ย้อนรอยคดีอุ้มฆ่า “อัลรูไวลี”

กรุงเทพฯ 22 มี.ค.- คดีอุ้มฆ่านายโมฮัมเหม็ด อัลรูไวลี นักธุรกิจจัดส่งแรงงานไทยไปซาอุดีอาระเบียเมื่อปี 2533 เป็นอีก 1 คดีที่โจทก์และจำเลย ใช้เวลาต่อสู้ยาวนานร่วม 29 ปี กลายเป็นคดีมหากาพย์ที่สังคมจับตามานานว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร โดยเฉพาะอดีตตำรวจทั้ง 5 นาย ซึ่งเป็นจำเลย และวันนี้ศาลได้พิพากษาแล้วว่าพวกเขาพ้นผิด


การหายตัวไปอย่างลึกลับของนักธุรกิจจัดส่งแรงงานไทยไปตะวันออกกลาง 3 วัน หลังนักการทูตซาอุดีอาระเบียถูกฆาตกรรม “โมฮัมเหม็ด อัลรูไวลี” พระญาติสนิทกษัตริย์ไฟซาลแห่งซาอุฯ กลายเป็นผู้ต้องสงสัยมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ถูกเชิญตัวไปสอบปากคำ และหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย จนถึงทุกวันนี้ นาน 29 ปี การสืบสวนในทางลับพบข้อมูลอัลรูไวลี ถูกกลุ่มคนสีกากี 5 นาย อุ้มตัวจากโรงพยาบาลกรุงเทพคริสเตียน ย่านสาทร นำตัวไปสอบสวนในโรงแรมฉิมพลี เพื่อรีดข้อมูลเหตุสังหารนักการทูตซาอุฯ  แต่เกิดความผิดพลาด อัลรูไวลี เสียชีวิต จึงต้องทำลายหลักฐาน นำไปเผากลางไร่มัน ย่านศรีราชา ชลบุรี


2 ปีต่อมา ทีมสืบสวนคดีฆาตกรรมนักการฑูตซาอุฯ พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม และผู้ใต้บังคับบัญชา 4 นาย กลายเป็นผู้ต้องสงสัยอุ้มฆ่าอัลรูไวลี แต่พยานหลักฐานไม่เพียงพอ อัยการสั่งไม่ฟ้อง


19 ปี ผ่านไป ดีเอสไอนำแหวนทองคำรูปพระจันทร์เสี้ยว ซึ่ง พ.ต.ท.สุวิชชัย แก้วผลึก พยานปากเอกในคดีนี้ และเป็นหนึ่งในทีมสืบสวนคดีสังหารนักการทูตซาอุฯ อ้างว่าเป็นแหวนของอัลรูไวลี ที่ชุดอุ้มฆ่าเก็บได้ในถังน้ำมัน หลังเผาทำลายศพ มาใช้เป็นหลักฐานขอรื้อฟื้นคดี ทำให้ตำรวจ 5 นายตกเป็นจำเลย อัยการเห็นสั่งฟ้องทั้ง 5 นาย รวม 4 ข้อหาหนัก โทษสูงสุดประหารชีวิต

แต่ระหว่างสืบพยานโจทย์ ดีเอสไอกลับไม่สามารถนำตัว พ.ต.ท.สุวิชชัย พยานปากสำคัญ มาขึ้นเบิกความต่อศาลได้ เนื่องจากหลบหนีออกนอกประเทศ เพราะถูกศาลจังหวัดมีนบุรีพิพากษาจำคุกตลอดชีวิตในคดีฆ่าคนตาย และหนีประกันในชั้นอุทธรณ์

ศาลชั้นต้นศาลอุทรณ์และฎีกาเห็นพ้องในทิศทางเดียวกันว่า พ.ต.ท.สุวิชชัย ให้การสับสน ขัดกับคำให้การเดิม มีลักษณะต่อรองผลประโยชน์เพื่อให้หลุดพ้นคดีที่ตกเป็นผู้ต้องหาฆ่าคนตาย จึงรับฟังไม่ได้ อีกทั้งวัตถุพยานแหวนทองคำรูปพระจันทร์เสี้ยว ที่พบในก้นถังน้ำมันขนาด 200 ลิตร ไม่พบร่องรอยการเผาไหม้ หรือหลอมละลาย อีกทั้งญาติสนิทของนายอัลรูไวลี ในประเทศซาอุดีอาระเบีย ไม่สามารถยืนยันได้ว่าเป็นแหวนของนายอัลรูไวลี จึงพิพากษายกฟ้อง

แม้คดีอุ้มฆ่าอัลรูไวลี นักธุรกิจจัดส่งแรงงานไทยไปซาอุฯ ได้จบสิ้นไปแล้ว แต่ พล.ต.อ.สมคิด และอดีตผู้ใต้บังคับบัญชาทั้ง 4 นาย ที่ตกเป็นจำเลยสังคมมานาน 29 ปี ยังไม่จบสิ้น โดยเตรียมฟ้องกลับดำเนินคดีกับพนักงานสอบสวนดีเอสไอและอัยการที่ทำคดีนี้ต่อไป.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง