“บิ๊กป้อม” เปิดงานสัมมนา พปชร. ชี้การเมืองวนลูปเดิม ไม่สร้างสรรค์

ประจวบคีรีขันธ์ 20 ม.ค.-“บิ๊กป้อม” เปิดงานสัมมนา พปชร. ชี้การเมืองวนลูปเดิม ไม่สร้างสรรค์ ทำลายกัน เพื่อผลประโยชน์ บอกแม้พรรคถูกตกเป็นเป้า แต่พร้อมเดินหน้าอย่างสร้างสรรค์ ทำงานเพื่อประชาชน

พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เป็นประธานเปิดสัมมนา “Now & Next ติดอาวุธทางปัญญา เชิดชูสถาบัน” โดยมี แกนนำพรรค สส.และสมาชิกพรรค เข้าร่วมที่ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

พลเอกประวิตร กล่าวว่า ในห้วงปีที่ผ่านมาเป็นปีที่ประจักษ์แล้วว่า การเมืองของเราได้กลับไปสู่ระบบเดิมๆ คือการเมืองที่ไม่สร้างสรรค์ ทำลายกัน เพื่อผลประโยชน์ ขาดคุณธรรมและจริยธรรม โดยไม่ยึดประโยชน์ของประชาชนเป็นศูนย์กลาง พรรคพลังประชารัฐแม้จะตกเป็นเป้าทางการเมืองเสมอมา แต่ตนขอยืนยันว่าพรรคของเรายังคงเดินไปข้างหน้าอย่าสร้างสรรค์และมั่นคง

พลเอกประวิตร กล่าวว่า เรามีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 20 คน กระจายอยู่ทั่วภูมิภาคทั่วประเทศ มีบุคลากรทางการเมืองที่มีความรู้ความสามารถมีประสบการณ์ในการบริหารประเทศ มีอดีตรัฐมนตรี อดีต สส. และ สว. ที่มีฝีมือและมีผลงานมากมาย

พรรคพลังประชารัฐมีความพร้อม มีแนวทางที่ชัดเจนในการยึดมั่นการอนุรักษ์ที่มีเป้าหมายหลัก คือการพิทักษ์รักษาสถาบัน ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประโยชน์ของประชาชนเป็นสำคัญ การสัมมนาในวันนี้เป็นการแสดงจุดยืนในการทำงานทางการเมือง ด้วยหัวใจที่มุ่งมั่น เพื่อสร้างอนาคตที่ดีให้กับประเทศชาติและประชาชน ตนขอยืนยันจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด เพื่อให้ประเทศไทยพัฒนาเจริญรุ่งเรือง ประชาชนอยู่ดีกินดี มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นอย่างถาวรสืบไป และขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนทำหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ เพื่อให้ความรักและสามัคคีเป็นหนึ่งเดียว พร้อมเดินหน้าอย่างมั่นคงเพื่อประเทศและประชาชนต่อไป

ขณะที่นายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย และ อดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) ร่วมบรรยายในงานสัมมนาเรื่อง “ประชาธิปไตย ในระยะเปลี่ยนผ่าน การต่อสู้เชิงอุดมการณ์ของพรรคการเมืองและการเมืองภาคประชาชน” ช่วงหนึ่งว่า การเมืองในอดีตก่อนที่พลเอกประวิตรจะเข้ามาสู่การเมือง มีปัญหาทั้งเรื่องค้ามนุษย์ และปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง ซึ่งปัญหาทั้งหมดนี้ได้รับการแก้ไขด้วยความรู้ความสามารถของพลเอกประวิตร ทำให้เศรษฐกิจของชาติรุ่งเรืองที่สุดตั้งแต่ปี พ.ศ. 2548 และสามารถแก้ไขปัญหาความยากจนความขัดแย้งในบ้านเมือง จนทำให้ได้รับการยอมรับจากต่างประเทศ.-315.-สำนักข่าวไทย