ตลท. 7 ก.ค. .- โพลนักวิเคราะห์ฯ ปรับเพิ่มดัชนีหุ้นไทยสิ้นปีอยู่ที่ 1,755 จุด ปัจจัยบวกมาจากเงินทุนต่างชาติไหลเข้าหุ้นไทย และ เฟดมีแนวโน้มลดดอกเบี้ย
นายสมบัติ นราวุฒิชัย เลขาธิการและกรรมการผู้อำนวยการสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน ได้เปิดเผยผลสำรวจความเห็นนักวิเคราะห์การลงทุนและผู้จัดการลงทุนจำนวน 27 บริษัทพบว่า เป้าดัชนีสิ้นปี 2562 อยู่ที่ระดับ 1,755 จุด มากกว่าการสำรวจครั้งก่อน ที่คาดการณ์ไว้ที่ 1,740 จุด โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์จุดสูงสุดของดัชนีอยู่ที่ 1,794 จุด และต่ำสุดอยู่ที่ 1,641 จุด โดยปัจจัยบวกมาจากเงินทุนต่างชาติไหลเข้าตลาดหุ้นไทย ซึ่งคาดว่าจะไหลเข้าอีกประมาณ 40,000 – 50,000 ล้านบาทในเวลา 6 เดือน รองลงมาคือทิศทางอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯที่คคาดว่าจะปรับลดลงหนึ่งครั้งในปีนี้ รวมทั้งปัจจัยการเมืองในประเทศ ที่มีความชัดเจนเรื่องการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ ส่วนปัจจัยลบ คือความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจโลกที่อยู่ในภาวะชะลอตัวลง ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่มีแนวโน้มลดลง โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์กำไรสุทธิต่อหุ้นอยู่ที่ 106.52 บาท ลดลงจาก 110 บาท ส่วนอัตราการเติบโตของกำไรสุทธิอยู่ที่ร้อยละ 7.88 ลดลงจากร้อยละ 9.6 สำหรับดอกเบี้ยนโยบายของไทย คาดว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายอยู่ที่ร้อยละ 1.75 ต่อปี
นอกจากนี้ในผลสำรวจความคิดเห็นนักวิเคราะห์ยังเสนอให้รัฐบาลเพิ่มกำลังซื้อเเละการบริโภคในประเทศรวมทั้งลดหย่อนภาษีในการกระตุ้นเศรษฐกิจ รองลงมาคือ ให้เร่งการลงทุนภาครัฐและการก่อสร้างพื้นฐาน และกระตุ้นการลงทุนภาคเอกชน
ส่วนหุ้นเด่นที่นักวิเคราะห์แนะนำ ได้แก่ ADVANCE จากการเเข่งขันด้านราคาเบาบางลง และได้รับประโยชน์จากการยืดชำระค่าคลื่น 99 mHZ AMATA จากแรงส่งของโครงการ EEC ที่ดำเนินการมาได้ต่อเนื่อง CPALL จากการฟื้นตัวการบริโภคภายในประเทศ CPF จากแรงหนุนของทั้งราคาเนื้อหมูและไก่ที่ปรับตัวดีขึ้น ส่วนหนึ่งจากกรณีเกิดโรคระบาดอหิวาต์หมูแอฟริกัน ในเวียดนามและจีน รวมถึงอานิสงค์ของราคาข้าวโพดและถั่วเหลืองที่ปรับตัวลงช่วยหนุนอัตรากำไรให้เร่งตัวขึ้น และ STEC ที่ได้รับแรงส่งจากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ และมีงานในมือสูง รวมทั้งมีโอกาสได้งานใหม่เพิ่ม . – สำนักข่าวไทย