน เช่น คดีโฮปเวลล์ล่าสุด 

ขณะเดียวกันในส่วนของการเจรจาทางบีอีเอ็มยื่นข้อเสนอทำโครงการ Double Deck ซึ่งเป็นทางด่วนขั้นที่ 2 มูลค่า 30,000 ล้านบาท อายุสัมปทาน 15 ปี แต่หากโครงการไม่ผ่านอีไอเอก็ไม่สามารถขยายสัมปทานทางด่วนเป็น 30 ปีได้ ซึ่งการจ่ายผลประโยชน์ให้รัฐยังอยู่ที่ 60 ต่อ 40 


นายไพรินทร์ ระบุว่า การตัดสินใจเป็นเรื่องของคณะกรรมการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) และรัฐบาลชุดใหม่จะเดินตามมติคณะรัฐมนตรีหรือไม่ แต่ไม่อยากให้เอาประชาชนมาเป็นตัวประกัน และมองว่าหาก กทพ.บริหารจัดการทางด่วนเองจะมีปัญหาอย่างองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) หรือการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เกิดหนี้สะสมจนต้องให้รัฐนำเงินมาอุดหนุนตามนโยบายประชานิยมต่าง ๆ

นายไพรินทร์ ระบุว่า กทพ.แม้จะมีเส้นทางกว่า 200 กิโลเมตร แต่ปัญหาปัจจุบัน คือ ปริมาณรถยนต์ที่ใช้ทางด่วนจำนวนมากเต็มพื้นที่จนส่งผลกระทบต่อการจราจร และที่ผ่านมาไม่มีการก่อสร้างเส้นทางเพิ่ม ปัญหาต่อมา คือ เรื่องฝ่ายการเมือง เนื่องจากสัมปทานของบีอีเอ็มจะหมดลงเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า และรัฐไปสร้างทางแข่งขัน นอกจากนี้ ที่ผ่านมาการปรับขึ้นค่าผ่านทางยังไม่มีการปรับขึ้นตามที่ควรจะเป็น ซึ่งส่งผลต่อองค์กร ทั้งนี้ การปรับขึ้นค่าทางด่วนมองว่าควรมีการปรับขึ้น เนื่องจากที่ผ่านมาบางรัฐบาลนำไปทำประชานิยม และหากในอนาคตมีการนำเงินภาษีของประชาชนอุดหนุนอีก ก็อาจจะไม่เป็นธรรมกับประชาชนทั้งประเทศและเป็นการเข้าสู่วังวนเดิม ส่วนกรณีที่ประชาชนมองว่าไม่ควรปรับขึ้นค่าผ่านทางนั้น มองว่าต่อไป กทพ.อาจกลายเป็นเหมือน ขสมก. รฟท. และการบินไทยที่ต้องให้รัฐนำเงินมาอุดหนุน.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง