รื้อโครงสร้างนมโรงเรียนทั้งระบบ

กรุงเทพฯ 26 มี.ค. –  ครม.เห็นชอบปรับปรุงโครงสร้างนมโรงเรียนทั้งระบบ ตัดผู้มีส่วนได้เสียป้องกันผลประโยชน์ทับซ้อน ตามข้อเสนอ ป.ป.ช.


นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ครม.เห็นชอบตามที่กระทรวงเกษตรฯ เสนอแนวทางปฏิรูประบบบริหารจัดการโครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียน โดยให้ทบทวนมติครม.15 ธันวาคม 2552 เดิมกำหนดให้คณะอนุกรรมการบริหารจัดการนมโรงเรียนอยู่ในกำกับดูแลของคณะกรรมการโคนมและผลิตภัณฑ์นม (มิลค์บอร์ด) มีองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) เป็นเลขานุการ อีกทั้งยังมีผู้แทนองค์กรเกษตรกรและผู้ประกอบการเป็นกรรมการ ดังนั้น กระทรวงเกษตรฯ จึงเสนอให้แยกองค์กรที่ดูแลนมโรงเรียนออกจากมิลค์บอร์ดแล้วแต่งตั้งเป็น “คณะกรรมการอาหารนมเพื่อเด็กและเยาวชน”  โดยมีปลัดกระทรวงเกษตรฯ เป็นประธาน อธิบดีกรมปศุสัตว์เป็นเลขานุการแทนอ.ส.ค. เนื่องจาก อ.ส.ค.เป็นผู้ประกอบการจำหน่ายนมโรงเรียน พร้อมกับตัดคณะกรรมการที่เป็นผู้แทนองค์กรเกษตรกรและผู้ประกอบการ เนื่องจากเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย จึงป้องกันปัญหาผลประโยชน์ทับซ้อนตามที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้ข้อเสนอแนะ


สำหรับคณะกรรมการอาหารนมเพื่อเด็กและเยาวชนจะมีคณะอนุกรรมการ 4 ชุด คือ คณะอนุกรรมการบริหารกลางทำหน้าที่กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีดำเนินโครงการนมโรงเรียน คณะอนุกรรมการรรณรงค์บริโภคนมในสถาบันการศึกษาทุกระดับเพื่อเพิ่มอัตราการดื่มนมจาก 18 ลิตรต่อคนต่อปี เป็น 25 ลิตรต่อคนต่อปี ภายในปี 2564 และคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนโครงการฯ ระดับกลุ่มพื้นที่แบ่งเป็น 5 กลุ่ม ครอบคลุม 7 เขตพื้นที่ที่มีการเลี้ยงโคนมมาก ได้แก่ กลุ่ม 1 ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรีเป็นประธานดูแลเขต 1 กลุ่ม 2 ผู้ว่าฯ นครราชสีมาดูแลเขต 2 และ 3 กลุ่ม  3 ผู้ว่าฯ ขอนแก่นดูแลเขต 4 กลุ่ม 4 ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ดูแลเขต 5 และ 6 กลุ่ม 5 ผู้ว่าฯ ราชบุรีดูแลเขต7 8 และ9 และคณะอุนกรรมการอื่น ๆ ที่จำเป็น อ.ส.ค. จะทำหน้าที่เป็นองค์กรกลางระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายหรือเป็นคู่สัญญา โดยมอบกรมปศุสัตว์เป็นหน่วยงานหลักร่วมกับอ.ส.ค.และกรมส่งเสริมสหกรณ์ทำระบบฐานข้อมูล (Big Data) ของโครงการนมโรงเรียนเพื่อให้เด็กและเยาวชนได้ดื่มนมที่มีคุณภาพทุกวันและสามารถตรวจสอบย้อนกลับถึงแหล่งผลิตและโรงงานแปรรูปได้

ส่วนเกษตรกรผู้มีสิทธิ์จำหน่ายน้ำนมดิบต้องจดทะเบียนเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมกับกรมปศุสัตว์ ส่วนศูนย์รวบรวมน้ำนมโคและผู้ประกอบการแปรรูปต้องลงทะเบียนเข้าโครงการนมโรงเรียน เพื่อให้ได้ข้อมูลทั้งด้านคุณภาพและปริมาณที่แท้จริง อีกทั้งให้มีบทลงโทษกรณีขึ้นทะเบียนซ้ำหลายพื้นที่และแจ้งข้อมูลเป็นเท็จ


สำหรับเกณฑ์การจัดสรรสิทธิ์ จากเดิมจัดสรรตามปริมาณน้ำนมดิบที่ทำ MOU การรับซื้อไว้กับกรมส่งเสริมสหกรณ์ แต่ข้อมูลที่ผู้ประกอบการแจ้งไม่น่าเชื่อถือและไม่มีผลบังคับตามกฎหมาย จึงกำหนดหลักเกณฑ์ให้จัดสรรตามปริมาณน้ำนมดิบในพันธสัญญาที่มีผลบังคับใช้ตามกฎหมาย ปัญหาที่ผ่านมายังพบว่า ผู้ประกอบการต้องการได้สิทธิ์จำหน่ายนมโรงเรียน แต่ไม่รับผิดชอบน้ำนมดิบที่เพิ่มขึ้นแต่ละปี จึงจะพิจารณาถึงความรับผิดชอบต่อเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม ให้ความสำคัญแก่ภาคสหกรณ์และศูนย์รวบรวมน้ำนมโคเป็นของตนเอง หรือมีแผนการตลาดรองรับน้ำนมดิบเพิ่มขึ้นทุกปี และรับผิดชอบตลอด 365 วัน อีกทั้งมีระบบการขนส่งที่มีประสิทธิภาพและประวัติการดำเนินงานที่ผ่านมา ส่วนคุณภาพของนมโรงเรียนต้องเป็นไปตามมาตรฐานของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) จะเพิ่มความเข้มงวดตรวจสอบคุณภาพนมโรงเรียนระดับพื้นที่ ในอนาคตจะเพิ่มสารอาหารที่จำเป็นหรือเหมาะสมสำหรับแต่ละเขตเช่น เติมไอโอดีน ดีเอชเอ ลูทีน โคลีน เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลยังคงอุดหนุนงบประมาณจัดสรรให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ในการจัดซื้อนมสำหรับโรงเรียนรัฐ ส่วนโรงเรียนเอกชนจัดสรรผ่านกระทรวงศึกษาธิการ โดยวิธีกรณีพิเศษ ตามพ.ร.บ. การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 เพื่อให้เกิดประโยชน์แก่เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมและเด็กนักเรียนที่บริโภคมากที่สุด สำหรับ อ.ส.ค.ทำหน้าที่เป็นคู่สัญญาซื้อขายกับผู้ประกอบการและหน่วยงานที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณจัดซื้อนมโรงเรียน โดยสามารถมอบอำนาจแก่ผู้ประกอบการเป็นคู่สัญญาซื้อขายแทนได้ นอกจากนี้ กำหนดให้ผู้ประกอบการทุกรายทำประกันภัยความรับผิดชอบจากผลิตภัณฑ์ เพื่อให้การคุ้มครองผู้บริโภคมีมาตรฐานเทียบเท่าสากล

“การปรับเปลี่ยนแนวทางบริหารจัดการโครงการนมโรงเรียนตามรูปแบบใหม่นี้จะทำให้เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมมีรายได้มั่นคงและคุณภาพชีวิตดีขึ้น เนื่องจากผู้ประกอบการต้องรับผิดชอบน้ำนมดิบทุกวัน ทำให้เกิดความโปร่งใสในโครงการ เด็กและเยาวชนได้ดื่มนมที่มีโภชนาการสูง ส่งผลดีต่อพัฒนาการด้านต่าง ๆ อย่างเต็มศักยภาพ” นายกฤษฎา กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้นบ้านสามารถ

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ” คดีฟอกเงินดิไอคอน

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” คดีฟอกเงินดิไอคอน หลังพบเงิน “บอสดิไอคอน” โอนเข้าบัญชีแม่ของนายสามารถ

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง

คะแนนไม่เป็นทางการ เลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ

ลุ้นผลคะแนนเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช นับเสร็จแล้วบางหน่วย ล่าสุด ณ เวลา 19.40 น. “วาริน ชิณวงศ์” เบอร์ 2 จากทีมนครเข้มแข็ง ชนะคู่แข่งขาดลอยในหลายหน่วย คะแนนทิ้งห่างแชมป์เก่า “กนกพร เดชเดโช” เบอร์ 1 จากพรรค ปชป.

“ทนายสายหยุด” จ่อถอนตัวคดีตั้ม หวั่นติดร่างแห

“ทนายสายหยุด” เตรียมถอนตัวเป็นทนายให้ “ตั้ม” เผยในมือมีแต่พยานเท็จ ปิดบังข้อเท็จจริง เสี่ยงเป็นผู้ร่วมกระทำผิด

ข่าวแนะนำ

วิเคราะห์การเมืองสนามใหญ่ หลังศึกเลือกตั้งนายก อบจ.

วิเคราะห์ผลการเลือกตั้งนายก อบจ. 4 สนามใหญ่ โดยเฉพาะอุดรธานี ที่สะท้อนถึงความนิยมในตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี

“บิ๊กเต่า” ลั่นเตรียมมอบกุญแจมือเป็นของขวัญปีใหม่ให้คนดัง ส่งนอนห้องขัง

“บิ๊กเต่า” ลั่นเตรียมมอบ “กุญแจมือ” เป็นของขวัญปีใหม่ให้อินฟลูฯ นักร้อง คนดัง ส่งนอนห้องขังวีไอพี เผยปม “ฟิล์ม รัฐภูมิ” คาดมีความชัดเจนภายในสัปดาห์นี้

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง