กรมบัญชีกลางเร่งรัดเบิกจ่ายงบปี 68

กรุงเทพฯ 5 พ.ย. – กรมบัญชีกลางเร่งรัดเบิกจ่ายงบปี 68 หนุนขับเคลื่อนเศรษฐกิจตามนโยบายรัฐบาล เร่งรัดเบิกจ่าย ฝึกอบรม ประชุม สัมมนา


นางสาวทิวาพร ผาสุข รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง ในฐานะโฆษกกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่าจากมาตรการเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณปี 68 เป้าหมายการเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายลงทุนไม่น้อยกว่า ร้อยละ 80 รายจ่ายประจำไม่น้อยกว่า ร้อยละ 98 รายจ่ายภาพรวมไม่น้อยกว่า ร้อยละ 94 และการใช้จ่ายงบประมาณ (ก่อหนี้) รายจ่ายลงทุน รายจ่ายประจำ และรายจ่ายภาพรวม ร้อยละ 100 และให้หน่วยรับงบประมาณดำเนินการ ดังนี้

  1. เงินกันไว้เบิกเหลื่อมปีงบประมาณ 2567
    เร่งรัดการเบิกจ่ายเงินกันไว้เบิกเหลื่อมปี 2567 ภายในไตรมาสที่ 1 ของปีงบประมาณ 2568 โดยเฉพาะรายจ่ายที่ก่อหนี้ผูกพันแล้ว สำหรับเงินกันไว้เบิกเหลื่อมปีที่อยู่ระหว่างดำเนินกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง ให้เร่งรัดการก่อหนี้และเบิกจ่ายโดยเร็ว
  2. เงินงบประมาณปี 2568 กรณีเป็นรายจ่ายที่ต้องดำเนินการหรือเบิกจ่ายโดยสำนักงานในส่วนภูมิภาค ให้หน่วยรับงบประมาณเร่งดำเนินการส่งเงินจัดสรรไปยังสำนักงานในส่วนภูมิภาคภายใน 5 วันนับแต่วันที่ได้รับอนุมัติเงินจัดสรร เพื่อให้สำนักงานในส่วนภูมิภาคดำเนินการใช้จ่ายหรือก่อหนี้ผูกพันต่อไป ส่วนกรณีรายจ่ายลงทุนปีเดียว ไม่ว่าจะเบิกจ่ายงบรายจ่ายใดให้ก่อหนี้ผูกพันให้แล้วเสร็จภายในไตรมาสที่ 1 สำหรับรายการผูกพันข้ามปีงบประมาณรายการใหม่ ให้ก่อหนี้ผูกพันแล้วเสร็จภายในไตรมาสที่ 2 กำชับให้เร่งรัดการเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายด้านการฝึกอบรม ประชุม สัมมนา ประจำปี 2568 ให้สามารถเบิกจ่ายงบประมาณดังกล่าวได้ภายในไตรมาสที่ 2

โดยให้หัวหน้าหน่วยรับงบประมาณที่ได้รับจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปี กำกับดูแลบริหารจัดการเร่งรัดการดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็ว และเป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนด พร้อมทั้งรายงานความคืบหน้าการดำเนินงานของงบประมาณรายจ่ายลงทุน ปัญหาอุปสรรค และคาดการณ์การก่อหนี้และการเบิกจ่ายให้กรมบัญชีกลางภายในวันที่ 5 ของเดือนถัดไป เพื่อรายงานคณะกรรมการติดตามเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณและการใช้จ่ายภาครัฐ และเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป


ครม.ยังให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีเจ้าสังกัดกำกับดูแลให้หน่วยงานของรัฐในกำกับ เร่งรัดการเบิกจ่ายเงินให้เป็นไปตามเป้าหมาย โดยให้นำผลการเบิกจ่ายงบประมาณไปใช้ประกอบการพิจารณาในการประเมินผลการปฏิบัติราชการของหัวหน้าหน่วยงานเจ้าของบประมาณ โดยปรับปรุงข้อมูลทุกสัปดาห์เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการติดตามเร่งรัดการเบิกจ่ายและการใช้จ่ายเงินงบประมาณของส่วนราชการรัฐวิสาหกิจและหน่วยงานอื่นของรัฐ .-515 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”