วอชิงตัน 21 มิ.ย.- สำนักงานการบินแห่งชาติสหรัฐ หรือเอฟเอเอ (FAA) มีคำสั่งฉุกเฉินห้ามสายการบินพลเรือนของสหรัฐทุกแห่งบินผ่านน่านฟ้าที่อยู่ในความควบคุมของอิหร่านเหนือช่องแคบฮอร์มุซและอ่าวโอมาน เนื่องจากสถานการณ์ตึงเครียดเพิ่มขึ้น
เอฟเอเอมีคำสั่งดังกล่าวไม่กี่ชั่วโมงหลังจากสายการบินยูไนเต็ดแอร์ไลน์ประกาศระงับเที่ยวบินระหว่างท่าอากาศยานนานาชาตินวร์กในรัฐนิวเจอร์ซีกับท่าอากาศยานนานาชาติมุมไบของอินเดียตามที่ได้ทบทวนเรื่องความปลอดภัย หลังจากอิหร่านยิงอากาศยานไร้คนขับหรือโดรนสังเกตการณ์ของสหรัฐตก เอฟเอเอระบุว่า ข้อมูลของแอปพลิเคชันติดตามเที่ยวบินพบว่าช่วงที่โดรนโกลบอลฮอว์กของสหรัฐถูกขีปนาวุธจากพื้นสู่อากาศของอิหร่านยิงตก เครื่องบินพลเรือนลำที่บินใกล้โดรนลำนี้มากที่สุด บินห่างออกไปเพียง 45 ไมล์ทะเลเท่านั้น และมีเครื่องบินพาณิชย์จำนวนมากบินในอยู่ในน่านฟ้าดังกล่าวในเวลานั้น เอฟเอเอยังคงกังวลเรื่องมีความตึงเครียดและการเคลื่อนไหวทางทหารเพิ่มขึ้นใกล้กับน่านฟ้าที่มีเส้นทางบินพลเรือนปริมาณสูง รวมถึงเรื่องที่อิหร่านพร้อมใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลในน่านฟ้าสากลโดยไม่แจ้งล่วงหน้าหรือแทบไม่แจ้งเลย
คำสั่งฉุกเฉินของสหรัฐครอบคลุมเฉพาะสายการบินอเมริกัน แต่โอพีเอสกรุ๊ปที่ให้คำแนะนำเรื่องความปลอดภัยแก่สายการบินแนะนำสายการบินทั่วโลกว่าควรพิจารณาเรื่องนี้อย่างจริงจัง เพราะนับตั้งแต่เกิดเหตุเครื่องบินมาเลเซียแอร์ไลน์เที่ยวบิน MH17 ถูกขีปนาวุธยิงตกทางภาคตะวันออกของยูเครนในพื้นที่ยึดครองของกลุ่มกบฏฝักใฝ่รัสเซียเมื่อเดือนกรกฎาคม 2557 ทุกประเทศล้วนหันมาพึ่งพาคำแนะนำเรื่องความปลอดภัยการบินจากสหรัฐ สหราชอาณาจักร เยอรมนี และฝรั่งเศส.- สำนักข่าวไทย