ศาลปกครอง 29 มี.ค.- ศาลปกครองกลาง มีคำพิพ ากษายกฟ้องคำสั่งขอเพิกถอนให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนคดีระบายข้าวจีทูจี ส่งผลให้ “บุญทรง” และพวก ยังต้องจ่ายเงินรวมแล้วเกือบ 15,000 ล้านบาท
ศาลปกครองกลางมีคำพิพ ากษายกฟ้อง คดีที่นาย มนัส สร้อยพลอย อดีตอธิบดีกรมการค้าต่างปร ะเทศ ผู้ฟ้องที่ 1 นายทิฆัมพร นาทวรทัต อดีต ผอ.สำนักบริหารการค้าข้าว กรมการค้าต่างประเทศ และอดีตผู้ช่วยเลขานุการในคณะทำงานอนุกรรมการพิจารณาระบายข้าว ผู้ฟ้องที่ 2 นายภูมิ สาระผล อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพา ณิชย์ ผู้ฟ้องที่ 4 และนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ผู้ฟ้องที่ 5 ยื่นฟ้องนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงการคลัง และขอให้ศาลสั่งเพิกถอนคำสั่งกระทรวงพาณิชย์ ที่สั่งให้ทั้งหมดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนกรณีกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ทุจริตโครงการรับจำนำและ ระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐหรือจีทูจี
ทั้งนี้ ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่ากระบวนการออกคำสั่งที่ให้ชดใช้ค่าสินไหม และการแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิดชอบด้วยกฎหมายแล้ว และเปิดโอกาสให้มีการชี้แจงและโต้แย้งคดีตามสมควร รวมทั้งรับฟังพยานบุคคล เอกสารอื่นๆ และไม่ปรากฏพบว่า คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงฯ ได้ปฏิบัติตามข้อคำสั่งของผู้หนึ่งผู้ใด
ขณะที่ในส่วนของผู้ฟ้องที่ 3 คือนายอัฐฐิติพงศ์ หรือ อัครพงศ์ ทีปวัชระ หรือ ช่วยเกลี้ยง อดีตเลขานุการกรมการค้าต่างประเทศ พบว่า ร่วมกระทำผิดเฉ พาะสัญญาการซื้อขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐฉบับที่ 3 และ 4 เท่านั้นไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับฉบับที่ 1และ 2 จึงให้รับผิดชอบค่าสินไหมทดแทนร้อยละ 10 ของค่าเสียหาย และให้เพิกถอนคำสั่งของกระทรวงพาณิชย์เฉพาะในส่วนที่เรียกให้ค่าชดใช้ค่าเ สียหายเกินกว่าข้อเท็จจริงจำนวน2,694 ล้านบาทเศษ
ศาลระบุว่า สาระสำคัญในการทำสัญญาขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ กำหนดให้ต้องขายข้าวให้กับหน่วยงานของรัฐหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจากรัฐบาลของแต่ละประเทศเท่านั้น แต่ข้อเท็จจริงกลับพบว่า บริษัทกวางตุ้งและบริษัท ไห่หนาน ที่ร่วมทำสัญญาจีทูจี เป็นรัฐวิสาหกิจ ไม่ใช่ตัวแทนของรัฐบาลจีน และไม่มีการส่งข้าวออกไปตามที่ได้ทำสัญญาไว้ แต่กลับมีการทุจริตนำข้าวมาเวียนขายในประเทศ ซึ่งการกระทำของผู้ฟ้องทั้ง 5 คน ถือเป็นการจงใจกระทำต่อบุคคลอื่น เป็นเหตุทำให้กระทรวงพาณิชย์ได้รับความเสียหายกว่า 2 หมื่นล้านบาท ดังนั้น คำสั่งกระทรวงพาณิชย์ที่ให้ผู้ฟ้องที่ 1 2 4 และ 5 ต้องจ่ายค่าสินไหมทดแทนร้อยละ 20 ของค่าเสียหาย จึงถือว่าเหมาะสมและเป็นธรรมแล้ว ส่วนผู้ฟ้องคดีที่ 3 ให้รับผิดในค่าเสียหายร้อยละ 10 ส่งผลให้นายมนัส ต้องชดใช้ค่าสินไ หมทดแทน จำนวน 4,011 ล้านบาทเศษ นายทิฆัมพร จำนวน 4,011 ล้านบาทเศษ นายอัฐฐิติพงศ์ จำนวน 2,694 ล้านบาท นายภูมิ จำนวน 2,242 ล้านบาท และนายบุญทรง จำนวน 1,768 ล้านบาท รวมแล้ว 5 คน เกือบ 15,000 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ผู้ฟ้องคดีทั้ง 5 คน ยังสามารถยื่นร้องอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุดได้ภายใน 30 วัน.-สำนักข่าวไทย