ศาลฎีกาฯ สั่งจำคุก 72 ปี อดีตเลขาฯ “บุญทรง” ทุจริตระบายข้าวจีทูจี

ศาลฎีกา 28 พ.ค.- ศาลฎีกาฯ สั่งจำคุก 72 ปี อดีตเลขาฯ “บุญทรง” ทุจริตระบายข้าวจีทูจี แต่เมื่อรวมโทษตามกฎหมายสูงสุดไว้ 50 ปี ส่วน คนสนิท“เสี่ยเปี๋ยง” โดน 32 ปี แถมให้ชดใช้เงินคนเดียวเกือบ 1.7 หมื่นล้านบาท ศาลออกหมายจับ ทั้ง 2 ที่หลบหนีคดีตั้งแต่แรก ส่วนคดี “บุญทรง” ยังรอลุ้นผลอุทธรณ์


ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สนามหลวง เวลา 10.00 น. วันนี้ (28 พ.ค.) องค์คณะพิจารณารื้อคดีทุจริตระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ในส่วนของอดีตเลขานุการของนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งเป็นจำเลยที่หลบหนีคดี ได้มีคำพิพากษาในคดีที่  พ.ต.นพ.ดร.วีระวุฒิ หรือหมอโด่ง วัจนะพุกกะ  อดีตเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ จำเลยที่ 3 และ  นายสุธี เชื่อมไธสง จำเลยที่ 16 ซึ่งเป็นคนสนิทของนายอภิชาติ จันทร์สกุลพร หรือเสี่ยเปี๋ยง นักธุรกิจค้าข้าวคนสำคัญ 

โดยคดีนี้ อัยการสูงสุด โจทก์ ได้ยื่นคำร้องเมื่อปี 2561 ขอให้ศาลนำคดีจำเลยที่ 3 และ จำเลยที่ 16 ที่หลบหนีคดีไประหว่างการพิจารณา เมื่อปี 2558 ซึ่งศาลได้ออกหมายจับจำเลยทั้ง 2 ไว้ ขึ้นมาพิจารณาโดยไม่มีตัวจำเลย ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง (วิ อม.) พ.ศ.2560 มาตรา 28 วรรคสอง หลังจากที่ศาลเคยมีคำสั่งให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบเป็นการชั่วคราว 


ทั้งนี้ คดีดังกล่าวสืบเนื่องจากที่อัยการสูงสุดได้ยื่นฟ้องนายภูมิ สาระผล อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ และนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กับเอกชนร่วม 28 รายคดีหมายเลขดำ อม.25/2558 และคดีหมายเลขแดง อม.178/2560 โดยศาลฎีกาฯ พิพากษาจำคุกนายภูมิ กับพวกรวม 18 รายไว้แล้ว เมื่อวันที่ 25 ส.ค.60) ซึ่งระหว่างการพิจารณากรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์  และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวม 5 ราย ได้ยื่นคำร้องขอให้นายสุธี เชื่อมไธสง จำเลยที่ 16 ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนพร้อมดอกเบี้ยด้วย

องค์คณะผู้พิพากษาศาลฎีกาฯ รวม 9 คน ได้พิเคราะห์พยานหลักฐานตามทางไต่สวน และรายงานของคณะกรรมการ ป.ป.ช.แล้ว เห็นว่า พ.ต.นพ.ดร.วีระวุฒิ หรือ หมอโด่ง จำเลยที่ 3 ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเป็นผู้ช่วยเลขานุการนายบุญทรง มีอำนาจหน้าที่รับผิดชอบในการปฏิบัติราชการของสำนักงานรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ และเป็นผู้บังคับบัญชาของข้าราชการ ซึ่งจำเลยที่ 3 ยังได้รับแต่งตั้งเป็นคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) และอนุกรรมการพิจารณาระบายข้าว 

ต่อมาก็ได้รับแต่งตั้งให้เป็นเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งมีพฤติการณ์ว่า จำเลยที่ 3 กับพวกร่วมกันวางแผนโดยแอบอ้างนำบริษัทกว่างตงฯ และบริษัท ห่ายหนานฯ จากประเทศจีน เข้ามาทำสัญญาซื้อขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐตามสัญญาซื้อขายข้าวโครงการจีทูจีกับกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ โดยหลีกเลี่ยงการแข่งขันราคาอย่างไม่เป็นธรรม ที่มีนายสุธี คนสนิทของเสี่ยเปี๋ยง จำเลยที่ 16 กับพวก สนับสนุน ด้วยการนำบริษัทค้าข้าวประเทศมาทำสัญญาซื้อข้าวโครงการจีทูจี กับกรมการค้าต่างประเทศในราคาต่ำกว่าท้องตลาด โดยไม่มีการส่งออกข้าวไปยังต่างประเทศตามโครงการนั้น ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประเทศ 


ถือว่า พ.ต.นพ.ดร.วีระวุฒิ หรือหมอโด่ง จำเลยที่ 3 ร่วมกับพวกทุจริตในการระบายข้าวโครงการจีทูจี ซึ่งศาลฎีกาฯ ได้มีคำพิพากษาจำคุกผู้ร่วมกระทำความผิดไปแล้ว ส่วนนายสุธี คนสนิทของเสี่ยเปี๋ยง จำเลยที่ 16 ได้ร่วมสนับสนุนจำเลยที่ 3 กับพวกกระทำความผิดดังกล่าวด้วย

องค์คณะผู้พิพากษาศาลฎีกาฯ จึงพิพากษาให้จำคุก พ.ต.นพ.ดร.วีระวุฒิ หรือ หมอโด่ง จำเลยที่ 3 รวม 4 กระทงๆ ละ 18 ปี จำคุกทั้งสิ้น 72 ปี แต่เมื่อรวมโทษทุกกระทงความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 91 (3) ให้จำคุกพ.ต.นพ.ดร.วีระวุฒิ ไว้เป็นเวลา 50 ปี 

ส่วน นายสุธี คนสนิทของเสี่ยเปี๋ยง จำเลยที่ 16 จำคุก 4 กระทงๆ ละ 8 ปี รวมจำคุกทั้งสิ้น 32 ปี และให้จำเลยที่ 16 ชำระค่าเสียหายในส่วนแพ่งให้กับกระทรวงการคลัง ผู้ร้องที่ 5 ด้วย เป็นเงิน 16,912,128,273.66 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี นับจากวันทำสัญญา

ศาลฎีกาฯ ยังมีคำสั่งให้ออกหมายจับเพื่อติดตามจับกุมตัว “พ.ต.นพ.ดร.วีระวุฒิ หรือหมอโด่ง จำเลยที่ 3  และ  นายสุธี คนสนิทของเสี่ยเปี๋ยง จำเลยที่ 16 ที่ยังหลบหนีคดีตั้งแต่แรกมาบังคับคดีตามคำพิพากษาต่อไป 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีในส่วนของนายภูมิ กับนายบุญทรง กับเอกชนนั้น ฝ่ายจำเลยที่ถูกตัดสินจำคุกตั้งแต่ 4-48 ปี ก็ได้ยื่นอุทธรณ์แล้ว เช่นเดียวกับฝ่ายอัยการสูงสุด ก็ได้ยื่นอุทธรณ์คดีในส่วนของจำเลยกลุ่มเอกชน 8 ราย ที่ยกฟ้องด้วย โดยขณะนี้ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา ได้รับอุทธรณ์ไว้พิจารณาแล้ว ขณะที่ นายภูมิ กับนายบุญทรง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์, เสี่ยเปี๋ยง และเอกชน รวม 18 ราย ที่ถูกตัดสินจำคุก ยังไม่มีใครได้รับการประกันตัวในชั้นอุทธรณ์ ซึ่งคดียังอยู่ระหว่างรอคำฟังพิพากษาอุทธรณ์

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 17 พ.ค. 2562 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้อ่านคำพิพากษาคดีหมายเลขดำ อม. 282/2560 ที่อัยการสูงสุด ยื่นคำร้องให้ศาลพิพากษาให้ทรัพย์สินของหมอโด่ง จำนวน 896,554,760.28 บาท ตกเป็นของแผ่นดิน สืบเนื่องจากคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดหมอโด่งกับพวกทุจริตในโครงการรับจำนำข้าวเปลือกและการระบายข้าว และมีมติว่าหมอโด่งร่ำรวยผิดปกติ เมื่อหมอโด่งหลบหนีคดีไม่มาพิสูจน์ ศาลจึงฟังพยานของอัยการสูงสุดและหลักฐานของ ป.ป.ช. แล้วพิพากษาให้ยึดทรัพย์จำนวนดังกล่าวพร้อมดอกผลตกเป็นของแผ่นดิน .- สำนักข่าวไทย  

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ป.ป.ส. รวบ 3 นักค้ายาเสพติดต่างชาติ ที่สนามบินสุวรรณภูมิ

ป.ป.ส. รวบนักค้ายาเสพติดต่างชาติ 3 ราย ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ส่งออกไปอิตาลี-อังกฤษ เลขาฯ ป.ป.ส. เผยความสำเร็จครั้งนี้เป็นผลจากการประสานงานใกล้ชิดระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ตรวจสอบตลาดปาล์มน้ำมัน หลังราคาพุ่ง

ช่วงนี้น้ำมันปาล์มตามท้องตลาดปรับราคาแพงขึ้น จากเดิมขวดละราว 10 บาท ทำให้ผู้บริโภคถึงกับโอดครวญ ขณะที่เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน ระบุแม้ช่วงนี้ราคาปาล์มน้ำมันขายได้ราคาดีที่สุดในรอบหลายปี แต่เกษตรกรกลับไม่มีปาล์มขาย

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยอีสาน อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย-ใต้ตอนบน ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ เผยภาคใต้ตอนบน มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ส่วนประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลงเล็กน้อยในภาคอีสาน โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งในภาคตะวันออก และภาคกลางตอนล่าง

เดินหน้าเสนอ ครม. ตั้งคณะกรรมการร่วมไทย-กัมพูชา เจรจาพื้นที่ทับซ้อน

กระทรวงการต่างประเทศ เดินหน้าเสนอ ครม. ตั้งคณะกรรมการร่วมด้านเทคนิค JTC ไทย-กัมพูชา เจรจาพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลระหว่างไทยกับกัมพูชา ตามแนว MOU 2544 ยืนยันไม่ทำให้เสียเกาะกูด

เข้าสู่ฤดูหนาว

อุตุฯ ประกาศไทยเข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว

กรมอุตุฯ ประกาศการเข้าสู่ฤดูหนาวของประเทศไทย ปี 2567 ตั้งแต่วันที่ 3 พ.ย. โดยเป็นการเข้าสู่ฤดูหนาวช้ากว่าปกติประมาณ 2 สัปดาห์ เนื่องจากมีพายุก่อตัวในมหาสมุทรแปซิฟิกและเคลื่อนเข้าสู่ทะเลจีนใต้ และยังมีฝนบางพื้นที่ ปีนี้จะหนาวกว่าปีที่แล้ว