กกต. 26 เม.ย. – “หมอทศพร” ควง “เอกชัย-ฟอร์ดเส้นทางสีแดง” มอบจดหมายเปิดผนึกให้ กกต. ยืนยันสูตรการคำนวณ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ของ กรธ.ขัดรัฐธรรมนูญ จี้ กรธ.แสดงความรับผิดชอบ พร้อมมอบใบแดงให้ กกต. เหตุยังไม่สามารถประกาศรับรอง ส.ส.ได้
นพ.ทศพร เสรีรักษ์ สมาชิกพรรคเพื่อไทย นายเอกชัย หงส์กังวาน นักเคลื่อนไหวทางการเมือง นายอนุรักษ์ เจนตวนิชย์ หรือ ฟอร์ดเส้นทางสีแดง พร้อมมวลชนจำนวนหนึ่ง มอบจดหมายเปิดผนึก โดยแนบสำเนาตัวอย่างการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ของคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) จากเว็บไซต์ของรัฐสภา ที่ระบุว่ามีความผิดพลาด ให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)
นพ.ทศพร กล่าวว่า สูตรการคำนวณตามตัวอย่างของ กรธ.มีความผิดพลาด 3 ประการ คือ จำนวนพรรคตัวอย่างมีน้อยเกินไป การคำนวณข้ามขั้นตอนจากมาตรา 128 (4) ไปเป็นมาตรา 128 (7) ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. และผลลัพธ์จากการคำนวณ ทำให้พรรคการเมืองบางพรรคมี ส.ส.เกินจำนวนส.ส.ที่พึงมี อันเป็นการผิดรัฐธรรมนูญ มาตรา 91 (4) และ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. มาตรา 128(5) การที่ กรธ.แสดงตัวอย่างที่ผิด แล้วสรุปให้ กกต.ทำตามตัวอย่างนี้ โดยจัดสรร ส.ส.ให้กับพรรคขนาดเล็กที่มีคะแนนเสียงต่ำกว่าคะแนนเฉลี่ย เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง จึงขอเรียกร้องให้ กรธ.แสดงความรับผิดชอบกับความผิดพลาดที่เกิดขึ้นนี้
“ในความเป็นจริงที่มีพรรคการเมืองกว่า 70 พรรค ถ้าดำเนินการตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 91(1) (2) (3) (4) และ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. ตามมาตรา 128 (1) (2) (3) (4) (5) (6) (7) อย่างเคร่งครัดตามขั้นตอนตามลำดับ ก็จะสามารถคำนวณจำนวน ส.ส.บัญชีรายชื่อได้ถูกต้อง โดยไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ ปี 2560 และไม่ขัดต่อ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ปี 2561” นพ.ทศพร กล่าว
จากนั้น นพ.ทศพร นายเอกชัย นายอนุรักษ์ และมวลชน ได้ร่วมกันจัดกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ มอบใบแดงและใบสั่งให้กับ กกต. โดยมีการชูป้ายข้อความ “การเมืองไทยจบไม่ลง จบไม่ได้ กกต.ต้องทำเรื่องจริงให้ปรากฏ ความชั่วร้ายจะหายไป” “ถ้าไม่โกงแล้วกลัวอะไร นับคะแนนดิบใหม่ทุกเขตเลือกตั้ง ประชาชนรอได้นี่ครับ” “กกต.หยุด 2 มาตรฐาน” “กกต.กินเงินเดือนจากภาษีประชาชน ไม่ใช่ คสช.”
นายเอกชัย กล่าวว่า ผ่านมาแล้ว 1 เดือนหลังการเลือกตั้ง แต่ กกต.ยังไม่สามารถประกาศผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการได้ ถือเป็นความล้มเหลวในการทำหน้าที่จัดการเลือกตั้ง จึงขอมอบใบแดงให้กับ กกต.ชุดนี้ พร้อมตั้งคำถามว่าได้รับใบสั่งจากใครหรือไม่.- สำนักข่าวไทย