สธ. 21 เม.ย.-สธ.ส่งผู้บริหารระดมความคิด แก้ไขปัญหาการเงินการคลัง เกิดไอเดีย โรงพยาบาลคู่แฝด ‘สิงห์บุรี-อินทร์บุรี’ เน้นเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ทำเตียงคุณภาพ สร้างแรงจูงใจเข้ารับบริการ รวมทั้งการสร้างรายได้จากศักยภาพที่มีอยู่
ศ.คลินิกพิเศษ นพ.เสรี ตู้จินดา ประธานคณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นพ.สมยศ ศรีจารนัย สาธารณสุขนิเทศก์เขตสุขภาพที่ 4 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กองบริหารการสาธารณสุข กองเศรษฐกิจสุขภาพและหลักประกันสุขภาพ กรมการแพทย์ ตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลอินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี ติดตามการแก้ไขปัญหาสถานการณ์การเงินการคลังและการจัดบริการ ซึ่งโรงพยาบาลอินทร์บุรี เป็น 1ใน18 แห่ง ที่มีความเสี่ยงสถานการณ์การเงินรายได้ต่ำกว่าค่าใช้จ่ายสุทธิ สาเหตุส่วนหนึ่งมาจากการมีประชาชนในเขตรับผิดชอบ ที่อยู่ในสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติเพียง 30,000 กว่าคน งบประมาณที่ได้รับการจัดสรร จึงไม่เพียงพอ รวมทั้งอยู่ห่างจากโรงพยาบาลประจำจังหวัด เพียง 15 กิโลเมตร ทำให้ประชาชนส่วนหนึ่งเลือกที่จะรักษาที่โรงพยาบาลใหญ่
ศ.คลินิกพิเศษ นพ.เสรี กล่าวว่า ได้มอบนโยบายให้นำรูปแบบนครชัยศรีโมเดลมาปรับใช้ ในการจัดบริการ ด้วยการทำเตียงผู้ป่วยให้มีคุณภาพ พัฒนาความเชี่ยวชาญด้านบริการ จูงใจให้ประชาชนมั่นใจเข้าใช้บริการ โดยจับมือกับโรงพยาบาลสิงห์บุรีเป็นโรงพยาบาลคู่แฝด ใช้บอร์ดบริหารโรงพยาบาลร่วมกัน วางนโยบาย เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ใช้บุคลากรอย่างมีคุณภาพร่วมกันจัดบริการให้เหมาะสมกับศักยภาพของโรงพยาบาล และความต้องการของประชาชนในพื้นที่
“ขอให้ช่วยกันคิด ช่วยกันทำ คิดนอกกรอบ ศึกษาความคุ้มทุนในการจัด บริการ ประชาชนต้องการบริการอะไร แบ่งงานกันทำ อะไรที่สิงห์บุรีจะทำ อะไรที่อินทร์บุรีทำได้ดี พร้อมทั้งบุคลากร เครื่องมือแพทย์ คำนึงถึงต้นทุนที่มีทั้งค่าน้ำค่าไฟ ค่าแรง ค่าเสื่อม จะได้รู้ว่าต้องมีผู้รับบริการวันละเท่าไหร่ คิวการรักษาแออัดในเวลาหรือไม่หรือจะนำภาคเอกชนเข้าร่วมลงทุนเพื่อ ให้มีรายได้เพียงพอจัดบริการประชาชน” ศ.คลินิกพิเศษ นพ.เสรี กล่าว
ด้าน พญ.อัจฉรา ละอองนวลพานิช ผู้อำนวยการโรงพยาบาลอินทร์บุรี กล่าวว่า โรงพยาบาลอินทร์บุรีเป็นโรงพยาบาลทั่วไปขนาดเล็ก มีเตียงบริการ 170 เตียง รับผิดชอบประชากร 55,000 กว่าคน มีแพทย์ 23 คน เป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในสาขาหลักๆ ครบทุกสาขา มีผู้รับบริการที่แผนกผู้ป่วยนอกเฉลี่ยวันละ 600-700คน โรคที่พบได้มากที่สุดคือ โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไตเรื้อรัง ข้อเสื่อม เนื่องจากเป็นจังหวัดที่มีผู้สูงอายุเป็นอันดับ 1 ของประเทศ ในปี 2562 ผู้บริหารโรงพยาบาลมีแผนการเพิ่มรายได้จากบริการเช่น เปิดคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ ด้านจักษุและทันตกรรม บริการแพทย์แผนไทย/แพทย์ทางเลือก บริการหน่วยไตเทียม เพิ่มบริการผู้ป่วยใน/บริการห้องพิเศษ มีบริการศัลยกรรมตกแต่งและตรวจสุขภาพเชิงรุก เป็นต้น
“ต้องขอบคุณผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข ที่ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาของโรงพยาบาล ได้ส่งทีมมาช่วยระดมสมองวางแผนปรับบริการอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งนำผู้มีประสบการณ์มาถ่ายทอดแลกเปลี่ยนการทำงานเพื่อให้โรงพยาบาลสามารถดำเนินงานดูแลประชาชนในพื้นที่ ต่อไปได้ “แพทย์หญิงอัจฉรา กล่าว .-สำนักข่าวไทย