ทำเนียบรัฐบาล 30 ม.ค. – โฆษกรัฐบาล ชื่นชมผลงานกระทรวงยุติธรรม-หน่วยงานในสังกัด ขับเคลื่อนแก้ไขปัญหากลุ่มคนไร้รัฐไร้สัญชาติ ให้มีสถานะบุคคลทางทะเบียนราษฎร ได้รับสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน ในไตรมาสแรกปีงบฯ 67 แล้วกว่า 2,449 ราย
วันนี้ (30 ม.ค.67) นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า ตามที่รัฐบาลภายใต้การนำของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้ความสำคัญกับความเท่าเทียมของคนทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มเปราะบาง คนพิการ ผู้สูงอายุ และกลุ่มชาติพันธุ์ โดยมีนโยบายในการดูแลให้มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี มีงาน มีรายได้ และมีคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าเดิมด้วยสวัสดิการโดยรัฐ นั้น กระทรวงยุติธรรมและหน่วยงานในสังกัดที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมขับเคลื่อนการช่วยเหลือกลุ่มคนไร้รัฐไร้สัญชาติ ให้ได้รับสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานและเป็นผู้มีสิทธิเสรีภาพตามที่กฎหมายรัฐธรรมนูญกำหนดไว้ โดยในช่วงไตรมาสแรกของปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 สามารถดำเนินการแก้ไขปัญหาให้กลุ่มคนไร้รัฐไร้สัญชาติ ครอบคลุมกลุ่มผู้สูงอายุ พระภิกษุสามเณร นักเรียนนักศึกษา และกลุ่มคนไทยพลัดถิ่น ในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี จังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดระนอง ให้เข้าสู่กระบวนการพิจารณาสถานะบุคคลและสัญชาติได้แล้วกว่า 2,449 ราย
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เมื่อวันที่ 30 มกราคม 2567 ที่กระทรวงยุติธรรม คณะบุคคลที่ได้รับการแก้ไขปัญหาคนไร้รัฐไร้สัญชาติ ด้วยการคัดกรองและการตรวจพิสูจน์สารพันธุกรรม (DNA) จากอำเภอฝาง อำเภออมก๋อย อำเภอแม่อาย อำเภอแม่เสรียง อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ได้เข้าขอบคุณ พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และคณะผู้บริหารหน่วยงานในสังกัดกระทรวงยุติธรรมที่เกี่ยวข้อง ที่ทำให้กลุ่มคนไร้รัฐไร้สัญชาติ มีสถานะบุคคลทางทะเบียนราษฎรและได้รับสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน โดยตัวแทนกลุ่มบุคคลฯ ได้กล่าวขอบคุณรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และหน่วยงานในสังกัดกระทรวงยุติธรรมที่เกี่ยวข้อง ที่ร่วมกันบูรณาการและผนึกกำลังขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาให้กลุ่มคนไร้รัฐไร้สัญชาติได้มีตัวตนบนโลกใบนี้
“รัฐบาลขอชื่นชมผลงานกระทรวงยุติธรรม และหน่วยงานในสังกัด ตลอดจนภาคประชาสังคมที่เกี่ยวข้อง ที่ได้บูรณาการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาสถานะบุคคลที่ไม่ถูกบันทึกประวัติไว้ในทะเบียนราษฎร และไม่มีสถานะสัญชาติใด ให้ได้รับสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานและเป็นผู้มีสิทธิเสรีภาพตามที่กฎหมายรัฐธรรมนูญกำหนดไว้ ซึ่งผลงานการแก้ไขปัญหาดังกล่าวเป็นการยืนยันว่า รัฐบาลโดยกระทรวงยุติธรรมจะนำความยุติธรรมไปสู่ประชาชนอย่างทั่วถึงและรวดเร็ว เพื่อปกป้องศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ปกป้องสิทธิมนุษยชน ให้ได้รับความคุ้มครองดูแลอย่างถึงที่สุด และจะดำเนินการอย่างต่อเนื่องในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ เพื่อช่วยเหลือบุคคลที่ยังไม่ได้รับการช่วยเหลือ และแก้ไขปัญหาเพื่อให้ได้รับสิทธิขั้นพื้นฐานตามหลักสิทธิมนุษยชนต่อไป” นายชัย กล่าว.-314-สำนักข่าวไทย