นครราชสีมา 5 มิ.ย.- แม้จะถูกล่อขายจับกุม 5 คนร้ายโกงตาชั่งหมูในพื้นที่ จ.สุพรรณบุรี เมื่อไม่นานมานี้ แต่มิจฉาชีพไม่เข็ดหลาบ ยังคงตระเวนออกล่าเหยื่อเช่นเคย ทั้งในภาคอีสาน และภาคกลาง ขณะที่ตำรวจและฝ่ายปกครองใน จ.นครราชสีมา ซึ่งมิจฉาชีพกลุ่มใหญ่อาศัยอยู่ ยังไม่ให้ความสำคัญกับปัญหาเท่าใดนัก
ปฏิบัติการล่อขายจับกุม 5 คนร้ายแก๊งโกงตาชั่งหมูในพื้นที่ จ.สุพรรณบุรี เมื่อต้นเดือนก่อน ไม่อาจหยุดพฤติกรรมเอารัดเอาเปรียบของพ่อค้าเร่ที่มักมาจาก อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา หลังได้รับการประกันตัวด้วยหลักทรัพย์รวม 2.5 ล้านบาท เหมือนเป็นตัวเร่งให้ต้องถอนทุนคืน แทบจะทันที เกษตรกรชาว อ.ชุมพวง นครราชสีมา ครอบครัวนี้ ชี้รูปยืนยัน 1 ใน 5 คนร้ายดังกล่าว มาฉ้อโกงน้ำหนักหมูพวกเขาต่อ โดยหมูเฉลี่ย 90 กิโลกรัม 10 ตัว ขายได้เพียง 40,000 บาทเศษ ขณะที่ขายให้พ่อค้าอีกเจ้า จำนวนตัวและขนาดเท่ากันได้เงินกว่า 60,000 บาท ผู้เสียหายยอมรับไม่รู้ว่าถูกโกงอย่างไร แต่เห็นว่า คนร้ายผิดเวลานัด มากันตอนค่ำมืด และทำด้วยความโกลาหลวุ่นวาย พยายามติดต่อให้มาจับซ้ำ แต่ปฏิเสธ
ทีมข่าวลงพื้นที่ ต.โตนด อ.โนนสูง ภูมิลำเนาของ 2 ใน 5 คนร้าย ชาวบ้านเรียกพฤติกรรมการโกงตาชั่งว่า การน็อกหมู ซึ่งมีในพื้นที่มานานแล้ว ในช่วงแรกโกงในละแวกบ้าน ก่อนขยายวงไปสู่รอบนอก เกิดการเลียนแบบ บ่มเพาะในเครือญาติ บางแก๊งมีรถออกจับหมูถึง 5 คัน รองนายก อบต.โตนด เป็นหนึ่งในผู้ที่ตกเป็นเหยื่อการน็อกหมูราว 10 ปีก่อน ปัจจุบันรุ่นพ่อเลิกราแล้ว แต่มีลูกและหลานสืบทอด หลานที่ว่าก็คือ 2 ใน 5 คนร้ายที่เพิ่งถูกจับกุมในพื้นที่สุพรรณบุรี
ตาคนหนึ่งบอกว่า เคยออกรับซื้อ แต่ไม่เคยน็อกหมู หนึ่งในวิธีเอาตัวรอดของแก๊งน็อกหมู ป้องกันการถูกสกัดจับ คือยอมถีบกรงบรรทุกหมูบางส่วนลงข้างทาง แล้วให้เพื่อนร่วมแก๊งอีกคันตามมาเก็บ เพื่อให้รายละเอียดผิดเพี้ยนไป และมีการจ่ายส่วยให้เจ้าหน้าที่บางหน่วยงาน
เกษตรกรผู้เลี้ยงหมู ทั้งในภาคอีสาน และภาคกลาง ถูกโกงตาชั่งเป็นจำนวนมาก แต่หลายคนมักไม่แจ้งความ นี่เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ตำรวจและฝ่ายปกครองในพื้นที่ภูมิลำเนาของกลุ่มมิจฉาชีพ มองเห็นปัญหาน้อยกว่าความเป็นจริง.-สำนักข่าวไทย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ปฏิบัติการกดดันปิดช่องโกงตาชั่งหมู อบรมเกษตรกรรู้ทันกลโกง ►https://tna.mcot.net/view/izvrESH