แถลงสรุปปฏิบัติการเคลื่อนย้ายบ้านลอยน้ำ

ภูเก็ต 23 เม.ย.- 6 หน่วยงานของศรชล. ภาค 3 ร่วมแถลงสรุปปฏิบัติการเคลื่อนย้ายบ้านลอยน้ำผิดกฎหมายในทะเลไทยกลับเข้าฝั่ง เพื่อส่งมอบเป็นพยานหลักฐานให้แก่พนักงานสอบสวนดำเนินคดีเอาผิดกับเจ้าของบ้านทั้งสองรายแล้ว 


การแถลงข่าวร่วมกันของ 6 หน่วยงาน ศรชล. ภาคที่ 3 โดยมีตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ตและตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดภูเก็ตเข้าร่วมด้วย ที่บริเวณท่าเรือน้ำลึกตำบลวิชิตอำเภอเมืองภูเก็ต ซึ่งเป็นบริเวณที่เรือหลวงริ้น และเรือหลวงมันใน เคลื่อนย้าย seasteading  หรือบ้านลอยน้ำผิดกฎหมาย เข้ามาจอดเทียบท่าเพื่อส่งมอบให้กับพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรวิชิตถึงเมื่อช่วงเวลา 22:00 น. ของคืนที่ผ่านมา


พลเรือโทสิทธิพร มาศเกษม ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 ในฐานะผู้อำนวยการศรชล.ภาค 3 ระบุว่าขณะนี้ได้มีการส่งมอบตัวบ้านทรงแปดเหลี่ยมและเสาลอยน้ำ seasteading ที่ลากกลับมาถึง ณ ท่าเรือน้ำลึกเมื่อคืนที่ผ่านมา ให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรวิชิตแล้วโดยมีพลตำรวจตรีวิศาล พันธุ์มณี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ตเดินทางมาตรวจสอบพยานหลักฐานดังกล่าวด้วย โดยในวันนี้ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ตระบุว่า เจ้าหน้าที่จากกองพิสูจน์หลักฐานจะทำการตรวจสอบภายในตัวบ้านทรงแปดเหลี่ยมรวมถึงเสาลอยน้ำ ซึ่งเป็นของกลางชิ้นสำคัญ เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ เพิ่มเติม

อย่างไรก็ตามเมื่อวานนี้ทางพนักงานสอบสวนได้มีการรวบรวมพยานหลักฐานส่งให้แก่สำนักงานอัยการสูงสุดแล้วขณะนี้อยู่ระหว่างรอสำนักงานอัยการสูงสุดแต่งตั้ง คณะพนักงานสอบสวนเรื่องนี้อีกครั้งโดยคาดว่าไม่เกินสัปดาห์หน้า  ส่วนความคืบหน้าของการติดตามตัวเจ้าของบ้านลอยน้ำผิดกฎหมาย ทั้งในส่วนของนายแชด แอนดริว สัญชาติอเมริกันและนางสุปราณี เทพเดช หรือนาเดีย ภรรยาชาวไทย


พลตำรวจตรีวิศาล พันธุ์มณี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ยอมรับว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสามรถตรวจสอบการเคลื่อนไหวของบุคคลทั้งสองได้ครั้งล่าสุดบริเวณเกาะตะรุเตา จังหวัดสตูล เมื่อสองวันที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามจนถึงขณะนี้ยังไม่พบตัวบุคคลทั้งสองโดย ได้สั่งกำชับ ชุดสืบสวนเร่งรัดติดตามตัวบุคคลทั้งสองให้พบเชื่อมั่นว่ายังคงหลบหนีอยู่ในประเทศไทย

ทั้งนี้ในระหว่างนี้ หน่วยงานต่างๆของศรชล.ภาค 3 สามารถแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนเพื่อเอาผิดกับเจ้าของบ้านทั้ง 2 รายได้เพิ่มเติมนอกเหนือจากการที่ทัพเรือภาคที่ 3 แจ้งความเอาผิดตามกฎหมายในมาตรา 119 ฐานเป็นภัยต่อความมั่นคงของรัฐ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง