ศลต.ตร.เผยตัวเลขการทำผิดเลือกตั้งทั่วประเทศแล้วกว่า50คดี

กรุงเทพฯ 25 มี.ค.- ศลต.ตร.เผยตัวเลขการกระทำผิดเกี่ยวกับการเลือกตั้งทั่วประเทศกว่า 50 คดี พร้อมเฝ้าจับตาสถาณการณ์และเฝ้าระวังกลุ่มที่ไม่ประสงค์ดี ซึ่งอาจจะก่อเหตุเพื่อสร้างสถานการณ์หลังการเลือกตั้งต่อไป 


พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. เปิดเผยถึงการรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อย การจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฏร (ส.ส.) เป็นการทั่วไป ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในการบูรณาการกับ กกต. ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ตามหน่วยเลือกในพื้นที่ต่างๆทั่วประเทศ ว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้มอบหมายให้ รอง ผบ.ตร. ที่เกี่ยวข้องลงไปกำกับดูแลการจัดการเลือกตั้ง ของเจ้าหน้าที่ตำรวจตามหน่วยการเลือกตั้งต่างๆทั่วประเทศให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย พร้อมประสานการปฏิบัติกับ กกต. ในพื้นที่อย่างใกล้ชิด โดยหลังจากการเปิดหีบเลือกตั้ง จนถึงการปิดหีบบัตรในเวลา 17.00 น. ของวันที่ 24 มี.ค.2562 ได้รับรายงานจาก ศูนย์อำนวยการรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยการจัดการเลือกตั้ง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศลต.ตร.) และศูนย์ของหน่วยตามภูมิภาคต่างๆทั่วประเทศ ว่ามีการดำเนินคดีความผิดที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งไปแล้วกว่า 50 คดี อาทิ การฉีกบัตรเลือกตั้ง การจำหน่ายสุรา การซื้อเสียงและความผิดอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ตาม พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฏร 2561 ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นมีการรายงานและประสานการปฏิบัติกับ กกต. อย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งการส่งมอบคดีให้กับ กกต. เพื่อดำเนินการที่เกี่ยวข้องตามกฎหมาย โดยจะดำเนินการไปตามกฎหมาย ระเบียบคำสั่งที่เกี่ยวข้อง ด้วยความรวดเร็ว โปร่งใส และเกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เพื่อให้การเลือกตั้งเป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ เป็นที่ยอมรับ

รอง โฆษก ตร. กล่าวต่ออีกว่า โดยหลังจากการเลือกตั้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ดูแลด้านการข่าวและการสืบสวนสอบสวน คงจะเฝ้าจับตาสถาณการณ์และเฝ้าระวังกลุ่มที่ไม่ประสงค์ดี ซึ่งอาจจะก่อเหตุเพื่อสร้างสถานการณ์ในพื้นที่ต่างๆทั่วประเทศ ต่อไป


โดยในส่วนภาพรวมของการปฎิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตั้งแต่การเลือกตั้งล่วงหน้าในวันที่ 17 มี.ค.2562 จนถึงการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 24 มี.ค.2562 ไม่ว่าจะเป็นการจัดการจราจรและอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่เดินทางมาใช้สิทธิเลือกตั้ง การ รปภ.ประจำหน่วยเลือกตั้ง ชุดเคลื่อนที่เร็วในการระงับเหตุ การขนย้าย หีบ บัตรเลือกตั้ง เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่มีเหตุการณ์ที่รุนแรง หรือกระทบต่อการจัดการเลือกตั้ง

พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนาย ที่ช่วยกันดูแลรักษาความเรียบร้อยในหน่วยเลือกตั้งและอำนวยความสะดวกการจราจรให้กับประชาชนที่มาใช้สิทธิอย่างเต็มที่ จนสำเร็จลุล่วง พร้อมชุดปฏิบัติการต่างๆ ในการเดินทาง การขนส่งหีบ บัตรเลือกตั้ง การรักษาความปลอดภัย รวมถึงการรักษาหีบบัตร ณ สถานีตำรวจ ที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยสุจริต เที่ยงธรรม ด้วยความเรียบร้อยดี .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง