กรมพินิจฯ เปิดโครงการญาติเยี่ยมออนไลน์

ยธ.11 เม.ย.-กรมพินิจฯเพิ่มช่องทางให้ผู้ปกครองเยี่ยมบุตรหลานที่ถูกควบคุมในสถานพินิจฯและศูนย์ฝึก ผ่านระบบออนไลน์รับวันครอบครัว  นำร่องใน 2 ศูนย์ฝึกฯ ราชบุรี และเชียงใหม่ พบสถิติการเยี่ยมเพิ่มขึ้น3 เท่า หวังให้เด็กมีกำลังใจและกลับตัวเป็นคนดีสู่สังคม


นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน เป็นประธานแถลงข่าวเปิดโครงการญาติเยี่ยมทางไกลผ่านระบบออนไลน์  ร่วมกับภาคเอกชน ซึ่งระบบนี้จะให้ผู้ปกครองสามารถเยี่ยมเด็กและเยาวชนที่ถูกควบคุมในสถานพินิจและคุ้มครองเด็ก และในศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน โดยใช้มือถือของผู้ปกครองเชื่อมต่อกับระบบของสถานพินิจฯหรือศูนย์ฝึกได้ ทำให้ไม่ว่าผู้ปกครองจะอยู่ในประเทศไทยหรือต่างประเทศก็สามารถติดต่อและเยี่ยมบุตรหลานได้บ่อยขึ้น 


ในเบื้องต้นนำระบบนี้มาใช้ทดลองนำร่องในศูนย์ฝึกฯ เขต2 ราชบุรี และศูนย์ฝึกฯ เขต7 จังหวัดเชียงใหม่ ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์2562ซึ่งพบว่าทำให้จำนวนและความถี่ของผู้ปกครองเยี่ยมเด็กและเยาวชนเพิ่มขึ้นถึง3 เท่า ผู้ปกครองมีความพึงพอใจเพราะสามารถเยี่ยมเด็กและเยาวชนได้บ่อยครั้งขึ้น ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทางมาเยี่ยม ที่สำคัญเป็นการสร้างความผูกพันกันระหว่างครอบครัวให้เด็กและเยาวชนในความควบคุมของสถานพินิจฯได้มีโอกาสใกล้ชิดกับครอบครัวและมีโอกาสสื่อสารกันมากขึ้นซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยในการแก้ไขบำบัดฟื้นฟูเด็กและเยาวชนก่อนจะกลับคืนสู่สังคม ถือโอกาสวันครอบครัว 14 เมษายนปีนี้ โครงการฯอย่างเข้มข้นมากขึ้น


ทั้งนี้ในอนาคตจะขยายให้ครอบคลุมสถานพินิจฯและศูนย์ฝึกฯทุกแห่งทั่วประเทศ 

สำหรับขั้นตอนการเยี่ยมเยาวชนผ่านโครงการญาติเยี่ยมทางไกลผ่านระบบออนไลน์ ก่อนจะใช้งานได้ผู้ปกครองจะต้องลงทะเบียนรับการตรวจสอบเพื่อยืนยันการเป็นผู้ปกครองโดยกรมพินิจและคุ้มครองเด็ก และดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น Skype for Business  ผ่านApple iTunes หรือ PLAY STORE จากนั้นก็สามารถทำการนัดหมายกำหนดเวลาในการเยี่ยมเยาวชนกับกรมพินิจฯ ซึ่งเปิดให้เยี่ยมได้ทุกวันในเวลาราชการ เมื่อได้กำหนดนัดหมายเรียบร้อยแล้ว ผู้ปกครองรอรับ Sms แจ้งเตือนจากเจ้าหน้าที่ จากนั้นสามารถกดลิงค์จากSms ที่ได้รับแล้วโทรเข้ามาเยี่ยมบุตรหลานผ่านทางมือถือในลักษณะVDO call  ได้ทันที ระบบนี้สามารถรองรับการโทรเยี่ยมได้สูงสุดถึงครั้งละ 5 สายพร้อมๆกันจากหลากหลายสถานที่ ช่วยให้ผู้ปกครองที่ไปทำงานต่างจังหวัดหรือต่างประเทศสามารถใช้บริการได้อย่างสะดวก กำหนดให้เยี่ยมได้ครั้งละ 15 นาที โดยสามารถใช้บริการได้ผ่านระบบมือถือทุกเครือข่าย โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดใดทั้งสิ้น 

ทั้งนี้ อธิบดีกรมพินิจฯ ได้ทดลองระบบญาติเยี่ยมออนไลน์ไปยังศูนย์ฝึกเชียงใหม่ ซึ่งเป็น 1 ใน 2 จุดนำร่องของโครงการฯ ซึ่งมีผู่ปกครองใช้บริการแล้ว53 ราย จากจำนวนเด็กในความดูแล415คน จำนวนเยี่ยม101ครั้ง ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่าการเยี่ยมแบบใกล้ชิดตามปกติ .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง