กรุงเทพฯ 19 มิ.ย. – ไทยพาณิชย์ชี้ทั่วโลกจับตา “Libra” อนาคตของสกุลเงินโลก แนะสถาบันการเงินทั่วโลกจะต้องปรับตัวให้เร็ว หากไม่ต้องการถูก Disruption
หลังจากที่มีการประกาศข่าวใหญ่เมื่อวานนี้เกี่ยวกับการประกาศกำเนิดเกิดขึ้นของ Cryptocurrency สกุลใหม่มีชื่อว่า “Libra” ที่จะเริ่มใช้ในต้นปี 2563 ส่งผลให้สะเทือนถึงสถาบันการเงินทั่วทั้งโลก และเป็นที่จับตามองของธนาคารกลางทั่วโลก
นายศรชัย สุเนต์ตา CFA ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ SCB Investment Advisory, CIO office กล่าวว่า การก่อกำเนิดขึ้นของ Libra มาจาก Facebook และยังมีบริษัทอีก 27 แห่งมาจับมือกันร่วมกันก่อกำเนิดเป็นบริษัทขนาดใหญ่ทั้งนั้น เช่น Visa, MasterCard, Uber, PayPal, Spotify, eBay, Lyft, Vodafone และอีกหลายบริษัททั่วโลก จุดประสงค์เพื่อสร้างให้มีโครงสร้างระบบการเงินขั้นพื้นฐานที่ทุกคน ๆ ในโลกนี้สามารถเข้าถึงได้ง่ายทุกคนและจะเป็นระบบทางการเงินที่มีต้นทุนต่อผู้ใช้ถูกที่สุด มีความปลอดภัยสูงสุดเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางเท่าที่เทคโนโลยีวันนี้จะมีได้ เช่น ใช้ Technology Blockchain มาเป็นตัวกลาง
ที้งนี้ จะดีกว่าไหมที่ทุกคนบนโลกไม่จำเป็นต้องพกเงินสดเงินกระดาษที่อาจจะหาย ถูกขโมย หรือก่อให้เกิดความไม่ปลอดภัยหากพกพาติดตัวตลอดเวลา ซึ่งมีคำถามว่าจะดีกว่าไหมถ้าคนบนโลกนี้อีกมากมายหลายพันล้านคนที่ไม่เคยเข้าถึงการเปิดบัญชีกับสถาบันการเงินสามารถเข้าถึงระบบทางการเงินนี้ได้อย่างง่ายดาย เพียงแค่มีโทรศัพท์มือถืออยู่ในมือ บนโลกยังมีคนอีกหลายพันล้านคนที่ใช้โทรศัพท์มือถือ แต่ยังไม่สามารถเปิดบัญชีธนาคารได้ และไม่เคยใช้ธุรกรรมทางการเงินใด ๆ เลยกับธนาคาร
ขณะที่การโอนเงินให้เพื่อน ญาติ พี่น้อง ที่อาศัยอยู่ต่างประเทศจะทำได้ง่ายดาย รวดเร็ว เงินถึงผู้รับได้ทันทีที่กดโทรศัพท์มือถือ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ หรือถ้าจะมีก็ถูกมาก โดยไม่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมทำธุรกรรมการโอนเงิน หรือไม่ต้องมีค่าธรรมเนียมจากอัตราแลกเปลี่ยนใด ๆ ให้ต้องลุ้นว่าแพงไหม เช่น วันนี้ ราคาซื้อ ขาย เงินตราต่างประเทศอยู่ที่ประมาณ 3 – 5% ต้องจ่ายให้กับธนาคารและค่าโอนเงิน ได้แก่ โอนเงินผ่านระบบ Swift ของธนาคารจะมีค่าใช้จ่ายประมาณ 1,000-1,500 บาท ที่ผู้โอนจะต้องจ่าย นอกจากนี้ ผู้รับโอนเงินปลายทางต้องมีการเสียค่าธรรมเนียมให้กับธนาคารปลายทาง เช่น อีก 400 – 500 บาทต่อรายการ ถ้าคิดเลขแบบง่าย ๆ โอนเงิน 100,000 นบาท หักไปหักมาเหลือถึงผู้รับเพียง 93,000 บาท ขณะที่ใช้ระบบ Digital Money Transfer อาจจะไม่ต้องเสียอะไรเลย หรือเสียน้อยมาก ๆ ก็ได้ ดังนั้น ผลดี คือ ผู้รับปลายทางน่าจะได้รับเงินแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย
ต่อไปการเดินทางไปต่างประเทศหรือการซื้อสินค้าและบริการต่าง ๆ สามารถทำได้โดยใช้สกุลเงินเดียวกัน ไม่จำเป็นต้องแลกเงินหรือถือเงินสด ไม่จำเป็นต้องใช้บัตรเครดิตที่จะมีค่าธรรมเนียมที่แพงอยู่ เช่น อัตราแลกเปลี่ยนเป็นต้น การเดินทางขึ้นรถ หรือ การเดินทางโดยรถสาธารณะ การจ่ายค่ากาแฟ ต่าง ๆ ก็สามารถจ่ายผ่าน Digital Wallet ที่เก็บเงิน Digital ไว้ผ่านโทรศัพท์มือถือของเราอย่างง่ายดาย ไม่ว่าใครที่สามารถเข้าถึง Internet ได้ ก็สามารถใช้ระบบการเงินใหม่นี้ได้ด้วยเช่นกัน
ส่วนเงิน Digital สกุลนี้จะน่าเชื่อถือหรือไม่? Cryptocurrency โดยทั่วไปจะถูกสร้างขึ้นมาโดยไม่มีสินทรัพย์ อะไรมาสำรอง Backup เงินสกุลเหล่านั้นอยู่ข้างหลัง ดังนั้น ที่ผ่านมาจะเห็นเงิน Cryptocurrency ผันผวนอย่างมากง่ายต่อการนำมาเก็งกำไร เพราะมูลค่าที่แท้จริงยังยากต่อการค้นหาแต่คนสร้างเงินสกุล LIBRA ว่ากันว่าจะมีสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องมาอาจจะเป็นเงินสกุลต่าง ๆ Fiat Money Bank Deposits Government Securities เป็นสิ่งที่สำรอง Backup ค่าเงิน Digital นี้ให้มีความมั่นคงน่าเชื่อถือ แบบนี้จะเหมือนกับสมัยก่อนที่เงินดอลลาร์จะถูก Backup สำรองโดยมีทองคำกันเอาไว้ข้างหลังจึงทำให้ค่าเงินดอลลาร์ได้รับความน่าเชื่อถือและเป็นที่นิยมใช้เป็นตัวกลางในการแลกเปลี่ยน สินค้าและบริการต่าง ๆ ในเวลาต่อมาจนถึงปัจจุบัน
สิ่งที่จะเกิดขึ้นใหม่นี้จะเป็น Disruptor ตัวจริงที่มีทั้ง Technology, Resources และ Money สถาบันการเงินทั่วโลกจะต้องปรับตัวให้เร็วมากยิ่งขึ้นไปอีก เพื่อจะได้ไม่ตกเทรนด์ของภาวะการแข่งขัน ดังนั้น ควรจับตามองให้ดี.-สำนักข่าวไทย