กรุงเทพฯ 19 พ.ค. – “กฤษฎา” สั่งผู้ประกอบการได้รับสิทธิ์ต้องส่งนมครบตามสัญญา ปัดนำข้ออ้างไม่ได้รับความเป็นธรรมมาเป็นเหตุไม่ส่งนม สั่งเฉียบขาด 21 พ.ค.นี้ เด็กนักเรียนต้องได้ดื่มนมครบ 7.4 ล้านคนทั่วประเทศ
นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ได้สั่งการด่วนที่สุดให้ปลัดกระทรวงเกษตรฯ และอธิบดีกรมปศุสัตว์เร่งแก้ไขปัญหาการดำเนินงานโครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียน ปีการศึกษา 2562 เนื่องจากมีผู้ประกอบการบางรายอ้างว่าได้รับการจัดสรรปริมาณส่งนมโรงเรียนไม่เป็นธรรมนั้น ให้แนะนำผู้ประกอบการรายดังกล่าวยื่นอุทธรณ์ต่อผู้ว่าราชการจังหวัดตามขั้นตอนของกฎหมายได้ทันที แต่จะอ้างเป็นเหตุระงับไม่ยอมส่งนมไปยังโรงเรียนในบางพื้นที่ตามสัญญาที่มีอยูแล้วไม่ได้
ทั้งนี้ ขอให้แยกประเด็นการส่งนมกับข้ออ้างเรื่องการจัดสรรไม่เป็นธรรมออกจาก หากผู้ประกอบการรายใดไม่ยอมส่งนมตามที่ตกลง ทำให้นักเรียนไม่มีนมดื่มตามวันเวลาที่กำหนดโดยไม่มีเหตุผลให้เจ้าหน้าที่เกษตรอำเภอรวบรวมรายชื่อผู้ประกอบการดังกล่าวส่งสำนักงานปศุสัตว์จังหวัด เพื่อส่งให้ คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนกลุ่มพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงและรวบรวมหลักฐานเสนอคณะทำงานพิจารณาโทษ เพื่อตรวจสอบและลงโทษผู้ประกอบการที่ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด เช่น พิจารณาตัดโควตาจำหน่ายภาคการศึกษาต่อไปโดยเคร่งครัด โดยให้องค์การส่งเสริมกิจการโคนม (อ.ส.ค.) ส่งนมทดแทนแก่โรงเรียนที่ผู้ประกอบการไม่ไปส่งนมโรงเรียนเป็นการชั่วคราว
นายกฤษฎา กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงเกษตรฯ แต่งตั้งคณะกรรมการอาหารนมเพื่อเด็กและเยาวชน เพื่อทำหน้าที่บริหารจัดการโครงการฯ สำหรับนักเรียนและเยาวชนทั่วประเทศตามมติ ครม. และคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนโครงการนมโรงเรียน ระดับกลุ่มพื้นที่ 5 กลุ่ม ซึ่งมีการเลี้ยงโคนมมากเป็นผู้พิจารณาจัดสรรสิทธิ์และพื้นที่จำหน่ายนมโรงเรียนตามข้อกำหนด โดยใช้จำนวนนักเรียนตามข้อมูล (Big Data) ของกระทรวงศึกษาธิการ ปริมาณน้ำนมที่ผู้ประกอบการรวบรวมได้ และขีดความสามารถของผู้ประกอบการในการให้บริการนมโรงเรียนในพื้นที่มาใช้ในการคำนวณ ทำสัญญาซื้อขายระหว่างองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) หรือโรงเรียนเอกชนหรือหน่วยจัดซื้อกับ อ.ส.ค. หรือผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์นม
ที่ได้รับมอบอำนาจจาก อ.ส.ค. จึงขอให้ปศุสัตว์จังหวัดและเกษตรจังหวัดจัดเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบการส่งมอบนมให้แก่โรงเรียนต่าง ๆ ให้ครบทุกแห่งและเพียงพอต่อจำนวนนักเรียนรวมทั้งต้องเป็นน้ำนมที่มีคุณภาพตามสัญญาที่ตกลงไว้กับทางราชการด้วย
ทั้งนี้ มีรายงานว่ากรมปศุสัตว์กำลังเร่งเจรจากับผู้ประกอบการรายหนึ่งในจังหวัดราชบุรี ซึ่งอยู่ในพื้นที่กลุ่ม 5 ดูแลภาคกลางฝั่งตะวันตกและภาคใต้รวม 22 จังหวัด โดยผู้ประกอบการรายนี้ปฏิเสธที่จะส่งนมไปยังจังหวัดกระบี่ พังงา และภูเก็ต รวม 19,000 ถุง/กล่องต่อวัน โดยอ้างว่าเป็นพื้นที่ห่างไกล อีกทั้งไม่ยอมทำสัญญากับ อปท. เพื่อให้ส่งนมตามกำหนดวันที่ 21 พฤษภาคม หากการเจรจาไม่เป็นผลรัฐมนตรีเกษตรฯ สั่งการให้ อ.ส.ค.ส่งนมให้โรงเรียนใน 3 จังหวัดดังกล่าวแทน รวมทั้งย้ำให้พิจารณาโทษอย่างเคร่งครัด.-สำนักข่าวไทย