กรุงเทพ ฯ 1 เม.ย. – โพลสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุนปรับลดเป้าดัชนีหุ้นไทยปีนี้เหลือ 1,740 จุด จับตารัฐบาลใหม่ หวั่นเสถียรภาพต่ำอาจกระทบความมั่นใจการลงทุน
นายสมบัติ นราวุฒิชัย เลขาธิการและกรรมการผู้อำนวยการ สมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน เปิดเผยผลสำรวจความเห็นนักวิเคราะห์การลงทุน ต่อทิศทางการลงทุนในไตรมาสที่ 2 ถึงสิ้นปี 2562 จากการสำรวจทีมนักวิเคราะห์การลงทุน 25 บริษัท โดยดัชนีหุ้นไทย (SET Index) ณ วันสิ้นปี 2562 มีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 1,740 จุด ซึ่งน้อยกว่าผลสำรวจของเดือนมกราคมที่ผ่านมาที่ดัชนีสิ้นปีนี้อยู่ที่ 1,782 จุด
สำหรับปัจจัยที่มีผลต่อดัชนีราคาหุ้นไทยระยะสั้นนั้น นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มองว่าเรื่องการเมืองในประเทศ รวมถึงการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งหากรัฐบาลใหม่มีเสียงสนับสนุนไม่ถึง 300 เสียง หรือคะแนนสูสีกับฝ่ายค้าน รัฐบาลจะไม่มีเสถียรภาพ อาจจะกระทบต่อบรรยากาศการลงทุนโดยตรง และการลงทุนในตลาดหุ้น อาจทำให้ต้องมีการปรับประมาณการใหม่ ส่วนปัจจัยรองลงมา คือ สงครามการค้าและเศรษฐกิจโลก อย่างไรก็ตาม เมื่อมองภาพที่ยาวขึ้นถึงสิ้นปี 2562 คาดการณ์จุดต่ำสุดของดัชนีราคาหุ้นไทยระหว่างปีมีค่าเฉลี่ยต่ำสุดที่ 1,583 จุด และค่าเฉลี่ยจุดสูงสุดอยู่ที่ 1,764 จุด
ส่วนปัจจัยที่มีผลบวกต่อดัชนีราคาหุ้นไทยปี 2562 ได้แก่ ปัจจัยทางด้านการเมืองและทิศทางอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐอเมริกา รวมทั้งกระแสเงินทุนเคลื่อนย้ายจากต่างประเทศเข้าสู่ตลาดหุ้นไทยได้รับการโหวตถึงร้อยละ 64
ทั้งนี้ คาดการณ์กำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS) ของตลาดปี 2562 เฉลี่ยที่ 110.02 บาท และ ณ สิ้นปี 2562 คาดอัตราการเติบโตของ EPS เฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 9.67 นอกจากนี้ ผลสำรวจส่วนใหญ่คาดว่าคณะกรรมการนโยบายทางการเงิน (กนง.) จะไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยปีนี้ สำหรับหุ้นที่นักวิเคราะห์แนะนำ 5 หุ้นเด่น ที่ได้รับถูกเลือกมากที่สุด ได้แก่ 1.บมจ.ท่าอากาศยานไทย ( AOT ) มีปัจจัยสนับสนุน คือ ธีม การท่องเที่ยว ซึ่งเป็นนโยบายหลักของแทบทุกพรรคการเมือง 2.ธนาคารกรุงเทพ (BBL) จากภาวะการลงทุนในประเทศฟื้นตัว หนุนการขอสินเชื่อมากขึ้น 3.บมจ.ซีพี ออลล์ (CPALL) การบริโภคฟื้นตัว จากมาตรการผลักดันของภาครัฐ ผลดีจากการกระตุ้นการบริโภค และยังเป็นบริษัทที่มีกระแสเงินสดแข็งแกร่ง 4.บมจ. ปูนซิเมนต์ไทย (SCC ) ปัจจัยสนับสนุนจากกำไรกลับมาเติบโตอีกครั้ง จากธุรกิจปูนซีเมนต์ฟื้นตัว และ ราคาน้ำมันในเสถียรภาพ 5.บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น (STEC) อิงธีมการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ หุ้นรับเหมาก่อสร้างที่ได้ประโยชน์จากการเดินหน้าโครงการลงทุนขนาดใหญ่ และมีงานในมือ 120,000 ล้านบาท และมีโอกาสได้งานใหม่เพิ่ม .-สำนักข่าวไทย