พรรคประชาธิปัตย์ 15 พ.ค. – นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ คว้าชัยนั่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ คนที่ 8 หลังประกาศจะกอบกู้พรรค ทำงานร่วมกับทุกฝ่าย และปรับปรุงพรรคให้ทันสมัย
ถ้อยคำแสดงวิสัยทัศน์ ก่อนลงคะแนนโหวต ถือเป็นคำมั่นที่นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ ขออาสานำพาพรรคประชาธิปัตย์เดินไปข้างหน้า เพื่อเรียกศรัทธาของพรรคกลับคืนมา และทำให้พรรคได้ที่นั่งมากกว่า 200 คนในอนาคต ไม่ใช่เหลือแค่ 52 คน ที่สำคัญเรียกร้องให้ทีมงานเดินไปข้างหน้าพร้อมกัน
สอดคล้องกับแนวคิดของนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรค ที่ขอเริ่มด้วยการปรับยุทธศาสตร์พรรค ผสมผสานการทำงานของคนรุ่นเก่า รุ่นใหม่ และรวมคนจากพรรคทุกภาคส่วนมาร่วมกันทำงาน เพราะถือว่าทุกคนคือพรรคประชาธิปัตย์
ก่อนการลงคะแนนเลือกหัวหน้าพรรค เป็นการแสดงวิสัยทัศน์ของผู้ท้าชิงทั้ง 4 คน ซึ่งทุกคนพูดในทิศทางเดียวกันว่า ทุกคนรักพรรค มีเป้าหมายทำให้พรรคก้าวไปในทิศทางที่ดีขึ้น ที่สำคัญต้องปรับระบบ แนวทางการบริหารพรรค เพื่อก้าวไปข้างหน้าอย่างมีศักดิ์ศรี
ที่สุดเมื่อเปิดโอกาสให้สมาชิกลงคะแนน ผลปรากฏว่า นายจุรินทร์ ได้คะแนนเกินครึ่ง 50.5995% ตามมาห่างๆ ด้วยนายพีระพันธุ์ 37.2160% นายกรณ์ 8.4881% และนายอภิรักษ์ 3.6965% ทำให้นายจุรินทร์ ก้าวมาเป็นหัวหน้าพรรคคนที่ 8 ของพรรคประชาธิปัตย์
หลังจากนั้นเป็นการเลือกรองหัวหน้าพรรค 5 คน คือ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ นายสาธิต ปิตุเตชะ นายไชยยศ จิรเมธากร นายนราพัฒน์ แก้วทอง นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ มีนายราเมศ รัตนะเชวง เป็นโฆษกพรรค
โจทย์ใหญ่ของหัวหน้าพรรคคนใหม่ที่ต้องตัดสินใจ คือ ร่วมหรือไม่ร่วมรัฐบาล ถ้าร่วมจะร่วมกับใคร เพื่อให้พรรคได้ทำงานโดยคงอุดมการณ์พรรคไว้ และไม่เสียคำมั่นที่อดีตหัวหน้าพรรคประกาศไว้ชัด ไม่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี ขณะที่ ส.ส.ส่วนใหญ่อยากให้ร่วมรัฐบาล แต่เลขาธิการพรรคป้ายแดง ยืนยันว่า มติพรรคจะเป็นไปในทิศทางเดียวกัน
จับตาหลังจากนี้ ทีมผู้พ่ายจะมีโอกาสได้เข้าร่วมงานกอบกู้พรรคตามที่หัวหน้าพรรคคนใหม่ประกาศหรือไม่ การตัดสินใจร่วมหรือไม่ร่วมรัฐบาล จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้พรรคกลับมายิ่งใหญ่ หรือต้องแตกสลาย. – สำนักข่าวไทย