สงครามการค้าฉุดส่งออก พ.ค.ติดลบร้อยละ 5.79

นนทบุรี 21 มิ.ย. – พาณิชย์เผยสงครามการค้าฉุดส่งออก พ.ค.ติดลบร้อยละ 5.79 จับตาค่าเงินบาทแข็ง มั่นใจทั้งปีบวกร้อยละ 3  



น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า หรือ สนค. กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การส่งออกเดือนพฤษภาคม 2562 ติดลบร้อยละ 5.79 คิดเป็นมูลค่า 21,017 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่การนำเข้าติดลบร้อยละ 0.64 คิดเป็นมูลค่า 20,836 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้ยังคงเกินดุลการค้า 181 ล้านเหรียญสหรัฐ 


ทั้งนี้ การส่งออกติดลบเดือนพฤษภาคมนั้น เป็นผลมาจากสงครามการค้าสหรัฐและจีน ทำให้เศรษฐกิจโลกยังคงอ่อนแอ ไทยได้รับผลกระทบโดยตรงทำให้การส่งออกหลายตลาดติดลบ โดยเฉพาะอาเซียนสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับราคาน้ำมัน ทั้งเม็ดพลาสติก, เคมีภัณฑ์, น้ำมันสำเร็จรูป หากคิดเป็นมูลค่าจากปัญหาสงครามการค้าที่ส่งออกไปตลาดสหรัฐและจีนเดือนพฤษภาคมลดลงมากถึง 135 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นร้อยละ 0.64 ของมูลค่าการส่งออกของไทยโดยรวม แต่จากการพยายามผลักดันการส่งออกไปตลาดใหม่และการกระจายความเสี่ยง ทำให้การส่งออกของไทยปัจจุบันถือว่าดีกว่าหลายประเทศ โดยสินค้าเกษตรและอาหารของไทยยังคงเป็นที่ต้องการของคู่ค้า


สำหรับการส่งออกในช่วง 5 เดือนแรกของปียังคงติดลบร้อยละ 2.7 คิดเป็นมูลค่า 101,561 ล้านดอลลาร์สหรัฐ การนำเข้าติดลบร้อยละ 0.99 คิดเป็นมูลค่า 100,830 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ดุลการค้ายังคงเกินดุล 731 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่ยังคงต้องจับตาค่าเงินบาทที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อการส่งออก ซึ่งค่าเงินบาทมีแนวโน้มแข่งค่าได้อีก ผู้ส่งออกจำเป็นต้องทำประกันความเสี่ยง ขณะที่ภาครัฐควรมีมาตรการเพิ่มแต้มต่อให้กับผู้ประกอบการ เพื่อให้การส่งออกรักษาเสถียรภาพของประเทศไว้ และเห็นว่าการส่งออกจะสามารถกลับมาขยายตัวเป็นบวกได้ในช่วงไตรมาส 3 และ 4 ของปี แต่การส่งออกในช่วงที่เหลือหลังจากนี้แต่จะต้องเกินเดือนละ 21,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จึงจะสามารถทำให้การส่งออกของประเทศเป็นบวกได้ 

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศและภาคการส่งออกทั้งหมดได้วางกรอบการเจาะตลาดทุกภาคอย่างใกล้ชิดโดยเฉพาะครึ่งหลังปีนี้แบบเชิงลึก เพื่อให้ตัวเลขการส่งออกของไทยปีนี้ขยายตัวเป็นบวกไม่น้อยกว่าร้อยละ 3 หรือคิดเป็นมูลค่า 260,184 ล้านดอลลาร์สหรัฐ. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ยิงสส.กัมพูชา

ออกหมายจับชายไทย วัย 41 มือยิง ‘ลิม กิมยา” ดับกลางกรุงเทพฯ

ออกหมายจับชายไทย วัย 41 มือยิง ‘ลิม กิมยา” อดีต สส.ฝ่ายค้านกัมพูชา ดับใกล้วัดดังกลางกรุง พบเหยื่อมีบทบาทในการตรวจสอบรัฐบาลฮุนเซน

ครม.เห็นชอบร่างกฎกระทรวงเพิ่มบุหรี่ไฟฟ้า-บารากู่ไฟฟ้า เป็นของต้องห้าม

ครม. เห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดการประพฤติของนักเรียนและนักศึกษา เพิ่มบุหรี่ไฟฟ้า-บารากู่ไฟฟ้า เป็นของต้องห้าม พร้อมกำหนดบทลงโทษหากพบเข้าไปข้องเกี่ยว

สุดเจ๋ง! นศ.วอศ.เสาวภา-วอศ.สระบุรี ชนะเลิศแข่งขันแกะสลักหิมะนานาชาติ 2025

สุดเจ๋ง! นศ.วอศ.เสาวภา และ วอศ.สระบุรี ชนะเลิศในการแข่งขันแกะสลักหิมะนานาชาติ 2025 ณ เมืองฮาร์บิน สาธารณรัฐประชาชนจีน

ข่าวแนะนำ

พบ จยย.มือยิงอดีตนักการเมืองกัมพูชาจอดทิ้งปั๊ม คาดได้ตัวเร็วๆ นี้

ตำรวจตรวจพบรถจักรยานยนต์มือยิงอดีตนักการเมืองฝ่ายค้านกัมพูชาแล้ว จอดทิ้งไว้ที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง บริเวณเลียบด่วนมอเตอร์เวย์ คาดได้ตัวคนร้ายเร็วๆ นี้

นายกฯ ยันรัฐบาลพร้อมสนับสนุนเยาวชน พลังสำคัญของชาติ

นายกฯ มอบโอวาทเด็กและเยาวชนดีเด่น นำชื่อเสียงมาสู่ประเทศชาติ ขอให้ทุกคนภาคภูมิใจ มีสติ และรู้คุณค่าในตัวเอง มั่นใจเป็นพลังสำคัญให้กับประเทศชาติ ยืนยันรัฐบาลพร้อมสนับสนุนด้านการศึกษา และการประกอบอาชีพ

ซิงซิง

ผลมติพบ “ซิงซิง” ตกเป็นผู้เสียหายค้ามนุษย์-ปลอดภัยดี พร้อมกลับบ้าน

“ซิงซิง” ตกเป็นผู้เสียหายค้ามนุษย์ หลังผลมติคัดแยก-คัดกรองออกแล้ว ล่าสุดเจ้าหน้าที่ส่งตัวเข้าสู่กระบวนการคุ้มครองแล้ว ให้ พม.ดูแลต่อ ขณะที่ทีมกฎหมายของดาราจีน เผยเจ้าตัวปลอดภัยดี พร้อมกลับบ้าน