เก็บหลักฐาน-ยึดเครื่องจักรโรงงานยาลดอ้วนกาฬสินธุ์ ของกลางกว่า 10 ล้านเม็ด

กาฬสินธุ์ 8 ก.ค.- ตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ นำเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าเก็บตัวอย่างสารและวัตถุดิบที่ถูกนำไปใช้ในการผลิตยาลดความอ้วนและอาหารเสริมปลอม พร้อมตรวจยึดเครื่องจักรที่ใช้ในการผลิตทั้งหมด ส่วนการคัดแยกชนิดยา เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สาธารณสุขนับแล้วมากกว่า 10 ล้านเม็ด มูลค่ากว่า 20 ล้านบาท


ความคืบหน้ากรณี พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. ขยายผลนำหมายศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ เข้าค้นบ้านเลขที่ 65 หมู่ที่ 7 ต.สงเปลือย อ.นามน จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นบริษัท ดี.ดี.คอสเมด จำกัด และเปิดเป็นโรงงานผลิตยาลดความอ้วน อาหารเสริม ยาไวอากร้า พร้อมทั้งตรวจยึดของกลาง ทั้งยาลดความอ้วน อาหารเสริม วัตถุดิบที่ใช้ผลิตยา สารต้องห้าม และอุปกรณ์ในการผลิตยาลดความอ้วนปลอมจำนวนมาก ซึ่งเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวไป 7 ข้อหา โดยผู้ต้องหายังให้การซัดทอดไปถึงเจ้าหน้าที่ของ ปคม.ซึ่งได้สั่งให้ผลิตยา และได้จ่ายเงินให้เดือนละ 20,000 บาท 


ล่าสุด ตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ เจ้าหน้าที่เภสัชจากสำนักงานสาธารณสุข จ.กาฬสินธุ์ ตำรวจภูธรนามน และ อส. ยังคงช่วยกันนับและคัดแยกของกลาง ซึ่งมีจำนวนมาก ทั้งผลิตภัณฑ์ยาลดความอ้วน และอาหารเสริมเม็ดและแคปซูลปลอมหลายยี่ห้อที่บรรจุกล่องพร้อมจำหน่าย วัตถุดิบและสารต้องห้ามต่างๆ ที่ใช้ในการผลิตยาที่เป็นของปลอม และคาดว่าจะมีการลักลอบนำเข้ามาในประเทศ ซึ่งเบื้องต้นของกลางที่ตรวจยึดจากจุดแรกที่เป็นโรงงานผลิตมีจำนวนกว่า 4 ล้านเม็ด จุดที่ 2 โกดังเก็บสินค้าไม่มีเลขที่มีจำนวนกว่า 8 ล้านเม็ด และจุดที่ 3 โกดังที่เปิดเป็นรีสอร์ต อีกกว่า 3 ล้านเม็ด ซึ่งเบื้องต้นมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาท โดยขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนการคัดแยกและตรวจนับอย่างละเอียด เพื่อนำส่งไปตรวจพิสูจน์


นอกจากนี้ ยังเข้าเก็บตัวอย่างสารและวัตถุดิบที่ติดอยู่ตามเครื่องจักรที่ใช้ในการผลิตยาลดความอ้วนและอาหารเสริม รวมทั้งยาไวอากร้าปลอมภายในโรงงาน เพื่อนำตัวอย่างของสารที่ใช้ผลิตยาส่งไปพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์อย่างละเอียด ว่าเป็นสารชนิดใด ตรงกับสารที่อยู่ในตัวยาลดความอ้วนของผู้ที่เสียชีวิตใน จ.อ่างทอง และเป็นสารต้องห้าม หรือสารควบคุมพิเศษเฉพาะ ที่มีการลักลอบนำเข้ามาผิดกฎหมายหรือไม่ รวมทั้งตรวจยึดเครื่องจักรเพิ่มเติมและนำป้ายขนาดกระดาษ เอ 4 เข้าไปติดตามเครื่องจักรที่ใช้ผลิตยา เพื่อห้ามเคลื่อนย้าย ซึ่งเป็นของกลางจำนวน 14 ตัว โดยมีทั้งเครื่องบดยา เครื่องผสมยา เครื่องอัดเม็ดยา เครื่องบรรจุแคปซูล และเครื่องนับยา

สำหรับนางวสภัสสร สุลำนาจ อายุ 52 ปี ผู้ต้องหา พนักงานสอบสวน นำตัวไปส่งฝากขังยังศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ช่วงบ่ายวันนี้ โดยเบื้องต้นจะแจ้งข้อกล่าวหา 7 ข้อหา ประกอบด้วย 1.ผลิตยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต 2.ขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต 3.ตั้งโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต 4.ก่อสร้างอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาต 5.ผลิตอาหารปลอมโดยไม่ได้รับอนุญาต 6.จำหน่ายอาหารปลอมโดยไม่ได้รับอนุญาต 7.ผลิตและมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 1 โดยไม่ได้รับอนุญาต.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เชียงใหม่อากาศแปรปรวน เจอลมหนาว-ฝนตก 3 วันติด

ชาวเชียงใหม่เจอลมหนาวและฝนตกต่อเนื่อง 3 วันติด อุตุฯ ย้ำอากาศแปรปรวน เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน เชียงราย ยังมีฝนตกและลมหนาว แนะรักษาสุขภาพ

“อัจฉริยะ” ยื่นสอบปม “ทนายตั้ม” ปูดข่าวผู้บริหารปลอมเอกสารขยายอายุเกษียณ

“อัจฉริยะ” ยื่นหนังสือตรวจสอบข้าราชการช่วยผู้บริหารรัฐวิสาหกิจปลอมเอกสารขยายอายุเกษียณ คาดอาจมีทนายดังเข้าไปเอี่ยว เสนอตำรวจให้สอบพยานรายสำคัญที่เป็นประโยชน์กับ “มาดามอ้อย”

“ทนายตั้ม” เครียดหนัก หลัง 3 บิ๊ก บช.ก. สอบปากคำ

“ทนายตั้ม” เครียดหนัก หลัง 3 บิ๊กสอบสวนกลาง สอบปากคำ นานกว่า 5 ชั่วโมง ขณะที่พนักงานสอบสวนเตรียมเข้าค้น “ษิทรา ลอว์ เฟิร์ม” เช้าพรุ่งนี้ หาหลักฐานเพิ่ม ก่อนฝากขังช่วงบ่าย ค้านประกันตัว

“บิ๊กอ้อ” เผย “ทนายตั้ม-ภรรยา” มีพฤติการณ์หนี-ยุ่งเหยิงพยานฯ

“บิ๊กอ้อ” ชี้ตำรวจต้องออกหมายจับ “ทนายตั้ม” เหตุพบพฤติการณ์เตรียมหลบหนีออกนอกประเทศ และยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน นอกจากนี้ยังมีคดีต่อเนื่อง 3 คดี เตรียมแจ้งข้อหาเพิ่ม

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผย “เหนือ-อีสาน” อากาศเย็นตอนเช้า-ภาคใต้ฝนหนัก

กรมอุตุฯ เผย “เหนือ-อีสาน” อากาศเย็นในตอนเช้า เตือนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง พร้อมอัปเดตเส้นทางพายุ “หยินซิ่ง”

MOU44

MOU 44 ผลประโยชน์ชาติ กับ การเมือง ตอนที่ 1

ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา เรื่องเอ็มโอยู 44 และเส้นแบ่งอาณาเขตทางทะเล หรือเส้นเคลม กลายเป็นปมร้อน ท่ามกลางความกังวลถึงผลประโยชน์ของชาติทางทะเล และสิทธิเหนือเกาะกูด ติดตามความเห็นและมุมมองจากผู้เกี่ยวข้องในรายงาน “ปมร้อน เอ็มโอยู 44 ผลประโยชน์ชาติ กับ การเมือง”

ทนายตั้ม

“ทนายตั้ม” สร้างตัวตนผ่านสื่อ หวังหาผลประโยชน์หรือไม่

หลังจากพนักงานสอบสวนควบคุมตัว “ทนายตั้ม” และภรรยา เข้าเรือนจำไปแล้ว มีคำถามตามมาว่า ทนายคนดังสร้างตัวตนจนโดดเด่นในสังคม เพื่อหาผลประโยชน์จากความน่าเชื่อถือที่สร้างไว้หรือไม่