พรรคพลังประชารัฐ 12 มิ.ย.-พปชร.เร่งหารือจัดทำนโยบายรัฐบาล เน้นจับต้องได้ตอบโจทย์ประชาชน
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานร่างนโยบายและผู้ประสานงานพรรคร่วมในการจัดทำนโยบายของรัฐบาล ได้ประชุมคณะทำงาน โดยนายสนธิรัตน์ กล่าวว่า พรรคพลังประชารัฐได้ร่างนโยบายในส่วนของพรรคแล้ว อยู่ระหว่างการร่างรายละเอียดตามนโยบายทั้ง 12 ข้อที่วางไว้ ซึ่งต้องเป็นนโยบายที่สามารถจับต้องได้ ตอบโจทย์เป็นประโยชน์ต่อประชาชน ทั้งนี้คณะทำงานอยู่ระหว่างการดำเนินงาน ซึ่งนโยบายของพรรคต้องสอดรับกับพรรคร่วมรัฐบาลด้วย มั่นใจว่าเสร็จทันสัปดาห์หน้า
ด้านนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล โฆษกพรรคพลังประชารัฐ ในฐานะคณะทำงานร่วมฯ กล่าวว่า ในช่วงเวลานี้ จะเน้นในนโยบายของพรรคพลังประชารัฐก่อน จากนั้นจะติดตามพูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาล เพื่อนำนโยบายที่สัญญากับประชาชนมาจัดทำนโยบายร่วมกัน ซึ่งในส่วนของนโยบายพรรคยังอยู่ระหว่างการปรับแก้ให้เกิดความสมบูรณ์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับนโยบายรัฐบาลในส่วนของพรรคพลังประชารัฐ จะนำมาจากนโยบายพลังประชารัฐสร้างชาติ 7 7 7 ประกอบด้วย 7 สวัสดิการประชารัฐ ขจัดความเหลื่อมล้ำที่ต้องเผชิญมาอย่างยาวนาน เพื่อให้ชาวไทยไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง ด้วยการต่อยอดบัตรประชารัฐ รวมถึงการจัดสวัสดิการที่เหมาะสมกับคนแต่ละกลุ่ม อันได้แก่ กลุ่มคนเมือง กลุ่มผู้สูงวัย กลุ่มผู้พิการ กลุ่มสตรี ฯลฯ เพื่อช่วยให้ประชาชนคนไทย มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น , 7 สังคมประชารัฐ เมื่อความเหลื่อมล้ำหมดไป ถึงเวลาที่จะต้องเตรียมคนไทยไปสู่ศตวรรษที่ 21 โดยเราให้ความสำคัญกับการพัฒนาคน ด้วยสนับสนุนการเรียนรู้ตลอดชีวิต ตั้งแต่เด็กในครรภ์มารดาจนไปถึงผู้สูงวัย รวมถึงพัฒนาชุมชนให้เข้มแข็งเพื่อกระจายความเจริญไปสู่ทุกภูมิภาคทั่วประเทศ ชาวไทยจะได้ทำงานใกล้บ้าน ใกล้ใจ , 7 เศรษฐกิจประชารัฐ เพื่อตอบรับการเปลี่ยนแปลงของโลกดิจิทัล โดยจะต้องปรับโครงสร้างเศรษฐกิจใหม่ด้วยนโยบายเศรษฐกิจประชารัฐ ซึ่งหัวใจสำคัญ คือ การดึงประโยชน์ของเทคโนโลยีมาบวกกับจุดแข็งของแต่ละพื้นที่ของไทยให้สามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ และสร้างโอกาสที่เท่าเทียม
นอกจากนี้ จะมีการนำนโยบายสำคัญ ๆ ทางเศรษฐกิจ เช่น โครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ , การดูแลราคาสินค้าเกษตร ด้วยการชดเชยเงินช่วยเหลือต่อไร่ , การเพิ่มมูลค่าที่ดินและ ส.ป.ก. 4.0 ตามที่พรรคพลังประชารัฐได้สัญญาไว้กับประชาชน การขยายบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ การดูแลราคาและการหาตลาดให้กับสินค้าเกษตร การปรับเปลี่ยนหลักเกณฑ์ที่ดิน ส.ป.ก. ตลอดจนการเร่งรัดลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมแห่งอนาคต การสร้างงาน การสนับสนุนและยกระดับ SME การพัฒนาอุตสาหกรรมในยุค 4.0 และการขับเคลื่อนโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) เพื่อดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ การสร้างสังคมให้เกิดความสามัคคีปรองดอง เพื่อให้ประเทศเดินไปข้างหน้าอย่างยั่งยืน.-สำนักข่าวไทย