ยโสธร 14 มี.ค.-“คุณหญิงสุดารัตน์” เตือนเจ้าหน้าที่ใช้อำนาจมิชอบคดี “วิสุทธิ์” ระวังโดนมาตรา 157 อัดผู้ตรวจการแผ่นดินตีความสถานะช่วย “พล.อ.ประยุทธ์” ถือเป็นตลกร้าย ไม่มีบรรทัดฐาน
คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่โรงเรียนยโสธรพิทยาคม อำเภอเมือง จังหวัดยโสธร พบปะประชาชน ช่วยนายปิยะวัฒน์ พันธ์สายเชื้อ ผู้สมัคร ส.ส. เขต 1 โดยมีชาวยโสธรมาต้อนรับแน่นอาคารเอนกประสงค์ 60 ปี ยโสธรพิทยาคม โดยคุณหญิงสุดารัตน์ได้ย้ำนโยบายของพรรคเพื่อไทยที่จะขจัดความยากจน ด้วยการทำให้สินค้าการเกษตรดีขึ้นใน 6 เดือน มีกองทุนสร้างงาน สร้างโอกาส และปราบปรามยาเสพติดที่ระบาดหนักในหลายพื้นที่อย่างจริงจัง จึงขอโอกาสทำงานด้วยการเลือกพรรคเพื่อไทยให้ชนะทุกพรรคและ 250 ส.ว.ด้วย
คุณหญิงสุดารัตน์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายวิสุทธ์ิ ไชยณรุณ ผู้สมัคร ส.ส.พะเยา พรรคเพื่อไทย ถูกดำเนินคดีข้อหาฉ้อโกงประชาชนและอายัดทรัพย์ 170 ล้านบาทว่า เรื่องที่เกิดขึ้น มองเป็นอย่างอื่นไม่ได้นอกจากการหวังผลเรื่องการเลือกตั้ง ซึ่งผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคเพื่อไทย ถูกกระทำในลักษณะนี้หลายพื้นที่ และพรรคจะดำเนินคดีกลับตามประมาลกฎหมายอาญามาตรา 157 เนื่องจากเป็นการเจตนาทำให้ประชาชนเกิดความเข้าใจผิดในตัวผู้สมัคร ขณะเดียวกันอยากฝากไปยังคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้ตรวจสอบเรื่องการใช้อำนาจรัฐกลั่นแกล้งและการซื้อเสียง
ส่วนกรณีที่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ตำหนิพรรคการเมืองที่กล่าวหาโจมตีและไม่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ทำให้นักลงทุนเกิดความไม่เชื่อมั่นนั้น คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า ผ่านมา 5 ปี รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้ทำให้เห็นว่าเศรษฐกิจของประเทศดีขึ้น และเป็นเรื่องปกติของการเมืองที่จะมีทั้งกลุ่มคนที่สนับสนุนและไม่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งประเด็นที่เกิดขึ้นมาจากการที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ประกาศจะไม่ร่วมงานกับ พล.อ.ประยุทธ์ ดังนั้นนายสมคิดและนายอภิสิทธิ์ควรไปพูดคุยทำความเข้าใจกัน และนายอภิสิทธิ์ควรตอบสังคมด้วยจะร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ เพราะจุดยืนของพรรคเพื่อไทยมีความชัดเจนอยู่เเล้วที่จะไม่ร่วมงานกับ พล.อ.ประยุทธ์และพรรคพลังประชารัฐ
“ส่วนตัวมีความเป็นห่วงการเลือกตั้งล่วงหน้าในวันที่ 17 มีนาคมนี้นี้จะเกิดความวุ่นวาย เนื่องจากมีผู้ขอใช้สิทธิเป็นจำนวนมากถึง 2.6 ล้านคน จึงอยากให้ กกต.ดำเนินการให้ดี รวมถึงการเก็บหีบบัตรและการนับคะแนนด้วย ทั้งนี้ในสัปดาห์หน้าที่ พล.อ.ประยุทธ์ มีกำหนดการลงพื้นที่ตรวจราชการที่ต่างจังหวัดเป็นเวลาหลายวัน อยากให้ พล.อ.ประยุทธ์ เลิกพฤติกรรมการเอาเปรียบพรรคการเมืองอื่น เนื่องจากการลงพื้นที่ถือเป็นการไปหาเสียง โดยนำเรื่องการตรวจราชการมาเป็นข้ออ้าง อีกทั้งระหว่างลงพื้นที่ยังมีผู้สมัครพรรคการเมืองที่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ติดตามไปด้วย” คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว
คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวอีกว่า ขณะที่ประเด็นสถานะของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่ผู้ตรวจการแผ่นดินระบุไม่ใช่เจ้าหน้าที่ของรัฐ ถือเป็นเรื่องตลกร้าย เพราะศาลฎีกาเคยมีคำวินิจฉัยว่าตำแหน่งหัวหน้า คสช.ถือเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ สามารถแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการได้ และหากมีการวินิจฉัยลักษณะนี้ ถือว่าไม่ต้องมีหลักการอะไรหรือไม่ต้องมีการเลือกตั้งก็ได้ หากยังคงมีการกระทำที่ฝืนความรู้สึกของประชาชน หวังเพียงแต่ได้อำนาจเข้ามาบริหารประเทศต่อ
คุณหญิงสุดารัตน์ ยังกล่าวถึงผลโพลหลายสำนักที่สำรวจพบประชาชนนิยมในตัวผู้สมัครพรรคเพื่อไทยเป็นอันดับหนึ่ง แต่สนับสนุนให้ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี ว่าพร้อมรับฟังความเห็นจากทุกโพล แต่จากการลงพื้นที่มีความมั่นใจในความนิยมของตนและพรรคเพื่อไทยที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ซึ่งตนตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่ในช่วงเวลาที่เหลืออยู่ แม้ว่าจะเเข่งขันในกติกาที่ไม่เป็นธรรมก็ตาม.-สำนักข่าวไทย