กทม. 17 มี.ค. – พรรคประชาธิปัตย์ ประกาศนโยบายต่อต้านคอร์รัปชัน จะใช้แอพพลิเคชันแจ้งโกง เน้นการมีส่วนร่วมประชาชนแจ้งเบาะแส ยกเครื่องการทำงานของ ป.ป.ช ใหม่ แก้กฎหมายให้ชี้มูลภายใน 6 เดือน และให้ ส.ส. เปิดเผยธุรกิจเครือญาติ ป้องกันประโยชน์ทับซ้อน
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แถลงนโยบายต่อต้านคอร์รัปชัน เพราะสโลแกนของพรรคประชาธิปัตย์ คือประชาชนเป็นใหญ่ประชาธิปไตยสุจริต ไม่ให้การเมืองกลับเข้าสู่วงจรอุบาทว์ และจากการไปประชันวิสัยทัศน์กับทุกพรรคการเมืองมีการมองว่าปัญหาทุจริตเป็นเพียงวาทกรรม ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ยืนยันว่าปัญหาทุจริตไม่ใช่วาทกรรม แต่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์มีหัวหน้าพรรคที่เป็นนายกรัฐมนตรีมาแล้ว 4 คน และให้ความสำคัญกับเรื่องการแก้ปัญหาทุจริต ไม่มีใครมีมลทิน ทุจริตคอร์รัปชัน ดังนั้น เพื่อเป็นการแก้ปัญหาทุจริต พรรคประชาธิปัตย์จึงมีนโยบายในการป้องกัน โดยสาเหตุคอร์รัปชันมีทั้งปล้นประเทศ ปล้นประชาชน และวางแผนมาปล้นด้วยการทุจริตเชิงนโยบาย ทั้งนี้ เครื่องมือที่จะปราบคอร์รัปชันของพรรคประชาธิปัตย์ คือ ใช้เทคโนโลยีเพื่อความโปร่งใส โดยใช้แอพพลิเคชั่นแจ้งโกง เปิดเผยราคากลางจัดซื้อจัดจ้างและวิธีคำนวณราคาออนไลน์ รวมถึงเปิดเผยการเสียภาษีที่ดินออนไลน์ เน้นการมีส่วนร่วมของประชาชน โดยให้มีหลักสูตรโตไปไม่ยอมให้ใครโกง ต่อยอดจากโตไปไม่โกง และบุคคลที่ชี้เป้าการโกงต้องได้รางวัลและการคุ้มครองอย่างเป็นธรรม รวมถึงส่งเสริมบทบาทสื่อกับงานวิจัยในการตรวจสอบ
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ส่วนการบังคับใช้กฎหมายให้มีประสิทธิภาพจะมีการสังคายนากฎหมาย ออก พ.ร.บ.ปราบโกง ยกเครื่อง ป.ป.ช. ในกระบวนการสืบสวนให้ชี้มูลภายใน 6 เดือน กรณียกคำร้องต้องเปิดเผยและถูกตรวจสอบ โดยจะมีการเปลี่ยนคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชุดนี้ด้วยการแก้กฎหมาย แม้ข้อเท็จจริงจะต้องแก้รัฐธรรมนูญแต่เป็นเรื่องยาก นอกจากนี้ จะเพิ่มบทบาทผู้ตรวจราชการให้มีอำนาจตรวจสอบภายในกระทรวง และการโยกย้ายข้าราชการไม่ใช่การทำโทษ รวมถึง กระจายอำนาจ ออกกฎหมายปรับการทำงานท้องถิ่นโดยเฉพาะ และปฏิรูปตำรวจให้กระบวนการสอบสวนมีความเป็นอิสระ และตรวจสอบตำรวจได้ง่ายขึ้น
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ประกาศด้วยว่า หากได้เป็นการนำจัดตั้งรัฐบาลจะให้ ส.ส. เปิดเผยธุรกิจของเครือญาติป้องกันผลประโยชน์ทับซ้อน และตรวจสอบการใช้สิทธิเดินทางตั๋วเครื่องบินฟรีของ ส.ส. เปิดเผยงบรับรองของรัฐมนตรี ยกเลิกสิทธิบางอย่าง เช่น รัฐมนตรีไม่จำเป็นต้องนั่งเครื่องบินโดยสารชั้นเฟิร์สคลาส และย้ำปัญหาทุจริตคอรัปชัน ไม่ใช่วาทกรรมอีกต่อไป แต่เป็นภัยร้ายที่จะนำไปสู่วงจรอุบาทว์ ที่สำคัญความรับผิดชอบทางการเมือง ต้องสูงกว่ามาตรฐานทางกฎหมาย หมดเวลาเกรงใจแล้ว.-สำนักข่าวไทย