ชลบุรี 29 พ.ค.-กรมควบคุมมลพิษ ลงพื้นที่เก็บตัวอย่างน้ำทะเล หลังไฟไหม้ตู้คอนเทนเนอร์บนเรือบรรทุกสินค้าท่าเรือแหลมฉบัง 6 จุด พร้อมตรวจวัดคุณภาพอากาศ พบ สารฟอร์มาลดีไฮด์เล็กน้อย
กรมควบคุมมลพิษ รายงานความคืบหน้ากรณีเพลิงไหม้ตู้คอนเทนเนอร์บนเรือสินค้า KMTC Hongkong บริเวณท่าเรือ A2 ท่าเรือแหลมฉบังว่า เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมา กรมควบคุมมลพิษ และสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมชลบุรี ลงพื้นที่เก็บตัวอย่างน้ำทะเลบริเวณจุดเกิดเหตุเพลิงไหม้ จำนวน 6 จุด วิเคราะห์ค่าโลหะหนัก TPH (Total Petroleum Hydrocarbon เป็นสารผสมของสารประกอบที่มาจากน้ำมัน) และคลอรีน (Residue Chlorine) รวมถึง กรมควบคุมมลพิษ และสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมชลบุรี ศบ.ทช.2 สำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 2 ชลบุรี ทน.แหลมฉบัง และ สนง.ท่าเรือแหลมฉบัง ประชุมหารือการดำเนินการเกี่ยวกับผลกระทบจากเหตุเพลิงไหม้ สรุปได้ดังนี้
1. สนง.ท่าเรือแหลมฉบัง จะเก็บตัวอย่างน้ำทะเล จำนวน 6 จุด ซึ่งเป็นจุดเดียวกันกับจุดเก็บตัวอย่างของส่วนน้ำทะเล/กจน. เพื่อวิเคราะห์ค่าโลหะหนัก TPH Residue chlorine และ Pesticide (สารกำจัดศัตรูพืช) โดยจะแจ้งวันที่เก็บตัวอย่างให้ทราบอีกครั้ง
2.ทน.แหลมฉบัง จะประชาสัมพันธ์ข้อมูลผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศ และผลการตรวจวัดคุณภาพสิ่งแวดล้อมอื่นๆ ให้ชุมชนที่อยู่ใกล้เคียง ได้แก่ ชุมชนบ้านนา ชุมชนแหลมฉบัง ทราบ เพื่อคลายความวิตกกังวลให้กับชาวบ้าน
นอกจากนี้ สนง.ท่าเรือแหลมฉบัง เก็บกู้ตู้คอนเทนเนอร์ 1 ใบ ที่กระเด็นล่วงลงไปในทะเลจากเหตุเพลิงไหม้ขึ้นมาไว้บนฝั่งแล้ว สำหรับผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศบริเวณจุดเกิดเหตุเพลิงไหม้และชุมชนโดยรอบท่าเรือแหลมฉบัง ช่วงเวลา 16.50 – 18.00 น. 1. บริเวณจุดเกิดเหตุเพลิงไหม้ ตรวจพบสารฟอร์มาลดีไฮด์ (formaldehyde) ปริมาณเล็กน้อย อยู่ในช่วง 0.0 – 0.1 ppm. ตรวจไม่พบสารอินทรีย์ระเหยง่าย(Total VOCs) และก๊าซคลอรีน(Cl2) 2.บริเวณชุมชนบ้านนา, จุดรวมพลวัดบ้านนา และชุมชนแหลมฉบัง ตรวจไม่พบ Total VOCs formaldehyde และ(Cl2)
ทั้งนี้ กรมควบคุมมลพิษ โดยศูนย์ควบคุมมลพิษ จังหวัดระยอง จะติดตามตรวจสอบบริเวณพื้นที่เกิดเหตุและทำการตรวจวัดคุณภาพอากาศเป็นระยะ จนกว่าจะมีการสูบนำปนเปื้อนใต้ท้องเรือไปบำบัดจนหมด และตำรวจพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุแล้วเสร็จ.-สำนักข่าวไทย