สั่งปรับสูงสุด-พักใบอนุญาตแท็กซี่ติดมิเตอร์เทอร์โบ

กรุงเทพฯ 21 มิ.ย. – ขนส่งฯ จัดหนักแท็กซี่ติดมิเตอร์เทอร์โบ ปรับ 2 ข้อหา 7,000 บาท พักใบอนุญาต 6 เดือน ลุยตรวจอู่สหกรณ์ หลังเชื่ออาจไม่ได้ดัดแปลงมิเตอร์เพียงคันเดียว


นายพีระพล ถาวรสุภเจริญ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวถึงกรณีกรมการขนส่งทางบกร่วมกับตำรวจท่องเที่ยวจับกุมนายเสวย พุฒิสาร ผู้ขับรถแท็กซี่หมายเลขทะเบียน ทษ-407 กทม. มีพฤติกรรมเรียกเก็บค่าโดยสารเกินอัตราที่ทางราชการกำหนดรับผู้โดยสารจากสนามบินสุวรรณภูมิไปถนนข้าวสาร โดยเรียกเก็บค่าโดยสาร 4,000 บาท นั้น        


จากการตรวจสอบพบว่านายเสวย แก้ไขดัดแปลงอุปกรณ์ส่วนควบของรถ (มาตรค่าโดยสาร) และให้การยอมรับว่าเป็นผู้แก้ไขดัดแปลงมาตรค่าโดยสารและเรียกเก็บค่าโดยสารเกินอัตราที่กำหนดจริง ถือเป็นการกระทำผิดที่ฝ่าฝืนพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ.2522  คือ ใช้รถที่มีอุปกรณ์ส่วนควบไม่ถูกต้อง (แก้ไขดัดแปลงมาตรค่าโดยสาร) จึงได้เปรียบเทียบปรับ 2,000 บาท  รวมถึงกระทำผิดเรียกเก็บค่าโดยสารเกินอัตราที่ทางราชการกำหนดตามมาตรา 66/5  จึงได้เปรียบเทียบปรับ 5,000 บาท และพักใช้ใบอนุญาตขับรถยนต์สาธารณะเป็นเวลา 6 เดือน พร้อมส่งเข้ารับการอบรม และบันทึกประวัติการกระทำความผิดเพื่อติดตามพฤติกรรมต่อไป

อธิบดีกรมการขนส่งทางบกย้ำว่าสหกรณ์แท็กซี่ไทย ผู้ประกอบการรถแท็กซี่คันดังกล่าว กองตรวจการขนส่งทางบก ได้ประสานกับตำรวจท่องเที่ยวเพื่อลงพื้นที่ตรวจสอบอู่รถดังกล่าว เนื่องจากมีความสงสัยว่าอาจจะไม่ได้มีการทำลักษณะดังกล่าวเพียงแค่รถคันเดียว รวมถึงทางข้อกฎหมาย การกระทำผิดในส่วนของแท็กซี่ที่ประกอบการในลักษณะของสหกรณ์เจ้าของรถต้องมีส่วนรับผิดชอบเกี่ยวกับการกระทำผิดด้วย


ส่วนประเด็นคำถามว่าบทลงโทษปัจจุบันเบาไปหรือไม่ ทำให้ผู้ประกอบการแท็กซี่หลายรายไม่เข็ดหลาบต่อการกระทำผิด อธิบดีกรมการขนส่งทางบกระบุว่าปัจจุบันนี้การลงโทษเป็นไปตามพระราชบัญญัติรถยนต์ฯ ที่เป็นกฎหมายควบคุมผู้ขับรถแท็กซี่ แต่ในอนาคตเมื่อมีการรวมกฎหมายระหว่าง พ.ร.บ.รถยนต์ และ พ.ร.บ.ขนส่งฯ เข้าด้วยกัน บทลงโทษรถสาธารณะที่เอาเปรียบผู้โดยสารและสร้างความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ ก็จะมีบทลงโทษที่รุนแรง แต่โทษจะมีลักษณะอย่างไรบ้างนั้นคงต้องรอให้กฎหมายดังกล่าวผ่านการพิจารณาตามขั้นตอนอีกครั้ง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง