ก.แรงงาน ปล่อยกู้ ปลอดดอกเบี้ย

กทม. 28 พ.ค.-ก.แรงงาน ขยายเวลาปล่อยกู้ ปลอดดอกเบี้ย วงเงินสูงสุด 1 ล้านบาทให้สถานประกอบกิจการเพื่อพัฒนาทักษะแรงงาน สิ้นสุดโปรโมชั่น ส.ค.62


นายสุทธิ สุโกศล อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน (กพร.) กระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า กพร.มีนโยบายการส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน เน้นย้ำการส่งเสริมและสนับสนุนให้สถานประกอบกิจการมีส่วนร่วมในการพัฒนาทักษะพนักงานของตนเองและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศตามแนวทางของยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ได้จัดโครงการปล่อยกู้ให้กับสถานประกอบกิจการเพื่อนำไปใช้ในการฝึกอบรม หรือทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงาน แบบไม่คิดดอกเบี้ย มีกำหนดชำระคืนไม่เกิน 12 เดือน วงเงินกู้สูงสุด 1,000,000 บาท สามารถยื่นคำขอได้ตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 30 ส.ค.62 หลังจากนั้นดอกเบี้ยจะปรับอัตราเป็นร้อยละ 3


นายสุทธิ กล่าวต่อไปว่า ในปี 2562 คณะกรรมการส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงานจัดสรรเงินให้กู้ยืมจากเงินกองทุนพัฒนาฝีมือแรงงานจำนวน 70 ล้านบาท ปัจจุบันมีสถานประกอบกิจการกู้ยืมเพื่อนำไปใช้ในการฝึกอบรมหรือทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแล้ว 15 แห่ง เป็นเงิน 11,140,000 ล้านบาท ซึ่งการให้กู้ยืมในครั้งนี้อยู่ในช่วงของการส่งเสริมและสนับสนุนให้สถานประกอบกิจการมีส่วนร่วมในการพัฒนาขีดความสามารถให้แก่บุคลากร มุ่งเน้นให้เป็นแรงงานคุณภาพ (Super Worker)จึงได้มีมาตรการจูงใจเชิญชวนให้กู้ยืมโดยไม่คิดดอกเบี้ย ซึ่งจะสิ้นสุดในวันที่ 30 ส.ค.62 นี้

ค่าใช้จ่ายที่ใช้ในการฝึกอบรมยังสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ร้อยละร้อยแล้ว ยังสามารถนำจำนวนลูกจ้างที่ได้รับการฝึกอบรมไปยื่นประเมินเงินสมทบกองทุนพัฒนาฝีมือแรงงานได้อีกด้วย 


นอกจากนี้ กพร. ได้มีเงินช่วยเหลือหรือเงินอุดหนุนให้แก่สถานประกอบกิจการและศูนย์ทดสอบที่ปฏิบัติตามเงื่อนไขกองทุนพัฒนาฝีมือแรงงานด้วย อาทิ สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 18 อุดรธานี ได้มอบเงินกว่า 70,000 บาท ให้สถานประกอบกิจการที่พัฒนาฝีมือแรงงานให้แก่ลูกจ้างในปีที่ผ่านมาส่วนที่เกินร้อยละ70 ได้รับเงินอุดหนุน 200 บาทต่อคนและผู้ดำเนินการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงาน 100 คนขึ้นไปได้รับเงินอุดหนุน 10,000 บาท ซึ่งขณะนี้มีสถานประกอบกิจการและศูนย์ทดสอบในจังหวัดอุดรธานี ที่ได้รับเงินอุดหนุนไปแล้ว ทั้งสิ้น 8 แห่งด้วยกัน 

‘การยื่นคำขอ  มีขั้นตอนไม่ยุ่งยากใช้เวลาพิจารณาไม่นาน  ยื่นคำขอได้ที่ สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 13 กรุงเทพมหานคร (สพร.13 กทม.) สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน (สพร.)หรือสำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงาน (สนพ.) ทั่วประเทศ หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่กองส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน โทร.0 2643 6039 หรือดาวน์โหลดเอกสาร ได้ที่ www.dsd.go.th/sdpaa ’อธิบดี กพร.กล่าว .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“เหนือ-อีสาน-กลาง” อากาศเย็น ภาคใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ รายงานภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง